เมื่อวานนี้ที่รัฐสภามีการแถลงข่าวงาน Open Parliament Hackathon 2024 เปิดข้อมูลภายในแบบ Open data ของสำนักงาน มาให้ประชาชนเข้าถึงได้เป็นครั้งแรก และเชิญผู้สนใจทุกสาขามาร่วมสอดส่องดูข้อมูล พร้อมเสนอไอเดียด้านเทคโนโลยีต่อรัฐสภาไทย ในรูปแบบ Hackathon ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนอย่างเราๆ จะสามารถค้างคืนในรัฐสภาไทยกันได้ด้วย

Hackathon คืออะไร เราร่วมด้วยได้รึเปล่า

Hackathon เกิดจากการนำเอาคำว่า Hack + Marathon มารวมกัน แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเราจะต้องมีความสามารถในการเขียนโปรแกรม แฮกระบบเป็นเท่านั้น เพราะตัวแฮกในที่นี้จะหมายถึงการทางลัด การแก้ปัญหาซะมากกว่า เมื่อรวมกับมาราธอน ก็เรียกได้ว่าเป็นการมารวมตัวกันช่วยแก้ปัญหา แบบด่วนๆถึกๆ ไม่มีหยุดหย่อน โดยมากจะใช้เวลา 24-48 ชั่วโมงแบบนอนสต๊อป ทำกันแบบไม่มีพักผ่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเร็วที่สุด (จึงทำให้เราจะได้ค้างคืนที่รัฐสภากัน)

แรกเริ่มเป็นศัพท์ที่ถูกใช้ในวงการไอที แต่หลังๆมาถูกปรับไปใช้อย่างกว้างขวางขึ้น อย่างในกรณีนี้คือ มาร่วมด้วยช่วยกันส่องข้อมูลของสำนักงานรัฐสภา และออกไอเดียว่าเราอยากจะทำให้เกิดบริการจากข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมาบ้าง ซึ่งเค้าเปิดรับสมัครคนหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา นักออกแบบ หรือใครก็ตามที่สนใจ และพอมีความรู้ทางด้านไอทีอยู่ก็สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้

โดยงานจะจัดขึ้น 2 วัน 6-7 สิงหาคมนี้ ถ้าใครสนใจอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเข้าร่วม ต้องสมัครผ่านการ กรอกฟอร์มลิงก์นี้ ภายในวันนี้ (31 ก.ค.) ก่อนเที่ยงคืน

ข้อมูลน่ารู้-ส่วนเสริมเกี่ยวกับโครงการนี้

  • สถานที่ที่สส. สว. (รัฐสภา) ประชุมอภิปรายกันเรียกว่า อาคารรัฐสภา
  • ในอาคารรัฐสภานี้ มีสนง.เลขาธิการสภาฯ ที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายธุรการให้แก่สภาฯ หลายครั้งก็จะโดนเรียกรวมๆว่าเป็นรัฐสภาไปด้วย
  • สนง. เลขาธิการสภาฯ นี้มีงบประมาณประจำปีราว 5-6 พันล้านบาท (ก็ภาษีพวกเรานั่นแหละ)
  • มีข้าราชการ คนทำงานในสนง.นี้ มากกว่า 4 พันคน ทำงานแบ่งเป็น 23 สำนัก 3 กลุ่มงาน 1 กลุ่ม
  • หลังจากมีการตรวจสอบโครงการต่างๆภายในสนง. พบความผิดปกติ ใช้ภาษีไปแบบไม่เมกเซนส์อยู่ไม่น้อย
  • ในงบปี 2566 มีมติยกเลิกโครงการไปกว่า 300 ล้านบาท ประหยัดภาษีไปได้เยอะ
  • โครงการ Open Parliament Hackathon จะเปิดข้อมูลของสนง. ให้คนเข้าถึงได้
  • ข้อมูลประกอบไปด้วยข้อมูล 4 แกน คือ
    • กระบวนการในสภา สถานะการพิจารณากฎหมาย ผลการลงมติต่างๆ
    • รายงานการประชุมสภา มีพูดคุยอภิปรายอะไรกันไปบ้าง (ตั้งแต่เปลี่ยนการปกครอง 2475)
    • คลังความรู้สภา เอกสารทางวิชาการ รายงานกรรมาธิการ
    • งบประมาณ ร่างพ.ร.บ. และเอกสารงบประมาณ
  • แต่ละแกนถูกแปลงเป็นข้อมูลดิจิทัลแล้ว สามารถนำมาใช้ต่อได้สะดวกขึ้นมาก
  • การเปิดข้อมูลอย่างเดียวจะยังไม่เกิดประโยชน์เท่าไหร่ เพราะเป็นข้อมูลดิบขาดการตีความและนำไปใช้
  • โครงการ Open Paliament Hackathon จึงขอชวนคนที่สนใจ ไม่ว่าจะอาชีพไหน (ไม่ต้องเป็น dev หรือ data analyst ก็ได้)
  • ขอแค่มีความรู้ความสามารถ มาเข้ารับฟังและเสนอไอเดียการเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานกันดู
แกนของข้อมูลที่ถูกนำมาเผยแพร่ แต่ละส่วนมีข้อมูลมากน้อยขนาดไหน
โครงการที่ถูกยกเลิกไม่ให้ทำ และประหยัดงบประมาณไปได้มากกว่า 300 ล้านบาท

