รีวิว OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3X สองมือถือที่ราคาไม่ถึงหมื่น แต่ได้สเปคครบ ทั้งคู่มาพร้อมจอใหญ่ 6.67 นิ้ว รุ่น 5G รีเฟชรเรทลื่นไหลสูงสุด 120Hz สว่างสูงสุด 1,000 นิต พร้อมชูจุดเด่นในเรื่องของความทนแรงกระแทกระดับทหาร กันน้ำรอบด้าน แบตเตอรี่ให้มาเยอะ 5,100 mAh ใช้งานได้นานทั้งวันแบบไม่ต้องชาร์จเพิ่ม

รีวิว OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3X

มาที่ OPPO A3 Pro 5G กันก่อน ซึ่งเครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นสี Moonlight Purple เป็นสีม่วงพาสเทลที่มีกิมมิคเข้ามาให้ดูไม่ธรรมดา เมื่อดูใกล้ ๆ เครื่องจะเห็นได้ว่ามีกลิตเตอร์ระยิบระยับทั่วฝาหลังของตัวเครื่อง ยิ่งตอนที่ถือออกไปโดนแสงแดดด้านนอกคือเล่นแสงสุด ๆ อีกทั้งยังมีลายตัว S พาดผ่านกลางเครื่องให้ดูมีลูกเล่น มาพร้อมโมดูลกล้องขนาดใหญ่ ทรงสี่เหลี่ยม โดดเด่น

ส่วน OPPO A3X ที่เราได้มาจะเป็นสีม่วงสวย ขอบเครื่องเหลี่ยมคม ดีไซน์มีความคล้าย ๆ กับรุ่นพี่อย่าง OPPO A3 Pro 5G ฝาหลังเรียบ พื้นผิวแบบแมท มีความเล่นกับแสงได้ดี คือถ้ากระทบแสงจะสีออกมาแดงอีกเฉดนึง ถ้าอยู่ในที่ร่มก็จะเป็นสีแดงแบบเข้ม ๆ เหมือนสีของไวน์ ข้อดีของพื้นผิวลักษณะนี้เลยก็คือ ใช้งานแบบไม่ใส่เคสก็ไม่เป็นรอยนิ้วมือแล้วต้องมาคอยเช็ดออก

จอใหญ่ ไม่ต้องเพ่ง

ทั้งคู่ได้มีจอ IPS LCD ขนาดเท่ากันอยู่ที่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1604 × 720 px) ความสว่าง 1,000 นิต แต่จะต่างกันตรงที่ รุ่น Pro จะมีอัตรารีเฟรชเรทลื่นกว่าอยู่ที่ 120Hz ส่วนรุ่นธรรมดาจะอยู่ที่ 90Hz จากการได้ลองนำออกไปใช้งานข้างนอกตอนช่วงเย็น ๆ ความสว่างสู้แดดของหน้าจอคือพอใช้ได้ ใช้งานในร่มปกติดีไม่มีปัญหาอะไร ส่วนในการดูซีรีส์ก็คือฟินดี ไม่ติด เพราะหน้าจอมีขนาดใหญ่พอที่ทำให้ไม่ต้องเพ่งสายตาเลย

เครื่องทนระดับทางการทหาร

อีกหนึ่งจุดเด่นของคู่หูคู่นี้เลยก็คือความทนของตัวเครื่อง ที่ได้รับการการันตีด้วยการรับรองความทนต่อการกระแทกตามมาตรฐาน SGS 5 ดาว รุ่น Pro จะเป็น MIL-STD 810H-516.8 ส่วนรุ่นธรรมดาจะเป็น MIL-STD 810H และที่ชอบคือเรื่องการกันน้ำที่รุ่น Pro จะมีมาตรฐานกันน้ำ IP54 ส่วนรุ่นเล็กนี่สิ สามารถกันของเหลวได้หลายรูปแบบเลย หมายความว่าจะทำตกลงไปในน้ำซุป น้ำแกงก็ยังใช้งานต่อได้ (ให้เป็นแค่อุบัติเหตุพอนะ อย่าหาลองล่ะ)

