OnePlus Nord N200 5G ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว มากับจุดเด่นหน้าจอขนาด 6.49 นิ้ว FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz, ชิปรุ่นใหม่ Snapdragon 480G, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP และแบตเตอรี่อึด ๆ อีก 5000 mAh โดยจะเริ่มเปิด Pre-order ในสหรัฐอเมริกาวันที่ 25 มิถุนายนนี้ มีราคาอยู่ที่ 249.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,500 บาทเท่านั้น
OnePlus Nord N200 5G เรียกว่าเป็นมือถือ 5G ที่มีสเปค + ราคาที่น่าสนใจเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมรีเฟรชเรท 90Hz เพิ่มความลื่นไหล และใช้ดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับวางกล้องเซลฟี่ 16MP เพื่อเพิ่มอัตราส่วนของจอต่อตัวเครื่องให้มากขึ้น
ใช้ชิป Snapdragon 480G รุ่นใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี ซึ่งแม้ว่ามันจะเป็นชิปสำหรับมือถือราคาประหยัด แต่ก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะใช้งานทั่วไปได้สบาย ๆ รวมถึงการเล่นเกมกราฟิก 3D ด้วย แถมยังรองรับการใช้งาน 5G ได้ในราคาเบา ๆ อีกต่างหาก
กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก – กล้องหลัก 13MP (f/2.2) มีระบบกันสั่นแบบ EIS เพิ่มความนิ่งให้กับการถ่ายวิดีโอ + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4) + กล้อง Monochrome ความละเอียด 2MP (f/2.4) และกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16MP
แบตเตอรี่ให้มาแบบจุใจที่ 5000 mAh ชาร์จเต็มทีเดียวใช้งานได้สบาย ๆ แบบข้ามวันข้ามคืน ส่วนระบบชาร์จให้มาที่ 18W แม้ว่าจะไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดเหมือนกับมือถือรุ่นสูงกว่านี้ แต่ก็ชาร์จจนเต็มได้ในเวลาไม่นานนัก
สเปค OnePlus Nord N200 5G
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
- CPU : Snapdragon 480G
- GPU : Adreno 619
- RAM (LPDDR4x) : 4GB
- ความจุ (UFS2.1) : 64GB รองรับ microSD card 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 13MP (f/2.2), กันสั่น EIS
– กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4)
– กล้อง Monochrome ความละเอียด 2MP (f/2.4) - กล้องหน้า : 16MP (f/2.05)
- การเชื่อมต่อ : WiFi 2.4G/5G 802.11 a/b/g/n/ac, BT 5.1, NFC
- เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), Accelerometer, E-Compass, Gyroscope, Ambient Light, Proximity, Barometer, SAR
- มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 18W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย OxygenOS
- ขนาด / น้ำหนัก : 163.1 x 74.9 x 8.3 มม. / 189 กรัม
OnePlus Nord N200 5G จะเปิด Pre-order ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มีราคาอยู่ที่ 249.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,500 บาท ส่วนจะเข้ามาบ้านเราด้วยหรือไม่…ต้องรอติดตามกันครับ
ที่มา : Phonearena
ขึ้นชื่อว่า one plus ไม่น่าจะใช้ SOC ต่ำกว่าเลข 7 สิ