OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นกลางรุ่นใหม่อย่าง OPPO Reno13 Series 5G โดยประกอบไปด้วย OPPO Reno 13 และ Reno 13 Pro ซึ่งยังคงเน้นที่การถ่ายภาพบุคคลเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้อีกด้วย ! แถมยังมาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 และกล้องถ่ายภาพซูม 50 ล้านพิกเซลอีกด้วย (เฉพาะรุ่นโปรเท่านั้นนะ !)
โดย OPPO Reno13 Series นั้น มาพร้อมกับการออกแบบตัวเครื่องมาใหม่ โดยได้เพิ่มความสามารถในการทนน้ำทนฝุ่นทั้ง IP69, IP68 และ IP66 พร้อมกัน เพื่อให้สามารถทำงานใต้น้ำได้ โดยในโหมดการถ่ายภาพใต้น้ำ ยังสามารถให้ตัวเครื่องจมอยู่ในน้ำ ถ่ายรูป และขึ้นมาจากน้ำเพื่อเปิดเสียงเพื่อไล่น้ำออกได้อีกด้วย นอกจากนั้น ตัวเครื่องได้ใช้ดีไซน์ตัวเครื่องให้มีความพรีเมียมมากกว่าเดิม ด้วยกรอบตัวเครื่องอะลูมิเนียมอัลลอยด์ และกรอบกล้องแบบกระจกที่มีการสมูธให้เข้ากันกับตัวฝาหลังของเครื่องด้วย
ส่วนหน้าจอ OPPO Reno13 ให้หน้าจอแบบแบนขนาด 6.59 นิ้วแบบแบน ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรต 120Hz และรองรับการกะพริบ PWM Dimming ที่ 3840Hz ด้วย ในขณะที่ OPPO Reno13 Pro ให้หน้าจอขนาด 6.83 นิ้ว ที่เป็นแบบโค้งเล็กน้อย ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรต 120Hz และรองรับการกะพริบ PWM Dimming ที่ 3840Hz เหมือนกัน
โดยในประเทศจีน ได้เปิดตัว OPPO Reno13 และ Reno13 Pro รุ่นละ 3 สีด้วยกัน คือ Reno13 จะมีสีม่วงลายปีกผีเสื้อ (Butterfly Purple), สีฟ้า (Galaxy Blue) และสีดำ (Midnight Black)
ในขณะที่ Reno13 Pro จะมาพร้อมสีม่วงลายปีกผีเสื้อ (Butterfly Purple), สีชมพู (Starlight Pink) และสีดำ (Midnight Black)
เานกล้องถ่ายภาพ นอกจากการเน้นการถ่ายภาพบุคคลแล้ว ยังได้ เน้นเรื่องของการถ่ายภาพแบบ Live Photo ซึ่งการถ่ายแบบ Live Photos นั้น จะสามารถเลือกเฟรมที่ดีที่สุดมาเป็นภาพปกของ Live Photos นั้นได้ และยังรักษาคุณสมบัติภาพสว่างแบบ ProXDR ได้อยู่ด้วย นอกจากนั้น ยังได้ฟิลเตอร์ Soft Light ในการถ่ายภาพบุคคล (แบบที่เห็นใน Find X8 Series) และสามารถใช้ฟิลเตอร์ต่อเนื่องใน Live Photos ได้ด้วย และยังสามารถใส่ลายน้ำให้กับภาพ Live Photos ได้ เพื่อให้ภาพ Live Photos ภาพนั้น เป็นเหมือนกับ ‘Moving Polaroid’ หรือภาพโพลารอยด์ที่เคลื่อนไหวได้เลยทีเดียว แถมยังสามารถส่งภาพ Live Photos นี้กับอุปกรณ์ iOS ผ่านการแตะส่งข้ามเครื่องกันได้อีกด้วย (น่าจะต้องลงแอปฯ O+ Connect เพิ่มเติมแบบในตอนนี้)
นอกจากนั้น เฉพาะในรุ่น Reno13 Pro ยังได้มีฟีเจอร์การถ่ายเวทีเพิ่มเข้ามาด้วย โดยสามารถถ่ายได้ที่ระยะ 3.5x ตามที่ระยะของเลนส์สามารถทำได้นั่นเอง (ระยะเทียบเท่า 80mm)
นอกจากนั้น ฟีเจอร์ AI ภายในเครื่องของ OPPO Reno13 Series ยังได้ให้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาครบเท่ากับใน Find X8 Series อีกด้วย โดยมีฟีเจอร์ AI Photo Remaster เหมือนกัน ประกอบไปด้วย : AI Clarity Enhancer เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้ชัดขึ้น, AI Reflection Remover ที่จะลบเงาสะท้อนในภาพที่เราถ่ายด้วย AI, AI Unblur ที่จะใช้ AI ในการแก้ภาพที่ถ่ายออกมาเบลอ ให้กลับมาชัดขึ้นได้ในการกดครั้งเดียว
ด้านสเปกกล้องถ่ายภาพ OPPO Reno13 จะได้กล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) มี OIS และกล้องมุมกว้างมาก ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องหน้า ultra-sensitive front camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/2.0) ในขณะที่รุ่น Reno 13 Pro จะให้กล้องถ่ายภาพซูมเทเลโฟโต้ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/2.8) ที่ระยะ 80mm และมีการกันสั่น OIS ให้อีกด้วย