ลำโพงเดี่ยว แต่เสียงดังสะใจ

ถึงแม้ว่าทั้ง OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3X จะมีลำโพงมาให้แค่อันเดียว แต่ว่าเค้าก็มีโหมด Ultra Volume มาให้ สามารถเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้นได้ 300% ซึ่งเมื่อเปิดดังสุดก็คือได้เสียงดังฟังชัดตามที่เคลมเลย แต่ว่าโทนเสียงที่ได้คือจะออกไปทางเสียงสูงและเสียงแหลม ยังไม่ถึงขั้นเสียงเบสแน่นจัด ๆ ขนาดนั้น แต่ว่าดูหนังเล่นเกมก็สะใจใช้ได้

สเปค OPPO A3 Pro 5G

  • จอภาพ : IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด HD+ (1604 × 720 px)
    • สว่างสูงสุด 1,000 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
  • ชิปเซต : Dimensity 6300
  • RAM LPDDR4x: 6GB / 8GB
  • ROM UFS 2.2: 128GB / 256GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
    • กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
  • ระบบเสียง : ลำโพงเดี่ยว
    • รองรับ Ultra Volume Mode 300%
  • แบตเตอรี่ : 5,100 mAh
    • รองรับชาร์จไว 45W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 5
    • Bluetooth 5.3
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB-C 2.0
    • ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
    • ซิม : Dual SIM
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง, accelerometer, gyro, proximity
  • ความทนทาน
    • ทนกระแทกมาตรฐาน SGS 5 ดาว
    • MIL-STD 810H-516.8
    • IP54
  • ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.0.1 ครอบทับบน Android 14
  • ขนาด : 165.79 x 76.14 x 7.68 มม.
  • น้ำหนัก: 186 กรัม

สเปค OPPO A3x

  • จอภาพ : IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด HD+ (1604 × 720 px)
    • สว่างสูงสุด 1,000 นิต
    • อัตรารีเฟรช 90Hz
  • ชิปเซต : Snapdragon 6s 4G Gen1
  • RAM LPDDR4x: 4GB / 6GB
  • ROM : 64GB/ 128GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 8MP (f/2) มีเซนเซอร์การสั่น
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2)
  • ระบบเสียง : ลำโพงเดี่ยว
    • รองรับ โหมด Ultra Volume เพิ่มเสียง 300%
  • แบตเตอรี่ : 5,100 mAh
    • รองรับชาร์จไว 45W
  • การเชื่อมต่อ
    • 4G
    • Wi-Fi 5
    • Bluetooth 5.0
  • พอร์ต
    • USB-C
    • ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
    • ซิม : Dual SIM
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง,Geomagnetic sensor, Front/back ambient light sensor, Proximity sensor, Accelerometer, Gravity sensor, Pedometer
  • ความทนทาน
    • ทนกระแทกมาตรฐาน SGS 5 ดาว
    • MIL-STD 810H
    • ทนของเหลวหลายรูปแบบ
  • ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.0 ครอบทับบน Android 14
  • ขนาด : 165.77 x 76.08 x 7.68 มม.
  • น้ำหนัก: 186 กรัม

ประสิทธิภาพชิป

มาที่รุ่นพี่กันก่อน โดย OPPO A3 Pro 5G จะใช้เป็นชิป Dimensity 6300 ส่วน OPPO A3X จะใช้เป็น Snapdragon 6s 4G Gen1 ซึ่งเราจะทดลองเล่นเกมมาตรฐานอย่างเกมระดับทั่วไปอย่าง ROV และ Genshin Impact เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของชิปให้ดูกัน

ROV

ทดสอบ ROV บน OPPO A3 Pro 5G อันนี้เล่นได้สบาย ๆ เลย ซึ่งตอนเล่นเราก็ได้ปรับตั้งค่าไปที่สูงสุดในทุกโหมดแล้วนะ ก็ยังสามารถเล่นได้จนจบเกมแบบปกติ ไม่มีกระตุกหรือเด้งออก ช่วงชุลมุนก็ยังพอไปไหว โดยรวมแล้วโอเคเลย

ส่วนการทดสอบ ROV บน OPPO A3X ได้ตั้งค่าตามที่ตัวเครื่องตั้งมาให้ ก็สามารถเล่นได้ตามปกติ ลื่นไหล ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน

