Google เพิ่งเปิดตัว Pixel 7 และ Pixel 7 Pro สองสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุดปิดท้ายปี 2022 และแน่นอนว่าเราก็อดจะมาเทียบกับ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro ที่เพิ่งออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาไม่ได้ คราวนี้เราเลยขอจับยักษ์ Android ชนยักษ์ iOS ดูสเปคให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่าใครมาเหนือในด้านไหน งานนี้ใครจะร่วงใครจะรอดก็มาดูกันได้ตรงนี้
เปรียบเทียบสเปค PIXEL 7 และ IPHONE 14
ถ้าให้เทียบกันรุ่นต่อรุ่นเลย คู่แรกก็จะได้เป็น Pixel 7 กับ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มือถือรุ่นเริ่มต้นของซีรีส์จากทั้งสองค่าย ที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2022 โดยเป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงมากที่สุด แต่ยังได้ของใหม่ที่การันตีคุณภาพ และอายุการใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีฟีเจอร์ จุดเด่นในการใส่มาในมือถือต่างกันออกไป แต่ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือตัวสเปคเครื่องที่ให้มานั่นเอง
Pixel 7 | iPhone 14 | iPhone 14 Plus | |
หน้าจอแสดงผล | AMOLED | OLED Super Retina XDR | |
ขนาด | 6.3 นิ้ว | 6.1 นิ้ว | 6.7 นิ้ว |
ความละเอียด | 2400 x 1080 | 2532 x 1170 | 2778 x 1284 |
รีเฟรชเรท | 90Hz | 60Hz | |
ความสว่างหน้าจอ | สูงสุด 1400 nits | สูงสุด 1,200 nits | |
กระจกนิรภัย | Gorilla Glass Victus | Ceramic Shield | |
CPU | Tensor G2 | A15 Bionic | |
RAM | 8GB | 6GB | |
ROM | 128GB / 256GB | 128GB / 256GB / 512GB | |
กล้องหลัง | Wide : 50MP (f/1.85), PDAF, Laser AF, OIS Ultrawide : 12MP (f/2.2) 114° | Wide : 12MP (f/1.5), กันสั่น Sensor-shift OIS Ultrawide : 12MP (f/2.4) | |
กล้องหน้า | 10.8MP (f/2.2) | 12MP (f/1.9) | |
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | ใต้หน้าจอ | ไม่มี | |
สแกนใบหน้า | มี | FaceID | |
การเชื่อมต่อ | 5G (sub‑6 GHz/mmWave) Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e Bluetooth 5.2 | 5G (sub‑6 GHz/mmWave) with 4×4 MIMO8 Gigabit LTE with 4×4 MIMO and LAA8 Wi‑Fi 6 (802.11ax) with 2×2 MIMO Bluetooth 5.3 Ultra Wideband | |
ลำโพง | ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ | ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ | |
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP68 (ลงน้ำจืดได้ 1.5 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) | IP68 (ลงน้ำจืดได้ 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) | |
แบตเตอรี่ | 4,355 mAh การเล่นวิดีโอ สูงกว่า 24 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 20 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 26 ชั่วโมง |
