เปิดตัว OPPO Reno15 และ OPPO Reno15 Pro สเปคจัดเต็มด้วยกล้องหลักความละเอียด 200MP และกล้องซูม Periscope Telephoto ความละเอียด 50MP ขุมพลังการประมวลผลจากชิปเซ็ต Dimensity 8450 พร้อมฟีเจอร์ Live Photo ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น คมยิ่งขึ้น และสมูทกว่าเดิม !

สเปค OPPO Reno15 และ OPPO Reno15 Pro

OPPO Reno15OPPO Reno15 Pro
จอภาพพาเนลAMOLED
ขนาด6.32 นิ้ว6.78 นิ้ว
ความละเอียด2640 × 1216 พิกเซล2772 × 1272 พิกเซล
ความสว่าง1800 นิต
อัตรารีเฟรช120 Hz
ประสิทธิภาพชิปเซตMediaTek Dimensity 8450
หน่วยความจำ12GB / 16GB (LPDDR5X)
ความจุ256GB
512GB
1TB
(UFS 3.1)
ระบบปฏิบัติการColorOS 16 บนพื้นฐาน Android 16
กล้องกล้องหลัก200MP (f/1.8)
ระบบกันสั่น OIS และออโต้โฟกัส
กล้องอัลตราไวด์50MP (f/2.0) ออโต้โฟกัส
กล้องเทเลโฟโต50MP (f/2.8)
ระบบกันสั่น OIS และออโต้โฟกัส
รองรับ Zoomซูมออปติคัล 3.5 เท่า,
ซูมดิจิทัล 120 เท่า
กล้องหน้า50MP (f/2.0) ออโต้โฟกัส
ระบบเสียงลำโพงสเตอรีโอ
การเชื่อมต่อเครือข่าย5G
Wi-FiWi-Fi 6
Bluetooth5.4
NFCรองรับ
พอร์ตUSB-C 2.0
ระบบสแกนนิ้วเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ, IR Blaster
แบตเตอรี่ความจุ6200 mAh6500mAh
ชาร์จผ่านสาย80W SUPERVOOC
ชาร์จไร้สาย50W AIRVOOC
ตัวเครื่องความทนทานIP66/IP68/IP69
ขนาด151.21 x 72.42 x 7.99 – 8.13 มม.161.26 x 76.46 x 7.48 – 7.65 – 7.75 มม.
น้ำหนัก187 – 188 กรัม205 กรัม

รายละเอียด OPPO Reno15 และ OPPO Reno15 Pro

OPPO Reno15 รุ่นมาตรฐานมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.32 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2640 × 1216 พิกเซล) อัตรารีเฟรช 120Hz และความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,800 นิต (ทั่วทั้งหน้าจอ) และสูงสุด 3,600 นิต (HDR) เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบออปติคัล

ในขณะที่ OPPO Reno15 Pro จะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมา โดยมีขนาด 6.78 นิ้ว พาเนลหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรต 1-120Hz ความละเอียด 1.5K พร้อมกับความส่วางหน้าจอสูงสุด 3,600 นิต (HDR) เหมือนกับรุ่นมาตรฐาน

สำหรับสเปคกล้องหน้ากับกล้องหลังของ OPPO Reno15 และ OPPO Reno15 Pro ใช้สเปคแบบเดียวกันเป๊ะ ๆ เริ่มต้นที่กล้องหลักความละเอียด 200MP รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 50MP มุมมองกว้าง 116° และกล้องซูม Periscope Telephoto ความละเอียด 50MP

โดยกล้องซูม จะมีระยะการซูมแบบออปติคัล 3.5 เท่า รองรับการซูมดิจิทัลสูงสุด 120 เท่า ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 50MP ออโต้โฟกัส

ความพิเศษของ OPPO Reno15 Pro คือซอฟต์แวร์หรือฟีเจอร์ที่ออกแบบมาสำหรับการไลฟ์สตรีมมิ่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้งกล้องหน้ากับกล้องหลัง (EIS ด้วย AI) และฟีเจอร์ลดเสียงรบกวนด้วยไมโครโฟน 3 ตัว (Native Three-Microphone Noise Reduction)

นอกจากนั้นแล้ว ใครที่เป็นสายไลฟ์สตรีมมิ่งก็ยังมีฟีเจอร์ AI Live Stream Highlight Clipping ที่ตัวระบบจะใช้ AI ในการตรวจจับไฮไลท์สำคัญ เช่น จังหวะที่แฟนคลับโดเนทของขวัญให้ หรือมีจำนวนผู้เข้าชมเยอะ ๆ ผู้ใช้สามารถกดย้อนกลับไปได้มากสุด 60 วินาที เพื่อบันทึกช่วงไฮไลท์นั้น ๆ ไว้ได้ด้วยความละเอียด 1080p

