Samsung เพิ่งเปิดตัวน้องใหม่ Galaxy J6 | Galaxy J4 และเพิ่งวางขายไปได้ไม่นาน เจ้าสองตัวนี้ที่ราคาต่างกัน 1,500 บาทพอดีเป๊ะ (6,990 กับ 5,490 บาท) แต่ว่าจะเหมาะกับการใช้งานของใครบ้าง ใครควรเลือกตัวไหน อาจจะมีลังเลระหว่างหน้าจอที่พอดีมือแบบ J6 หรือ จอใหญ่ๆ แบบ J4 เราจะมาสรุปให้อ่านกันคร่าวๆหลังจากที่ลองเล่นมาค่ะ 

เริ่มจากหน้าตาของทั้ง 2 เครื่องจะเห็นได้ว่ามีความต่างพอสมควร เริ่มจากตัว Galaxy J6 มาพร้อมสัดส่วนจอยอดนิยม 18.5:9 ไม่มีปุ่ม Home แต่ตัว Galaxy J4 ยังคงสัดส่วน 16:9 ไว้อยู่ พร้อมปุ่ม Home ด้านหน้าแบบคลาสสิค ตรงจุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อตัดสินใจว่าชอบจอไซส์ไหน หรือ ชอบปุ่มโฮมหรือเปล่า

ด้านหลังของทั้ง 2 รุ่นวัสดุเป็นพลาสติก เป็นรอยนิ้วมือก็จะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ มีกล้องหลังตัวเดียวทั้งคู่ ตำแหน่งการวางแฟลชที่ไม่เหมือนกัน และอีกข้อแตกต่างคือตัว Galaxy J6 จะมีที่สแกนนิ้วอยู่ใต้กล้อง ซึ่งตรงที่สแกนนิ้วจะสามารถเอานิ้วปัดเพื่อให้แถบตั้งค่าด้านบนเลื่อนลงมาได้ด้วย ไม่ใช่ก็ปัดเลื่อนขึ้น อันนี้ดี ส่วน Galaxy J4 จะไม่มีฟีเจอร์สแกนนิ้วแต่มีลำโพงอยู่ข้างๆแทนค่ะ

ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Power เหมือนกันทั้ง 2 รุ่นแต่ตัวพี่ Galaxy J6 จะมีช่องลำโพงเพิ่มมา ซึ่งตัวลำโพงเป็นระบบเสียงระบบเสียง Dolby Atmos ที่ดังจริง เสียงดีเลยแหละ แต่เสียที่ว่าตำแหน่งนี้มือจะไปปิดโดนง่ายไปนิด โดยเฉพาะเวลาเล่นเกมถ้าใครถนัดจับท่าที่มือไปปิดลำโพงก็จะเสียอรรถรสไปซักหน่อย

ด้านซ้ายก็ยังคงเป็นที่อยู่ของปุ่มปรับเสียง แต่ของรุ่น Galaxy J6 จะมีช่องใส่ซิมและ Micro SD เพิ่มขึ้นมาค่ะ โดยทั้ง 2 นี้รุ่นรองรับการใช้งาน 2 ซิมเหมือนกัน แต่ของ Galaxy J4 ที่ไม่มีช่องให้จิ้มซิมเพราะจะต้องถอดฝาหลังเพื่อใส่ซิมและต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 ซิมหรือ 1 ซิม + MicroSD ง่ายๆ คือสามารถแกะออกมาเปลี่ยนแบตได้นั่นเอง

ด้านล่างของทั้ง 2 รุ่นยังคงใช้เป็นช่องเสียบ Micro USB มีช่องหูฟัง 3.5 มมให้และช่องไมโครโฟนอยู่ข้างๆ ดูแบบนี้จะเห็นความต่างของขนาดตัวเครื่องที่ชัดเจนเลย

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อม Android 8.0 และ Samsung UX 9.0 ที่หน้าตาเหมือนรุ่นหลังๆที่เพิ่งออกมา ฟีเจอร์ต่างๆก็มีครบ อยากเปิดใช้งานสองหน้าจอ , ป็อปอัพ หรือ เพิ่มคู่แอพบนหน้าจอก็มีมาให้ใช้ทั้งคู่ , Dual Messenger ใช้แอพฯ โซเชียลสองบัญชีก็ได้ โหมดเกมช่วยปิดการแจ้งเตือนต่างๆก็มีเหมือนกันจ้า ฟีเจอร์ครบทั้งคู่

