หลังจากเปิดตัวไปเมื่อคืนก่อนสำหรับ OnePlus Nord ที่บอกเลยว่ารอบนี้อัดสเปคมาแบบน่าสนใจมากๆ ทั้งหน้าจอ 90Hz, RAM 12GB, กล้องหลัง 4 ตัว และระบบชาร์จไว ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่หมื่นนิดๆ เท่านั้น ว่าแต่..หากเอาเจ้า OnePlus Nord ไปเทียบสเปคแบบตัวต่อตัวกับ iPhone SE 2 จาก Apple หรือมือถือ Android ที่ราคาใกล้ๆ กันอย่าง Galaxy A71 5G เนี่ย จะมีอะไรที่แตกต่างกันแค่ไหน หรือรุ่นไหนจะคุ้มค่าต่อการเสียเงินมากกว่ากัน?

ตารางเปรียบเทียบสเปค OnePlus Nord กับ iPhone SE 2 และ Galaxy A71 5G

OnePlus NordGalaxy A71 5GiPhone SE 2
หน้าจอFluid AMOLED 6.44″ FHD+ 90HzsAMOLED 6.7″ FHD+ 60HzRetina IPS LCD 4.7″ HD
ชิปเซ็ตSnapdragon 765GExynos 980Apple A13 Bionic
RAM6GB/8GB/12GB6GB/8GB3GB
ความจุ64GB/128GB/256GB128GB (รองรับ microSD Card)64GB/128GB/256GB
กล้องหลังWide: 48MP f/1.8 PDAF OIS

Ultra-Wide: 8MP f/2.3 FoV 119 องศา

Depth: 5MP f/2.4

Macro: 2MP f/2.4

Wide: 64MP f/1.8 PDAF

Ultra-Wide: 12MP f/2.2

Macro: 5MP f/2.4

Depth: 2MP f/2.2

12MP f/1.8 PDAF, OIS
กล้องหน้าWide: 32MP f/2.5 

Ultra-Wide: 8MP f/2.5

32MP f/2.27MP f/2.2 EIS
การถ่ายวิดีโอ 4K 30FPS4K 30FPS4K 60FPS
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอใต้หน้าจอTouch ID
5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot/ Bluetooth 5.1, A2DP, LE, aptX HDWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot/ Bluetooth 5.0, A2DP, LE
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, hotspot/ Bluetooth 5.0, A2DP, LE
WiFi 6ไม่รองรับไม่รองรับรองรับ
ระบบเสียงลำโพงเดี่ยว, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.ลำโพงเดี่ยว, รูหูฟัง 3.5 มม.ลำโพงสเตอริโอคู่, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่4115 mAh4500 mAh1821 mAh
ระบบชาร์จไวWarp Charge 30TFast Charging 25WFast Charging 18W
ระบบชาร์จไร้สายไม่รองรับไม่รองรับรองรับ
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นไม่รองรับไม่รองรับIP67

 

หน้าจอ

หากพูดถึงเรื่องหน้าจอ ดูเหมือนว่า OnePlus Nord จะเป็นต่อทั้ง Galaxy A71 5G และ iPhone SE 2 อยู่หน่อยๆ เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับค่ารีเฟรชเรท 90Hz ตรงนี้ใครที่ไม่เคยจับมือถือจอรีเฟรชเรทสูงๆ มาก่อน ต้องบอกเลยว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ ถ้าจะพูดให้เห็นภาพที่สุดก็คงต้องบอกว่า ถ้าได้เล่นจอ 90Hz แล้ว กลับไปเล่นมือถือจอปกติ มีหงุดหงิดแน่นอน

ประสิทธิภาพการใช้งาน

ทั้ง OnePlus Nord และ Galaxy A71 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับกลางอย่าง Snapdragon 765G และ Exynos 980 ตามลำดับ แถมยังรองรับการใช้งาน 5G ทั้งคู่อีกด้วย ทว่า.. iPhone SE 2 ได้เปรียบสุดๆ เพราะได้ชิประดับท็อปตัวแรงอย่าง Apple A13 Bionic มาให้ ซึ่งเป็นชิปรุ่นเดียวกับที่ใช้ในซีรีส์เรือธงปีที่แล้วอย่าง iPhone 11 ซึ่งเอาจริงๆ หากไม่ได้เอามาเล่นเกมแบบโหดๆ ปรับกราฟิกสุดๆ ใช้ชิประดับกลางๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ใครอยากสุดจริงๆ ในส่วนนี้บอกได้เลยว่าถ้าเรื่องความแรง iPhone SE 2 ชนะขาด

นอกจากนี้เรื่องความไวในการเปิด-ปิดแอป หรืออ่าน-เขียนข้อมูลอื่นๆ ตรงนี้ต้องบอกว่า iPhone SE 2 กินขาดอีกแล้ว เพราะหน่วยความจำแบบ NVMe นั้น ประสิทธิภาพแรงกว่า UFS 2.1 ที่อยู่บน OnePlus Nord และ Galaxy A71 5G แบบเห็นได้ชัดเลย

กล้องถ่ายภาพ

ถ้าพูดกันเรื่องกล้องถ่ายภาพ ก็บอกเลยว่า OnePlus Nord นั้น ไม่ได้เป็นสองรองใครเลย ด้วยกล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว เท่ากับ Galaxy A71 5G (แต่จะด้อยกว่าเรื่องสเปคความละเอียดนิดหน่อย) ส่วน iPhone SE 2 ดูเหมือนจะด้อยที่สุด เพราะใส่กล้องหลังมาให้เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น แต่เรื่องการถ่ายวิดีโอ iPhone SE 2 ถือว่าอัดได้ความละเอียดสูงสุดถึง 4K@60FPS ขณะที่ตัว OnePlus Nord และ Galaxy A71 5G ถ่าย 4K ได้เหมือนกัน แต่แค่ 30FPS เท่านั้น