ชาร์จไว | 30W | 20W | |
ชาร์จไร้สาย | 20W | 15W | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 | iOS 16 | |
น้ำหนัก | 197 กรัม | 172 กรัม | 203 กรัม |
ราคาเริ่มต้น | 599 ดอลลาร์ (~22,400 บาท) | 32,900 บาท | 37,900 บาท |
จอแสดงผล
องค์ประกอบสำคัญอย่างจอ ทางฝั่ง iPhone 14 ใช้ OLED Super Retina XDR รีเฟรชเรต 60Hz ส่วน Pixel 7 ใช้จอ AMOLED 90Hz ในด้านสีสันและความสวยงามนั้นคงเอามาเทียบแล้วสวยงามกันทั้งคู่ แต่ความลื่นของ Pixel 7 นั้นให้มาสูงกว่า แถมยังมีหน้าจอสว่างมากกว่าด้วยถึง 1400 นิต แต่ไอโฟนสว่างสุดแค่ 1200 แต่ไม่ว่ายังไงก็แสงจ้าสู้แดดข้างนอกได้แน่นอนทั้งคู่
Pixel 7 มีความละเอียดจอน้อยกว่ารุ่นอื่นทั้งหมด ส่วนในด้านขนาดของจอ Pixel 7 ใหญ่กว่า iPhone 14 ธรรมดาเล็กน้อย แต่ก็ใหญ่ไม่สู้ iPhone 14 Plus ที่เค้าออกมาเพื่อใช้จอใหญ่อยู่แล้ว อันนี้แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน
กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ
ข้อนี้คงเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายสำหรับคนต้องการซื้อมือถืออยู่เหมือนกัน ด้าน Pixel 7 เปิดตัวมาพร้อมกับกล้องหลัก 50MP และกล้องอัลตราไวด์ 12MP ทาง iPhone 14 และ 14 Plus มีกล้องหลัก 48MP และกล้องอัลตราไวด์ 12MP จะเห็นได้ว่าในด้านสเปคแล้วทั้งสองฝั่งให้กล้องมาใกล้เคียงกันมาก ๆ มีแค่กล้องหลักในไอโฟน 14 ที่ให้ความละเอียดน้อยกว่าถึง 2 ล้านเมกะพิกเซล ซึ่ง Pixel 7 ยังนำพาฟีเจอร์เด็ด ๆ มาอย่าง Guided Frame ช่วยผู้พิการถ่ายเซลฟี่ด้วยเสียง Photo Unblur ระบบ AI แก้ภาพเบลอหลังถ่าย Macro Focus ถ่ายภาพมาโครแม้ไร้เลนส์มาโคร Super Res Zoom ซูมเก่งด้วยระบบ AI ซูมแค่ไหนก็ยังคม และ Cinematic Blur ถ่ายวิดีโอได้อย่างมีมิติ ด้วยการเบลอพื้นหลังเหมือนถ่ายด้วย DSLR
ชิปประมวลผล
ชิปเซ็ตของทั้งสองค่ายเป็นรุ่นพิเศษเหมือนกันทั้งคู่ ในแง่ที่ตัวบริษัทผลิตออกมาเอง ซึ่งใน iPhone 14 และ 14 Plus ใช้ชิป A15 Bionic ตัวเดิมของปีที่แล้ว แม้มีการอัปเกรดมาหน่อย แต่ผลทดสอบออกมาก็พบว่าต่างกันไม่มาก ส่วนชิป Tensor G2 ใน Pixel 7 เค้าเคลมว่ามีการพัฒนาให้แรงขึ้น 20% แต่จากผลทดสอบที่หลุดออกมาเผยว่ามีความแรงสู้ชิปทั้ง A15 Bionic และ Snapdragon 888 ไม่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นคงมีความแรงเพียงพอการใช้งาน แต่ไม่ใช่รุ่นสุดของยุคนี้
แบตเตอรี่และการชาร์จ
Pixel 7 ให้แบตความจุ 4,355 mAh ที่ระบุว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ส่วน Apple แม้ไม่ระบุความจุแบตอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีแจ้งเวลาการใช้งานดูวิดีโอในรุ่น iPhone 14 ได้ 20 ชั่วโมง iPhone 14 Plus ได้ 26 ชั่วโมง ดังนั้น Pixel จึงอยู่กึ่งกลางของอายุการใช้งานต่อการชาร์จ
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น