ตัวอย่างไอเดีย สิ่งที่น่าทำกับข้อมูลเปิดของรัฐสภาไทย

  • ระบบตรวจสอบรัฐสภาใช้จ่ายไปเท่าไหร่ (ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ฯลฯ) แล้วได้กฎหมายกี่ฉบับ
  • ติดตามบันทึกการประชุมสภาย้อนหลังมาวิเคราะห์ข้อความ ทำ word cloud ดูว่ารัฐสภาไทยพูดเรื่องอะไรกันบ่อยที่สุด
  • เก็บ digital footprint ของสภาฯ ว่าใคร พรรคไหน พูดเรื่องอะไรบ้าง
  • ตรวจสอบเอกสารงบประมาณมาประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดคอร์รัปชัน
  • สร้าง AI มาให้ประชาชนถาม และตอบด้วยข้อมูลที่ถูกต้องได้ทุกเรื่อง
ดูหัวข้อที่ถูกนำมาพูดในสภา ว่ามีการพูดถึงเรื่องนั้นๆ มานานขนาดไหนแล้ว
ถอดคำพูดของสส. ว่าใครเคยพูดอะไรในสภาเอาไว้ เมื่อไหร่ อย่างไร พิมพ์ค้นหาได้ง่ายๆ

สิ่งที่ได้รับ นอกเหนือจากความโปร่งใส

เมื่อการใช้งบประมาณถูกใช้อย่างถูกต้อง ไม่มีการฮั้วประมูล ล็อคสเปคใดๆ ก็จะเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยที่มีความสามารถ เข้ามาแข่งขัน สร้างสรรค์งานคุณภาพ และเติบโตได้จากภาษีของคนไทย ไม่ใช่งานทั้งหมดตกไปอยู่กับขาประจำ ซึ่งทีม OPH ได้มีการพาร์ทเนอร์กับ DEPA ที่รวมรายชื่อบริษัทไทยที่ให้บริการด้านดิจิทัล และสมาคม Thai Startup มารอรองรับงานต่อไป

เมื่อรัฐสภามีความโปร่งใสในการใช้จ่าย ก็จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่โดดเด่นกว่าหน่วยงานอื่นมาก จนน่าจะส่งแรงกระเพื่อมกดดันไปยังหน่วยงานต่างๆให้ต้องมีการเปิดข้อมูล สามารถตรวจสอบให้มีความโปร่งใสเช่นเดียวกันได้

โครงการจะทำให้เกิดขึ้นจริงได้เมื่อไหร่? จะถูกยกเลิกหรือไม่?

การผลักดัน Open Parliament นี้ ทางทีมจัดทำมองว่าเป็นโครงการที่ทำในระยะยาว อย่างน้อยปี 2570 กว่าจะเริ่มเห็นผล และเมื่อโครงการเดินหน้าเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีการยกเลิกการเปิดเผยข้อมูลนี้ รวมถึงงานนี้ก็เป็นวาระร่วมของสภามากกว่าจะเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสต่อการใช้เงินสาธารณะ ที่ก็ควรจะสามารถให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้ด้วยเช่นกัน