OPPO A5 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นประหยัดสายแกร่ง รุ่นต่อไปของ OPPO A3 Pro ประกาศเตรียมเปิดตัว 24 ธันวาคมนี้ พร้อมกับมีการเปิดเผยสเปกหลาย ๆ ส่วนผ่าน TENAA มาแล้วด้วย มาพร้อมจอ OLED, แรมขนาด 8GB หรือ 12GB, แบตเตอรี่ 5,840 mAh และหนัก 186 กรัม
โดย OPPO A5 Pro เริ่มมีภาพโปรโมตออกมาแล้ว มาพร้อมกับคำโปรยภาษาจีนที่แปลว่า ‘ก้าวสู่ขั้นใหม่’ ทนทาน และใช้งานง่าย และเตรียมจะเปิดตัวในวันที่ 24 ธันวาคม เวลา 14.30 ของประเทศจีน
โดยในรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง OPPO A3 Pro นั้น ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มีจุดเด่นทั้งเด้านความทนทาน ตกกระแทกได้เยอะ จากการที่ตัวเครื่องได้ให้กระจก OPPO Crystal Shield Glass มา ได้รับการรับรองจาก SGS เรื่องความทนทานระดับทอง 5 ดาว และยังสามารถกันน้ำ กันฝุ่นได้ที่มาตรฐาน IP69 ด้วย ทำให้ OPPO A5 Pro เองก็น่าจะใช้แนวทางเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้าด้วย โดยจากการตรวจสอบของ TENAA ในจีน บอกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีเลขโมเดล PKP110 และได้บอกรายละเอียดอื่น ๆ ของตัวเครื่องเอาไว้เกือบทั้งหมดแล้วด้วย
ตามข้อมูลจาก TENAA บอกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล และคาดว่าจะรองรับรีเฟรชเรต 120Hz และแสดงผลสีได้ 10-bit พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ด้านประสิทธิภาพ Oppo A5 Pro จะใช้ชิปเซตที่มี CPU 8 คอร์ ความเร็ว 2.5GHz พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB หรือ 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB หรือ 512GB โดยไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้แต่อย่างใด
ส่วนด้านกล้องถ่ายภาพ มีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องหลังคู่ ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล และกล้องรองความละเอียด 2 ล้านพิกเซล โดยจะมีแบตเตอรี่ความจุ 5,840mAh (ค่ามาตรฐาน) แต่ยังไม่มีข้อมูลเรื่องความเรวในการชาร์จออกมา โดยตัวเครื่องมีขนาด 161.5 x 74.85 x 7.67 มม. และน้ำหนักประมาณ 186 กรัม ซึ่ง OPPO A5 Pro จะเหมาะกับคนที่สนใจในสมาร์ตโฟนที่มีความทนทานและเน้นใช้งานทั่วไปแน่นอน
ทั้งนี้ OPPO มักจะมีการเรียงลำดับชื่อรุ่นสมาร์ตโฟนในประเทศจีน และรุ่นในระดับ Global ที่แตกต่างกัน อย่างเช่น OPPO A3 Pro ที่วางขายในประเทศจีนนั้น มีหน้าตาที่แตกต่างกับ OPPO A3 Pro ที่วางขายในระดับโลก (รวมถึงไทย) อย่างชัดเจน ดังนั้น เมใื่อเปิดตัวแล้วต้องรอดูกันอีกทีว่า OPPO A5 Pro ถ้ามีการวางจำหน่ายในประเทศไทย จะมาในหน้าตาและสเปกที่เหมือนกันหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องติดตามชมกันต่อไป
ที่มา : Gizmochina
Comment