NVIDIA เปิดตัวแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ใหม่ Rubin Ultra พร้อมระบบ Kyber Racks ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI ระดับสูงสุดของโลก รองรับการใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ (LLM) งานจำลองเชิงวิทยาศาสตร์ และคลาวด์ AI ขั้นสูง โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้ถูกวางตัวให้เป็นรากฐานของศูนย์ข้อมูลยุคถัดไป และมีกำหนดเริ่มส่งมอบจริงในช่วงครึ่งหลังของปี 2027 หรืออีกกว่าสองปีข้างหน้า

พลังประมวลผลระดับ “Supercomputer in a Box”

Rubin Ultra ไม่ใช่แค่เซิร์ฟเวอร์ทั่วไป แต่ถูกออกแบบให้เป็น “AI Supercomputer in a Box” ที่ NVIDIA โฆษณาว่าจะให้พลังประมวลผลเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด รองรับโมเดล AI ที่ใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น และซับซ้อนยิ่งขึ้น การออกแบบนี้ช่วยให้ศูนย์ข้อมูล (Data Center) สามารถขยายขีดความสามารถของ AI ได้อย่างมหาศาล รองรับความต้องการที่เติบโตอย่างรวดเร็วในยุค AI

ขณะที่ Kyber Racks ถูกโปรโมตว่าเป็น “รากฐานแห่ง AI แห่งอนาคต” ออกแบบมาเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานระดับ Hyperscale และขยายขีดความสามารถไปถึงระดับ Exascale AI ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในงานซูเปอร์คอมพิวติ้งระดับสูง เช่น การจำลองสภาพอากาศโลก หรือการสร้าง Digital Twin ขนาดมหึมา

Rubin NVL144 racks ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 จะให้พลังประมวลผลสูงถึง 3.6 EFLOPS (Exa Floating Point Operations Per Second) สำหรับ FP4 inference (4-bit Floating Point) ซึ่งเป็นการคำนวณเลขทศนิยมแบบจุดลอยตัวในระดับ 101810^{18}1018 FLOPS หรือ หนึ่งล้านล้านล้านครั้งต่อวินาที

ขณะที่ Rubin Ultra NVL576 racks ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2027 จะก้าวกระโดดไปถึง 15 EFLOPS ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของ AI Data Center ไปอีกระดับ โดยมีอัตราส่วนพลังงานต่อประสิทธิภาพที่แน่นอนว่าโหดขึ้นตามไปด้วย

แต่ต้องแลกมากับการใช้พลังงานที่มหาศาล

เบื้องหลังพลังประมวลผลมหาศาลนี้ คืออัตราการใช้พลังงานที่น่าตกใจ 600kW ต่อแร็ก ซึ่งหมายความว่า แร็กเดียวใช้ไฟเทียบเท่ากับหมู่บ้านขนาดกลาง หรือแม้แต่เมืองเล็ก ๆ ได้เลย ถ้าศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มีหลายสิบแร็ก ก็สามารถใช้พลังงานได้ระดับโรงไฟฟ้าทั้งโรง ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง Blackwell B200 จะกินไฟอยู่ที่ 120kW ต่อแร็ก หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่าเลยทีเดียว

เพื่อให้ Rubin Ultra และ Kyber Racks ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ศูนย์ข้อมูลต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและระบบระบายความร้อนที่ล้ำสมัย ซึ่งอาจทำให้การตั้งศูนย์ข้อมูลใหม่ต้องพิจารณาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมหนักขึ้นกว่าเดิม

อนาคตของ AI จะเป็นอย่างไรต่อไป?

แม้ว่า NVIDIA จะยืนยันว่า Rubin Ultra และ Kyber Racks เป็นก้าวสำคัญของ AI Infrastructure แต่ก็มีคำถามว่าโลกจะรับภาระพลังงานของมันได้แค่ไหน การพัฒนา AI อาจเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วย การใช้พลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจเห็นสองกระแสที่แตกต่างกัน

  1. ศูนย์ข้อมูลที่ทรงพลังขึ้น – โมเดล AI จะใหญ่ขึ้น ฉลาดขึ้น และสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างเหลือเชื่อ ตั้งแต่ สร้างภาพยนตร์แบบเรียลไทม์ ไปจนถึง การวิจัยยาแบบจำลองโมเลกุลที่แม่นยำสูง
  2. ความท้าทายด้านพลังงาน – การใช้พลังงานระดับนี้อาจทำให้เกิดข้อจำกัดใหม่ ๆ เช่น ศูนย์ข้อมูลต้องย้ายไปใกล้แหล่งพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น หรืออาจต้องใช้เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานรูปแบบใหม่

สุดท้ายแล้ว Rubin Ultra และ Kyber Racks อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ AI Infrastructure แห่งอนาคต ที่จะเปลี่ยนวิธีที่โลกใช้ AI ไปอย่างสิ้นเชิง

ที่มา : tomshardware