มือถือทั้งสองค่ายมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 แต่ว่าฝั่ง iPhone 14 ระบุว่าสามารถอยู่ในน้ำลึก 6 เมตรได้ 30 นาที ส่วน Pixel 7 ไม่ได้ระบุอะไร ตรงนี้ก็ดูเหมือนว่า Apple จะประกอบมือถือมาให้ระบบปิดแน่นมาก จนทนแรงดันน้ำได้ค่อนข้างลึก แต่ที่แน่ ๆ เลยก็ไม่ควรเอาไปลงน้ำโดยเฉพาะอยู่แล้ว เผื่อมีเล็ดลอดเข้าไปในเครื่อง เสียหายขึ้นมาไม่คุ้มเสียเวลา
เปรียบเทียบ PIXEL 7 PRO กับ IPHONE 14 PRO และ IPHONE 14 PRO MAX
ตัว Pixel 7 Pro ก็จะถือเป็นรุ่นสเปคดีขึ้นมา เทียบเท่าได้กับตระกูล Pro ในไอโฟนอย่าง iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เหมาะสำหรับใครงบสูงขึ้นมาแล้วอยากจัดเต็มเวลาซื้อมือถือเครื่องใหม่ อยากจับเทคโนโลยีขั้นดีที่สุดแห่งยุค ลองมาดูกลุ่มมือถือเหล่านี้น่าจะมีถูกใจกันบ้างครับ
Pixel 7 Pro | iPhone 14 Pro | iPhone 14 Pro Max | |
หน้าจอแสดงผล | AMOLED LTPO | OLED Super Retina XDR | |
ขนาด | 6.7 | 6.1 นิ้ว | 6.7 นิ้ว |
ความละเอียด | 3120 x 1440 | 2556 x 1179 | 2796 x 1290 |
รีเฟรชเรท | 10 – 120Hz | 1 – 120Hz | |
ความสว่างหน้าจอ | 1500 nits | สูงสุด | |
กระจกนิรภัย | Gorilla Glass Victus | Ceramic Shield | |
CPU | Tensor G2 | A16 Bionic | |
RAM | 12GB | 6GB | |
ROM | 128GB / 256GB | 128GB / 256GB / 512GB / 1TB | |
กล้องหลัง | Wide : 50MP (f/1.85), Ultrawide : 12MP 126° (f/2.2), Auto focus Telephoto : 48MP (f/3.5), PDAF, OIS, 5x optical zoom | Wide : 48MP (ƒ/1.8), dual pixel PDAF, OIS Ultrawide : 12MP 120° (ƒ/2.2), dual pixel PDAF Telephoto : 12MP (ƒ/2.8), PDAF, OIS, 3x optical zoom | |
กล้องหน้า | 11.1MP (f/2.2) | 12MP ( ƒ/1.9) PDAF | |
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | ใต้หน้าจอ | ไม่มี | |
การเชื่อมต่อ | 5G (sub‑6 GHz/mmWave) Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e Bluetooth 5.2 | 5G (sub‑6 GHz and mmWave) with 4×4 MIMO8 Gigabit LTE with 4×4 MIMO and LAA8 Wi‑Fi 6 (802.11ax) with 2×2 MIMO Bluetooth 5.3 Ultra Wideband | |
สแกนใบหน้า | มี | FaceID | |
ลำโพง | ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ | ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ | |
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP68 | IP68 (ลงน้ำจืดได้ 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) | |
แบตเตอรี่ | 5000W | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 23 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 29 ชั่วโมง |
ชาร์จไว | 30W | 20W | |
ชาร์จไร้สาย | 23W | 15W | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 | iOS 16 | |
น้ำหนัก | 212 กรัม | 206 กรัม | 240 กรัม |
ราคาเริ่มต้น | 899 ดอลลาร์ (~33,600 บาท) | 41,900 บาท | 44,900 |
จอแสดงผล
