การบินไทย (Thai Airways) ประกาศ ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) บนเครื่องตลอดการเดินทาง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค เป็นต้นไป ต่อเนื่องมากจากช่วงก่อนหน้านี้ หลายๆ สายการบินของต่างประเทศ ก็เริ่มใช้มาตรการเดียวกันหลังจากเกิดเหตุการณ์เพลิงใหม่บนสายการบินแอร์ปูซาน และสืบพบว่าแบตเตอรี่สำรองคือต้นเหตุ

สำหรับสายการบินต่างประเทศที่ได้มีการใช้มาตรการเหล่านี้ด้วย เช่น EVA Air ของไต้หวัน ระบุว่า ผู้โดยสารจำเป็นต้องเก็บแบตเตอรี่สำรองไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ไม่อนุญาตให้โหลดใต้เครื่อง และต้องชาร์จแบตเตอรี่กับช่องทางที่สายการบินจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น หรือในกรณีของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ก็ประกาศมาตรการ เพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยจำกัดจำนวน และบังคับให้ผู้โดยสารพกแบตเตอรี่สำรอง ติดตัวไว้เท่านั้น และห้ามใช้ตลอดการเดินทาง แต่สำหรับไชน่าแอร์ไลน์ กับแควนตัส จะเป็นการแนะนำให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการใช้พาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน ไม่ได้เป็นการห้ามแบบเต็มรูปแบบ
สุดท้ายแล้ว ผู้โดยสารก็ยังสามารถนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องได้ตามปกติ โดยอ้างอิงตามข้อมูลที่ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ประเทศไทย กำหนดไว้ดังนี้
- แบตสำรองขนาด 20,000 mAh หรือ 100Wh นำขึ้นเครื่องบินได้ไม่จำกัดจำนวน
- แบตสำรองขนาด 20,000 – 32,000 mAh หรือ 100Wh – 160Wh นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
- แบตสำรองขนาดมากกว่า 32,000 mAh หรือ 160Wh ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ทุกกรณี
แต่สำหรับสายการบินไทย จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปจากเงื่อนไขข้างบนดังนี้
- แบตสำรองขนาด 20,000 mAh หรือ 100Wh นำขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกิน 20 ก้อน
- แบตสำรองขนาด 20,000 – 32,000 mAh หรือ 100Wh – 160Wh นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
- แบตสำรองขนาดมากกว่า 32,000 mAh หรือ 160Wh ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ทุกกรณี
เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พวกเรา DroidSans ขอแนะนำให้เลือกใช้ และพกแบตเตอรี่สำรองพกพาขึ้นเครื่องไปด้วยทุกครั้งนะครับ รวมไปถึงเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรองที่มีฉลากระบุกำลังไฟชัดเจน อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อ Power Bank เพื่อความปลอดภัยสำหรับนำขึ้นเครื่องได้ ที่นี่เลย
Comment