ต่อมาคือฟีเจอร์ Live Photo ที่ได้รับการอัปเกรดทั้ง OPPO Reno15 กับ OPPO Reno15 Pro ด้วยลูกเล่นที่มากขึ้น และอัลกอริธึมประมวลผลรูปภาพ Live Photo ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น

  • Multiple Live Photo Collage : ฟีเจอร์ Live Photo ของ OPPO Reno15 Series สามารถนำภาพถ่ายมาต่อกันได้มากสุดถึง 3 รูป พร้อมกับเป็นครั้งแรกที่ Live Photo รองรับการแยกวัตถุออกจากฉากหลังด้วยการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายบุคคล ภาพถ่ายสัตว์เลี้ยง
  • Brand New Live Photo Engine : อัลกอริธึมประมวลผลภาพ Live Photo ตัวใหม่ช่วยให้ภาพ Portrait ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งความคมชัด ความลื่นไหล และโทนสี จะมีความต่อเนื่องทั้งในส่วนของภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว
  • Dual-View Livephoto : สามารถบันทึกภาพ Live Photo จากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกันได้แล้ว

ต่อมาคือความจุแบตเตอรี่ของ OPPO Reno15 กับ OPPO Reno15 Pro จะมีความจุอยู่ที่ 6,200mAh และ 6,500mAh ตามลำดับ ทั้งสองรุ่นรองรับความเร็วการชาร์จ 80W ส่วนรุ่นโปรจะรองรับการชาร์จไร้สายที่ความเร็ว 50W ด้วย มาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่น IP66 + IP68 + IP69 ลำโพงคู่ระบบสเตอริโอ

ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 8450 จับคู่กับแผ่นกราไฟท์สำหรับระบายความร้อน ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ ColorOS 16 บนพื้นฐาน Android 16 โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ที่สามารถใช้ Live Photo ตั้งเป็นวอลเปเปอร์หน้าจอล็อกไปพร้อม ๆ กับระยะชัด-ลึกได้

OPPO Reno15 C รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัด

นอกจากสองรุ่นหลักแล้ว OPPO ยังได้แง้มข้อมูลเอาไว้ด้วยว่า OPPO Reno15 Series ในปีนี้จะมาพร้อมกับอีกหนึ่งรุ่นใหม่เข้ามาเสริมไลน์อัพให้แข็งแรงขึ้นด้วย OPPO Reno15c

โดยจะมีจุดยืนอย่างการเป็น Reno Phone ราคาประหยัดในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่ได้ดีไซน์สุดพรีเมี่ยม และสเปคพื้นฐานสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบลื่นไหล

ทั้งนี้คาดว่า OPPO Reno15c น่าจะมีภาพรวมคล้าย ๆ กับ OPPO Reno F Series ที่มีวางขายในไทยมาสักพักแล้ว เช่น OPPO Reno13 F 5G หรือ OPPO Reno14 F 5G

ราคาและการวางจำหน่าย

OPPO Reno15 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,999 หยวน (ประมาณ 13,999 บาท) สำหรับความจุ 12GB + 256GB โดยจะมีให้เลือกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Starlight Bow) สีฟ้า (Aurora Blue) และสีน้ำตาล (Canele Brown) ส่วนรุ่นความจุอื่น ๆ จะมีความจุดังนี้

  • 12GB + 256GB ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 13,999 บาท)
  • 12GB + 512GB ราคา 3,299 หยวน (ประมาณ 15,599 บาท)
  • 16GB + 256GB ราคา 3,299 หยวน (ประมาณ 15,599 บาท)
  • 16GB + 512GB ราคา 3,599 หยวน (ประมาณ 16,999 บาท)
  • 16GB + 1TB ราคา 3,999 หยวน (ประมาณ 18,599 บาท)

ต่อมาคือ OPPO Reno15 Pro มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,699 หยวน (ประมาณ 16,999 บาท) สำหรับความจุ 12GB + 256GB โดยจะมีให้เลือกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Starlight Bow) สีน้ำตาล (Canele Brown) และสีทอง (Honey Gold) พร้อมราคาความจุดังนี้

  • 12GB + 256GB ราคา 3,699 หยวน (ประมาณ 16,999 บาท)
  • 12GB + 512GB ราคา 3,999 หยวน (ประมาณ 18,599 บาท)
  • 16GB + 512GB ราคา 4,299 หยวน (ประมาณ 19,999 บาท)
  • 16GB + 1TB ราคา 4,799 หยวน (ประมาณ 21,999 บาท)