Genshin

ทดสอบ Genshin บน OPPO A3 Pro 5G ซึ่งอย่างที่รู้ ๆ กันว่าเกมนี้ค่อนข้างที่จะกินสเปคอยู่เหมือนกัน ด้วยความที่อยากจะเล่นให้ลื่นที่สุดจึงเล่นตามค่าที่ตัวเครื่องตั้งไว้ ก็คือเล่นได้ลื่น ตอนวิ่งไม่มีกระตุก แต่ว่ามีแอบหน่วงบ้างบางจังหวะ ส่วนตัวคือไม่มีปัญหาอะไรนะกับการใช้เครื่องนี้เล่น Genshin

ส่วน OPPO A3X ก็ได้เล่นตามที่เครื่องตั้งค่ามาเหมือนกัน จุดที่เห็นได้ชัดเจนของการเล่นในเครื่องนี้เลยก็คือ ภาพตัวละครไม่คม แตกเป็นวุ้น ๆ ตอนหมุนฉากไปมามีกระตุกแบบปลาย ๆ บาง ๆ ถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็ไม่รู้สึก ตอนวิ่งไปหมุนฉากไปก็คือหนืด ๆ หน่วง ๆ เป็นพัก ๆ

ตัวท็อปกล้องหลัก 50 MP ต่างจากรุ่นเล็กที่ให้มา 8MP

สำหรับรุ่นพี่อย่าง OPPO A3 Pro 5G ได้ให้กล้องหลักมาอยู่ที่ 50MP กล้องวัดระยะตื้นลึก 2MP ภาพจากกล้องหลักที่ถ่ายมาได้ก็คือคมชัด เก็บรายละเอียดได้หมด จะถ่ายวัตถุ หรือถ่ายคนก็ออกมาดีอยู่เหมือนกัน ภาพที่เห็นจะมีโทนสีไม่จัดจ้านเท่าไหร่ ก็จะเป็นโทนแบบนี้เลย

ส่วนรุ่น OPPO A3X ให้ความละเอียดมาที่ 8MP แน่นอนว่าความละเอียดน้อยลง ภาพที่ได้ก็จะทำออกมาได้ดีตามที่ตามสเปคกำหนดเลย ข้อสังเกตคือเวลาที่กดถ่าย กล้องแอบประมวลผลช้าไปนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ซอฟต์แวร์เฉพาะเครื่องที่ให้มาทดสอบหรือเป็นตามปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งภาพที่ได้ก็จะออกมาประมาณนี้เลย

กล้อง Portrait

OPPO A3 Pro 5G จะมีโหมด Portrait มาให้ ส่วนรุ่นเล็กจะไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าว อันนี้ก็เป็นอีกจุดนึงที่ทำให้ทั้งสองรุ่นแตกต่างกันชัดเจน ซึ่งก็เบลอหลังได้ตามปกติ มีการเก็บขอบ ตัดขอบให้ แต่จะเน้นความชัดมาที่วัตถุตรงกลางกับวัตถุที่อยู่ใกล้สุดแบบนี้

ฟีเจอร์ AI ลบคนได้

ใครที่อยากลองใช้ฟีเจอร์ AI Eraser ลบคนออกจากภาพ ต้องมาใช้ OPPO A3 Pro 5G เลย เพราะว่ารุ่นนี้เค้าสามารถลบที่เราถ่ายติดมาคนออกจากภาพถ่ายเราได้ง่าย ๆ เพียงแค่

  • เข้าไปที่รูปถ่าย
  • กดแก้ไข
  • กด AI Eraser
  • วงรูปคนที่เราต้องการลบ
  • กดเสร็จสิ้น

ความชัด ความกันสั่นของกล้องวิดีโอ

สำหรับรุ่นพี่ใหญ่ จะรองรับวิดีโอสูงสุดอยู่ที่ 1080P@60fps จากที่ได้ทดลองเดินถ่ายวิดีโอไปมาพบว่า ในเรื่องของความคมชัดก็ทำออกมาโอเค แต่จะมีตอนที่แพลนกล้องขึ้นด้านบนไปที่ท้องฟ้าจะปรับสีช้านิดหน่อย มีช่วงที่สีเป็นแบบสว่างจ้าบ้าง ส่วนเรื่องคลิปก็ยังมีสั่นให้เห็น ดังนั้นเวลาใช้ถ่ายก็ต้องมือนิ่ง ๆ กันนิดนึง