ทั้ง OPPO Reno13 และ OPPO Reno13 Pro มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 ที่ประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นจากในรุ่นก่อน (ซีรีส์ 8000) เสริมด้วยชิปเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่ OPPO พัฒนาขึ้นมาเอง อย่าง ‘OPPO X1’ พร้อมกับแรมขนาด 12GB/16GB LPDDR5X ทั้ง 2 รุ่น และหน่วยความจำ UFS 3.1 ขนาด 256GB, 512GB และ 1TB เหมือนกันด้วย
ส่วนแบตเตอรี่ OPPO Reno13 จะให้แบตเตอรี่มาที่ 5,600 mAh และชาร์จไวที่ 80W SUPERVOOC และ Reno13 Pro ให้แบตเตอรี่มาที่ 5,800 mAh, ชาร์จไวที่ 80W SUPERVOOC แถมยังชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายที่ 50W AIRVOOC ได้อีกด้วย
สเปคของ OPPO Reno13
- จอภาพ : AMOLED 6.59 นิ้ว
- ความละเอียด 2760 x 1256
- สว่างสูงสุด 1200 nits (HBM), 600 nits (Typ)
- อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปเซต : MediaTek Dimensity 8350
- RAM LPDDR5X : 12GB/16GB
- Storage UFS 3.1 : 256GB/512GB/1TB
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8) กันสั่น OIS
- กล้องอัลตราไวด์ 8MP (f/2.2)
- กล้องหน้า : 50MP (f/2.0)
- แบตเตอรี่ : 5,600 mAh
- รองรับชาร์จไว 80W SUPERVOOC
- การเชื่อมต่อ
- 5G
- Wi-Fi 6
- Bluetooth 5.4
- NFC
- พอร์ต
- USB-C 2.0
- เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้จอ
- ความทนทาน : IP66 / IP68 / IP69
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 15 บนพื้นฐาน Android 15
- ขนาด : 157.9 × 74.73 × 7.24 มม.
- น้ำหนัก: 181 กรัม
สเปคของ OPPO Reno13 Pro
- จอภาพ : AMOLED 6.83 นิ้ว
- ความละเอียด 2800 x 1272
- สว่างสูงสุด 1200 nits (HBM), 600 nits (Typ)
- อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปเซต : MediaTek Dimensity 8350
- RAM LPDDR5X : 12GB/16GB
- Storage UFS 3.1 : 256GB/512GB/1TB
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8) กันสั่น OIS
- กล้องอัลตราไวด์ 8MP (f/2.2)
- กล้องถ่ายภาพซูมเทเลโฟโต้ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/2.8) ที่ระยะ 80mm กันสั่น OIS
- กล้องหน้า : 50MP (f/2.0)
- แบตเตอรี่ : 5,800 mAh
- รองรับชาร์จไว 80W SUPERVOOC
- รองรับชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC
- การเชื่อมต่อ
- 5G
- Wi-Fi 6
- Bluetooth 5.4
- NFC
- พอร์ต
- USB-C 2.0
- เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้จอ
- ความทนทาน : IP66 / IP68 / IP69
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 15 บนพื้นฐาน Android 15
- ขนาด : 162.73 × 76.55 × 7.55 มม.
- น้ำหนัก: 197 กรัม
ราคาวางจำหน่ายในประเทศจีนของ OPPO Reno13 นั้น
- รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคา 2,699 หยวน (ประมาณ 12,880 บาท)
- รุ่นความจุ 16GB + 256GB ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 14,312 บาท)
- รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 14,312 บาท)
- รุ่นความจุ 16GB + 512GB ราคา 3,299 หยวน (ประมาณ 15,743 บาท)
- รุ่นความจุ 16GB + 1TB ราคา 3,799 หยวน (ประมาณ 18,130 บาท)
ส่วนราคาวางจำหน่ายในประเทศจีนของ OPPO Reno13 Pro นั้นจะอยู่ที่
- รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคา 3,399 หยวน (ประมาณ 16,221 บาท)
- รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคา 3,699 หยวน (ประมาณ 17,653 บาท)
- รุ่นความจุ 16GB + 512GB ราคา 3,999 หยวน (ประมาณ 19,085 บาท)
- รุ่นความจุ 16GB + 1TB ราคา 4,499 หยวน (ประมาณ 21,470 บาท)
ที่มา : OPPO China, OPPO China (2)
ปกติไม่ค่อยสนใจพรีเซนเตอร์นะ แต่รอบบนี้น้องอูกีลุคนี้น่ารักมากก
ส่วนตัวน่าใช้กว่า S24FE นะเนี่ย