ขณะที่กล้องหน้า OnePlus Nord จะมีภาษีดีกว่าทั้ง Galaxy A71 5G และ iPhone SE 2 อย่างชัดเจน เพราะมีกล้องเซลฟี่ถึง 2 ตัว มีทั้งเลนส์ Wide 32MP และเลนส์ Ultra-Wide 8MP รับรองว่าถ่าย Group Shots แบบไม่ทิ้งเพื่อนคนไหนเอาไว้ข้างหลังแน่นอน ส่วนการถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอก็เนียนเป็นธรรมชาติกว่า แถมยังถ่ายวิดีโอได้แบบ 4K @60FPS ด้วย

มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น

ในบรรดามือถือ 3 รุ่นที่เอามาเปรียบเทียบสเปคครั้งนี้ จะมีเพียงแค่ iPhone SE 2 เท่านั้น ที่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 มาให้ นั่นแปลว่าหากเกิดอุบัติเหตุพลาดทำมือถือตกส้วม หรือตกน้ำ iPhone SE 2 ก็จะมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตรอดมากกว่า OnePlus Nord และ Galaxy A71 5G นั่นเอง

ทว่า..ในส่วนนี้ทาง OnePlus เคยออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาได้มีการทดสอบมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นของพวกเขาเองในบริษัท แต่ทั้งนี้ ส่วนตัวก็ไม่แนะนำให้ไปลองของนะครับ เพราะเราไม่รู้เลยว่าน้ำมันจะเข้าไปเมื่อไหร่

แบตเตอรี่

OnePlus Nord มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4115 มิลลิแอมป์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขกลางๆ ไม่มากไม่น้อย ถ้าพิจารณาจากสเปค ก็คาดว่าเจ้า OnePlus Nord น่าจะอยู่ได้ครบวันแบบสบายๆ (หรือถ้าใครไม่ค่อยได้เล่นก็น่าจะมีลากได้เกิน 1 วัน) เปิด Spotify ฟังเพลง ดู Netflix/YouTube แบบเพลินๆ แต่ถ้าใครอยากได้แบตที่อึดกว่านี้ ก็น่าจะต้องไปมอง Galaxy A71 5G เพราะเจ้านั้นให้แบตมามากถึง 4500 มิลลิแอมป์เลยทีเดียว

ส่วน iPhone SE 2 นี้เรื่องแบตถือว่าเป็นจุดด้อยเลยก็ว่าได้ เพราะจากที่พี่กิมของเราได้ลองทดสอบใช้งานเจ้าเครื่องนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ..ดีหมดทุกอย่าง ยกเว้นแบต ชนิดที่ว่าต้องพกพาวเวอร์แบงค์ออกนอกบ้านไปด้วย ไม่งั้น iPhone SE 2 ตายกลางทางไม่รอดเข้าฝั่งแน่นอน

Play video

ขณะที่เรื่องระบบชาร์จไว OnePlus Nord ก็น่าจะไม่เป็นรองสองใครอีกเช่นเคย เพราะมากับ Warp Charge 30T ที่เสียบชาร์จทิ้งไว้แค่ประมาณ 30 นาที ก็ได้แบตมาใช้งานแบบเพลินๆ แล้วประมาณ 70% แต่ตรงนี้ทาง Galaxy A71 5G ก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากันซักเท่าไหร่นะ เพราะรองรับระบบ Fast Charging 25W เหมือนกัน ส่วนที่ดูน่าเป็นห่วงก็คือ iPhone SE 2 นี่แหละ ที่รองรับชาร์จไวช้ากว่าชาวบ้านอยู่ที่ 18W เท่านั้น แถมในกล่องยังแถมที่ชาร์จแบบ 5W มาให้อีกต่างหาก

 

สรุป

มาถึงตรงนี้ หลายคนก็น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่าเมื่อนำ OnePlus Nord มีประสิทธิภาพเป็นยังไงบ้าง ไปเทียบกับ Galaxy A71 5G และ iPhone SE 2 แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ ผมก็สรุปมาสั้นๆ ดังนี้แล้วครับ

  • OnePlus Nord: จอรีเฟรชเรท 90Hz, รองรับ 5G, กล้องหน้าคู่, กล้องหลัง 4 ตัว, ระบบชาร์จไว 30W และราคาจับต้องได้
  • Galaxy A71 5G: จอใหญ่สุด 6.7 นิ้ว, รองรับ 5G, กล้องหลัง 4 ตัว, แบตใหญ่ และศูนย์บริการเยอะ
  • iPhone SE 2: ระบบปฏิบัติการ iOS, ชิป Apple A13 Bionic ตัวแรง, กันน้ำกันฝุ่น IP67 และเป็น iPhone ที่ราคาเริ่มต้นถูกที่สุด

แต่บอกเลยว่า จะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนแต่ละที ดูสเปคอย่างเดียวมันก็เป็นไปไม่ได้ ทางที่ดีคือต้องไปจับตัวเครื่องจริงๆ ดูงานประกอบ ดูฟิลลิ่งการใช้งานก่อน เพราะตรงนี้ส่วนตัวมองว่ามีผลเหมือนกัน ต่อให้สเปคดีแค่ไหน แต่ถ้าจับแล้วไม่ถูกชะตา มันก็เท่านั้น..