ส่วนรุ่นเล็กจะรองรับวิดีโอสูงสุดอยู่ที่ 1080P@30fps ที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ สีของท้องฟ้ามีความซีดกว่ารุ่นพี่อยู่เหมือนกัน การสั่นของกล้องและความละเอียดของคลิปที่ลดลงก็คือเป็นไปตามสเปคของตัวกล้อง

โหมด Beauty บนกล้องเซลฟี่สวยใช้ได้ทั้งคู่

มาที่กล้องหน้ากันบ้าง ซึ่ง OPPO A3 Pro 5G จะให้มาอยู่ที่ 8MP และรุ่น OPPO A3x จะให้ความละเอียดอยู่ที่ 5MP ทั้งคู่มีโหมด Beauty มาให้ครบ ซึ่งถ้าอยากได้ภาพแบบแต่งหน้าจัดเต็ม มีขนตาพร้อม ก็สามารถทำได้ หรือจะอยากแต่งสบาย ๆ ก็ใช้โหมดที่เค้าตั้งค่ามาให้ ก็จะเห็นเป็นรอยสิวอยู่ ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การถ่ายภาพในที่มืด

จากที่ลองนำทั้งคู่ไปถ่ายภาพในห้องที่ปิดไฟ แต่ว่ายังมีแสงจากข้างนอกเล็ดลอดเข้ามา ในรุ่น Pro คือกล้องสามารถดึงรายละเอียดของวัตถุออกมาได้นะ แต่ไม่ได้มีการดึงแสงออกมาให้สว่างมากเท่าที่ควร ส่วนรุ่นเล็ก การสู้กับความมืดก็จะถดถอยลงไปหน่อย ถ้าไปถ่ายห้องที่มืดจัด ๆ ก็อาจจะไม่สู้

แบตเยอะ 5,100 mAh รองรับชาร์จไวอยู่ที่ 45W

ทั้งคู่คือให้แบตเตอรี่เท่ากันมาอยู่ที่ 5,100 mAh รองรับชาร์จไวอยู่ที่ 45W หลังจากที่ชาร์จแบตเต็ม 100% ก็ได้ทดลองใช้งานด้วยการเอาออกไปถ่ายรูป, เล่นเกม, เปิดเพลงฟัง แล้วยังมีปล่อยไหลข้ามคืนโดยไม่ชาร์จด้วยนะ พบว่าแบตเตอรี่คือให้มาเยอะใช้ได้ โดยแต่ละรุ่นแบตลดเหลือ ดังนี้

  • OPPO A3 Pro 5G ใช้งานไปทั้งหมด 1 วัน 1 ชั่วโมง 34 นาที แบตลดเหลือ 20%
  • OPPO A3x ใช้งานไปทั้งหมด 1 วัน 1 ชั่วโมง 47 นาที แบตลดเหลือ 18%

สรุปการใช้งาน

ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครที่ชอบมือถือ OPPO ในซีรีส์นี้ก็มีทั้งแบบ 5G และ 4G อันนี้ก็ต้องพิจารณากันเอาเองว่าต้องการใช้รูปแบบไหน อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ใช้มือถือแบบเอ็กสตรีม เครื่องนี้ทนจัดชัดจริง ไม่ต้องกลัวว่าตกทีนึงแล้วจะบุบ จะแตก (ถ้าตกไม่แรงจริง ๆ ) ส่วนในภาพรวมก็ทำออกมาได้โอเค ใช้งานได้แบบครบ ๆ ใครมีงบและสเปคที่คลิกในใจก็จัดเลย

ราคาจำหน่าย

OPPO A3 Pro 5G วางจำหน่ายในไทย 2 สี ได้แก่สีม่วง Moonlight Purple และสีดำ Starry Black พร้อมรับฟรีกระเป๋า OPPO Trendy Bag มูลค่า 1,299 บาท โดยมีให้เลือกซื้อ 2 รุ่นความจุ ดังนี้

  • 6GB + 128GB ราคา 7,999 บาท
  • 8GB + 256GB ราคา 9,999 บาท

OPPO A3x มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Ocean Blue และ สีแดง Nebula Red วางขายในรุ่นความจุและราคา ดังนี้

  • 4GB + 64GB ราคา 3,999 บาท
  • 4GB + 128GB ราคา 4,699 บาท
  • 6GB + 128GB ราคา 5,299 บาท