จอของ Pixel 7 Pro รุ่นนี้ใช้จอเป็น AMOLED LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 10 – 120Hz ส่วน iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max มีขนาด 6.1 และ 6.7 นิ้ว แบบ OLED Super Retina XDR แต่รีเฟรชเรทเก่งกว่าตรงที่สามารถลดเฟรมเรทลงไปได้ต่ำสุดถึง 1 เฟรม สูงสุด 120 เฟรม แปลว่าไอโฟนอาจได้เปรียบเรื่องการประหยัดแบตจากหน้าจอ
กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ
pixel 7 Pro ให้กล้องมาทั้งหมด 3 ตัว กล้องหลัก 50MP กล้องอัลตราไวด์ 12MP กล้องเทเลโฟโต้ 48MP ซึ่ง Pixel 7 Pro ยังนำพาฟีเจอร์เด็ด ๆ มาอย่าง Guided Frame ช่วยผู้พิการถ่ายเซลฟี่ด้วยเสียง Photo Unblur ระบบ AI แก้ภาพเบลอหลังถ่าย Macro Focus ถ่ายภาพมาโครแม้ไร้เลนส์มาโคร Super Res Zoom ซูมเก่งด้วยระบบ AI ซูมแค่ไหนก็ยังคม และ Cinematic Blur ถ่ายวิดีโอได้อย่างมีมิติ ด้วยการเบลอพื้นหลังเหมือนถ่ายด้วย DSLR
ส่วน iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ให้กล้องมาทั้งหมด 3 ตัว กล้องหลัก 48MP กล้องอัลตราไวด์ 12MP กล้องเทเลโฟโต้ 12MP จะเห็นได้ว่ากล้องหลักและกล้องเทเลโฟโตของไอโฟนมีความละเอียดน้อยกว่า แต่แน่นอนว่าไอโฟนก็มากับระบบกล้องเด็ด ๆ อย่างอื่นไม่แพ้กัน ตรงนี้ต้องมาเทียบกันอย่างละเอียดอีกที
ชิปประมวลผล
ขึ้นชื่อว่า Pixel 7 Pro แต่ก็ยังคงใช้ชิป Tensor G2 ตัวเดียวกันเหมือนรุ่น Pixel 7 ธรรมดา ซึ่งจากที่มีข้อมูลทดสอบกันออกมาพบว่าแรงไม่เท่า Snapdragon 888 และ A15 Bionic ดังนั้นพอเอามาเทียบกับชิป A16 Bionic รุ่นใหม่ใน iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ก็คงไม่ต้องบอกว่าแรงสู้ Apple ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ความแรงชิปไม่ได้เป็นตัวระบุการใช้งานจริง ยังต้องดูเรื่องการปรับแต่งจากผู้ผลิต ว่า Google ทำมาดี เข้ากับระบบซอฟต์แวร์แค่ไหนด้วย
แบตเตอรี่และการชาร์จ
Apple ระบุว่า iPhone 14 Pro สามารถใช้งานดูวิดีโอได้ยาวนานสูงสุด 23 ชั่วโมง ส่วน iPhone 14 Pro Max ดูวิดีโอยาวนานถึง 29 ชั่วโมง ส่วนด้าน Pixel 7 Pro มีความจุแบต 5000 mAh ใช้ได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง ถือว่าชนะไอโฟน 14 แต่ยังไม่อึดเท่า 14 Pro Max
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการจับสเปคของมือถือ Pixel 7 Series มาชนกับ iPhone 14 Series ที่เพิ่งเปิดตัวมาท้ายปี 2022 ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งนอกจากจะดูว่ามีความต่างในด้านประสิทธิภาพ ความแรง ความสวยงามหน้าจอ ฯลฯ แล้ว ก็ยังต้องดูในแง่ของฟังก์ชันการใช้งานจริงด้วย อย่าง Google ก็จะใส่นวัตกรรม ฟีเจอร์แปลกใหม่เข้ามา ใช้งานได้ใน ecosystem ของแอนดรอยด์ ส่วน Apple แน่นอนว่า ecosystem เค้าจัดเต็มมาแต่ไหนแต่ไร แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ยังไงก็ไปดูข้อมูลเปิดตัว Pixel 7 และ Pixel 7 Pro เต็ม ๆ ประกอบการตัดสินใจ กันได้ครับ
เปิดตัว Pixel 7 และ Pixel 7 Pro สองมือถือ Android สายพันธุ์แท้ เด่นที่กล้องพลัง AI สุดเทพ
Comment