OnePlus 13 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ ในฐานะมือถือเรือธงกลุ่มแรกของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 8 Elite พร้อมซีพียู Oryon สุดทรงพลัง การันตีด้วยคะแนน AnTuTu ทะลุ 3,180,000 แต้ม เป็นครั้งแรกของค่าย พร้อมส่งมอบประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม ด้วยจุดเด่น 5 ประการ คือ จอภาพ การถ่ายภาพ การเล่นเกม ความลื่นไหล และแบตเตอรี่

OnePlus 13 มากับจอภาพ OLED ระดับท็อปคลาสของตลาด มีชิปควบคุมหน้าจอแยก Display P2 การันตีด้วยคะแนนระดับ A++ โดย DisplayMate มีความสม่ำเสมอของสีโดยรวมสูงขึ้น 42% ความสม่ำเสมอของความสว่างสูงขึ้น 26% ทำความสว่างสูงสุดได้ถึง 4500 นิต ในโหมด HDR พร้อมอัปเกรดเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใหม่ จากชนิดออปติคัลเป็นอัลตราโซนิกสามมิติ ปลดล็อกไวขึ้น แม่นยำขึ้น และยังคงสแกนได้แม้หน้าจอเปียก หรือเปื้อนคราบมัน – คราบสกปรก

ชุดกล้อง OnePlus 13 ร่วมพัฒนากับ Hasselblad ตามเดิม กล้องหลัง 3 ตัว มีความละเอียด 50MP เท่ากันทั้งหมด ประกอบด้วย กล้องหลักเซนเซอร์ LYT-808 ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว กล้องอัลตราไวด์ 120 องศา รองรับการถ่ายภาพมาโครในตัว และกล้องเทเลโฟโตแบบปริทรรศน์ (periscope) ที่ได้รับการออกแบบปริซึมสะท้อนภาพมาใหม่ ส่งผลให้โครงสร้างมีขนาดเล็กลง 33% โดยที่คุณภาพยังคงจัดเต็ม

OnePlus 13 รองรับอัลกอริทึมการถ่ายภาพ Hasselblad Master แบบเดียวกับเรือธงของ OPPO พร้อมฟีเจอร์ช่วยขยายภาพ แก้ไขภาพเบลอ และตัดเงาสะท้อนในภาพ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของปัญญาประดิษฐ์

OnePlus บอกว่า การจับคู่ Snapdragon 8 Elite กับ ColorOS 15 ช่วยให้ OnePlus 13 มีความลื่นไหลโดยรวม ความเร็วการตอบสนอง และความเสถียรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แถมชิปยังประหยัดพลังงานกว่าเดิม 40% เป็นรุ่นแรกที่รองรับการเรนเดอร์แอนิเมชันระบบแบบคู่ขนาน และรองรับการส่งไฟล์ข้ามค่ายกับ iPhone ในลักษณะ AirDrop อันเป็นความสามารถส่วนหนึ่งที่พ่วงมากับ ColorOS 15

ในแง่การเล่นเกม OnePlus 13 มาพร้อมระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 9,925 ตร.มม. กระจายความร้อนดีขึ้น 124% ลดอุณหภูมิขณะเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ได้มากสุดถึง 6 องศาเซลเซียส เพิ่มอรรถรสด้วยมอเตอร์สั่น 4D แบบใหม่ ขนาดใหญ่สุดในอุตสาหกรรมมือถือ ตอบสนองได้แม่นยำและนุ่มนวลที่สุดที่เคยมีมา

การปรับปรุงส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh พร้อมชาร์จไว 100W ชาร์จไร้สาย 50W ด้วยแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก รวมถึงรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ และตัวเครื่องผ่านคุณสมบัติทนน้ำทนฝุ่นทั้ง IP68 และ IP69 โดยมีความสามารถในการทนน้ำร้อน ทนฟอง และทนการล้าง เพิ่มเข้ามา

สเปค OnePlus 13

  • จอภาพ OLED ขนาด 6.82 นิ้ว
    • ความละเอียด QHD+
    • อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
    • ความสว่างทั่วไป 800 นิต
    • ความสว่างกลางแจ้ง 1600 นิต
    • ความสว่างสูงสุด 4500 นิต
    • ความลึกสี 10-bit
    • ขอบเขตสี DCI-P3
  • ชิปเซต Snapdragon 8 Elite
  • หน่วยความจำ 12GB / 16GB / 24GB (LPDDR5x)
  • สตอเรจ 256GB / 512GB / 1TB (UFS 4.0)
  • กล้องหลัง
    • กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.6), ขนาด 1/1.4 นิ้ว, กันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 50MP (𝑓/2.0), มุมกว้าง 120 องศา, โฟกัสใกล้สุด 3.5 ซม.
    • กล้องเทเลแบบปริทรรศน์ 50MP (𝑓/2.6), ขนาด 1/1.95, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ซูมดิจิทัล 120 เท่า, กันสั่น OIS
    • แฟลชทูโทน
    • เซนเซอร์จับการกะพริบ
  • กล้องหน้า 32MP (𝑓/2.4)
  • ลำโพงสเตอรีโอ
  • เครือข่าย 5G
  • การเชื่อมต่อ
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
    • USB 3.2 Gen 1
  • แบตเตอรี่ 6000mAh
    • ชาร์จไว 100W
    • ชาร์จไร้สาย 50W
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (อัลตราโซนิก)
  • ทนน้ำทนฝุ่น IP68 / 69
  • ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15
  • ขนาด 162.9 x 76.5 x 8.5 มม.
  • น้ำหนัก 210 – 213 กรัม (ขึ้นอยู่กับสีตัวเครื่อง)

ราคาและการจำหน่าย

ตอนนี้ OnePlus 13 เริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในจีน ตัวเลือกสูงสุดคือ แรม 24GB ความจุ 1TB สนนราคาเริ่มต้น 4,499 หยวน หรือประมาณ 21,400 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบต่อไปในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ส่วนเวอร์ชันตลาดนานาชาติ รอการประกาศในภายหลัง

ดูข้อมูลเพิ่มเติม : OnePlus