ในยุค 90 แน่นอนว่าเทคโนโลยีสมัยนั้น ยังไม่ได้มีอะไรล้ำมากมายเหมือนตอนนี้ การทำงานนอกสถานที่จึงจำเป็นที่จะต้องใช้โน้ตบุ๊ค (ที่มีราคาแพงสุดๆๆ) เพราะมือถือสมัยนั้นทำได้แค่โทรออก-รับสายเท่านั้นเอง แต่สำหรับผู้ที่ต้องทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ก็ยังมี PDA (Personal Digital Assistant) ให้ใช้อยู่นะ โดยในปี 1997 บริษัท Psion ได้เปิดตัว Psion Series 5 ซึ่งเป็น PDA แบบฝาพับพร้อมคีย์บอร์ด และในปี 2018 นี้บริษัท Planet Computers ก็ขอปลุกผี PDA พร้อมคีย์บอร์ดให้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Gemini
Psion Series 5 เปิดตัวเมื่อปี 1997
Gemini เป็นสมาร์ทโฟนระบบ Android ที่มีคีย์บอร์ดแบบพับประกบกับหน้าจอสไตล์โน้ตบุ๊ค หรือ PDA สมัยก่อน โดยคีย์บอร์ดที่ติดมานั้นเป็นคีย์บอร์ดที่มีปุ่มนูนขึ้นมาเหมือนกับคีย์บอร์ดที่ใช้กับ PC หรือโน้ตบุ๊ค ทำให้การพิมพ์ถนัดกว่าคีย์บอร์ดพกพาขนาดเล็กทั่วๆ ไป และได้ความรู้สึกเดียวกับการพิมพ์คอมพิวเตอร์
ส่วนสเปคของ Gemini ก็ไม่ได้ขี้เหร่ซักเท่าไหร่
- หน้าจอทัชสกรีนขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1080 (403 ppi) อัตราส่วน 18:9
- CPU : Mediatek Helio X27 deca-core
- RAM : 4GB
- ความจุ : 64GB รองรับ MicroSD Card
- กล้องหลัง : ไม่มี
- กล้องหน้า : 5MP
- ลำโพงสเตอรีโอ
- Bluetooth 4.0
- ช่อง USB Type-C 2 ช่อง
- เซ็นเซอร์ : Accelerometer, compass, light sensor, gyro, magneto-sensor
- แบตเตอรี่ : 4220 mAh
- น้ำหนัก : 308 กรัม
- ระบบ : Dual-Boot Android 7.1 / Linux
ดูจากสเปคแล้วหลายคนอาจจะรู้สึกแหม่งๆ ว่าทำไมไม่ใส่กล้องหลังมาให้ – -”
จุดเด่นอีกอย่างของ Gemini ก็คือสามารถ boot ระบบได้ 2 ระบบ คือ Android 7.1 และ Linux นั่นเอง แถมยังสามารถต่อสายผ่านพอร์ท USB Type-C เข้ากับหน้าจอ TV หรือ Monitor ที่มีพอร์ท HDMI เพื่อขยายขนาดจอภาพได้อีกด้วย
Gemini มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่นที่ใช้ได้เฉพาะ WiFi ราคา 499 ดอลลาร์ (ประมาณ 16,467 บาท) และรุ่นที่รองรับซิม 4G ราคา 599 ดอลลาร์ (ประมาณ 19,767 บาท) ใครที่สนใจ Gemini ก็เข้าไปสั่งซื้อได้ทางเว็บไซท์ Indiegogo ได้เลย สินค้าพร้อมส่งภายในเดือนมกราคมนี้
ใส่ uSD ได้นะครับ
แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีอะนะ เพราะใช้ได้แค่ท่าเดียว คือท่าตามแนวนอน
ความจริงถ้าสามารถพับคีย์บอร์ดไปด้านหลังได้ด้วย แล้วใช้งานแบบมือถือปกติก็จะดีกว่า
ส่วนเรื่อง OS ถ้าเป็น Android+Windows(10) น่าจะดีกว่า เพราะคนทั่วๆไปไม่ค่อยใช้ Linux กัน
ช่วงที่ palm / Treo เริ่มซบ ผมก็หันไปหา Motorola ที่เป็น Linux นะเป็น touch screen กับ grafity ด้วยนะ ซึ่งก็มีความสุขดี ใช้จน ข้อต่อฝาพับมันแตกจนใช้งานลำบากละ ก็ยังหาเครื่องที่ถูกใจเปลี่ยนไม่ได้ จะบอกว่า linux มันก็มีดีของมันละนะ
มันดูไม่สุดยังไงก็ไม่รู้อะ ผมว่า
คีย์บอร์ด นี่คือแบบ เห็นตอนแรกนี่ยิ้มเลยอ่ะ 555555
นึกถึง Vaio p ที่ Sony ทำไว้ ขายดีระเบิดเถิดเถิง เป้ามันไม่ใช้โทรศัพท์แต่เป็นฃานเวริคสเตชั่นแบบ นาโน
แต่มันไม่ใช้มาจิ้นเนื้อดีอีกแล้ว เพราะ ipad pro พร้อม Keyboard ตอบโจทย์กว่า แถมกลุ่มลูกค้าที่จะใช้ของพวกนี้ ส่วนมากก็มีกำลังซื้อระดับดีอยู่แล้ว ราคาipad pro จึงไม่ใล้ตัวแปรในกลุ่มสินค้า น่าสนใจที่มี Linux กะลงกินตลาด Robot module เลยสินะ
พยายามหาช่องว่างเล็กๆน้อยๆของตลาดได้ดี
แต่ดูไม่น่าเวิร์ค เพราะรูปทรง"บังคับ"ให้ต้องใช้งานสองมือตลอดเวลา
หรือไม่ก็ต้องหยุดแล้ววางบนโต๊ะเพื่อใช้งาน
ขนาดตัวก็ไม่ได้เล็กระดับพกใส่กางเกงได้ ต้องพกใส่กระเป๋าอยู่ดี
จุดนี้ทำให้ความได้เปรียบพวก Subnotebook หายไปทันที
เสียดายจอไม่เป็น full view. จะเหลือขอบดำหนาข้างๆ ให้เปลืองเนื้อที่แสดงผล ไป 30 กว่า% ทำไม ในเมื่อเครื่องยิ่งเล็ก จอก็ยิ่งเล็กลงไปอีก
ตอนนี้ก็ 18:9 ครับแต่ทำขอบให้เครื่องกว้างขึ้นเพื่อวางคีย์บรอด
เพราะปุ่มจะเล็กจนกดไม่ได้
โทษที ผมพูดผิดไป ผมหมายถึงใช้พื้นที่ให้เต็มขอบไปเลย จะอัตราส่วน 21.5:9 ก็ยังได้
ขอให้ขอบบาง เป็นพอ เพื่อใช้พื้นที่แสดงผลให้เต็มที่สุด
ขอคียบอร์ด สไลด์แบบ Xperia Pro ดู Work กว่านะ
แต่ผมว่า เทนตอนนี้ น่าจะทำออกมาเป็นแนว คียบอร์ดที่เป็น case แยกไปในตัวด้วยน่าจะ Work สุด
นักข่าวน่าจะชอบนะ เครื่องดูกระทัดรัดดี คีย์บอร์ดปุ่มสะใจ
ขอเคสที่เป็นสแตน + Microsoft Foldable keyboard ดีกว่าแบบนี้
ถ้ามีจอด้านนอกด้วยจะดีมาก, ส่วนตัวชอบนะแต่รอให้พัฒนามากว่านี้ v. ต่อๆไปน่าจะลงตัวขึ้น.