เรื่องกล้องถ่ายรูปอันนี้ขอเทไปให้ฝั่ง Galaxy J6 เพราะหลังจากลองใช้ทั้งสองตัวถ่ายภาพแล้ว ตัว J4 กล้องความละเอียด 13MP สีออกมาไม่ค่อยสด ดูอ่อนกว่าสีจริง ส่วนตัว J6 ที่ให้กล้องมาความละเอียดเท่ากัน ถ่ายออกมาสีสันจะค่อนข้างดีกว่า

นอกจากนั้น Galaxy J4 ที่ต่อให้เราเลือกโฟกัสไปแล้ว หลังกดถ่ายมันก็จะทำการปรับโฟกัสตรงจุดนั้นย้ำให้เราอีกที ไม่เหมือน Galaxy J6 ที่หลังจิ้มโฟกัสไปแล้วกดถ่ายจะถ่ายให้เลยตามที่เราล็อคโฟกัสไว้ และมีโหมดโปรมาให้เลือกใช้ด้วยค่ะ

 

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง Galaxy J6

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง Galaxy J4

ส่วนกล้องหน้าทั้งสองตัวมาพร้อมแฟลช LED 3  ระดับให้เลือกปรับ กล้องหน้าตัว Galaxy J4 ให้มา 5 ล้านพิกเซล สีก็ยังคงดูจะซีดๆ นิดหน่อย เรื่องโหมดบิวตี้ยังคงความชมพูเบาๆ ไม่ได้เกลี่ยเบลอจนปลอม มี Sticker มาให้เล่นด้วย

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า Galaxy J4

กล้องหน้าขอ Galaxy J6 มีความคมชัด โหมดบิวตี้ก็ทำได้ดีเหมือนเดิม ไม่เบลอ ไม่ปลอม มาพร้อมแฟลชเช่นเดียกัน แต่เพิ่ม AR Sticker มาให้เล่นด้วย แถมยังมีโหมดเบลอหลังที่ปรับบิวตี้ได้ด้วยด้วยนะ เบลอฉากหลังได้ แล้วก็เบลอหน้าให้เนียนได้ด้วย

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า Galaxy J6

สเปค Galaxy J6

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.6 นิ้ว Full Screen อัตราส่วน 18.5:9  ความละเอียด HD+ (1480×720)
  • ชิปประมวลผล Exynos 7870 Octa-Core
  • ชิปกราฟิค Mali T830 MP1
  • RAM 2GB / 3GB
  • ROM 32GB / 64GB
  • กล้องหลังความละเอียด 13MP
  • กล้องหน้าความละเอียด 8MP
  • มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง + ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม 3 slot (sim + sim & Sd Card)
  • แบตเตอรี่ 3000mAh
  • Androd 8.0 Oreo + Samsung UX
  • ระบบเสียง Dolby Atmos
  • ราคาเปิดตัว 6,990 บาท

สเปค GALAXY J4

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD (1280×720)
  • ชิปประมวลผล Exynos 7570 1.4GHz Quad-Core
  • ชิปกราฟิค Malit T720 MP1
  • RAM 2GB / 3GB
  • ROM 16GB / 32GB
  • กล้องหลังความละเอียด 13MP
  • กล้องหน้าความละเอียด 5MP
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม
  • แบตเตอรี่ 3000mAh
  • Androd 8.0 Oreo + Samsung UX
  • ราคาเปิดตัว 5,490 บาท

โดยรวมแล้วความต่างจุดใหญ่ๆ ของทั้ง 2 รุ่นจะอยู่ที่เรื่องสแกนลายนิ้วมือ กล้อง และ ขนาดหน้าจอ หากใครชอบจอสัดส่วนใหญ่ๆ เต็มตา 16:9 เน้นเล่นโซเชียล ถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ เปลี่ยนแบตเองได้ มีปุ่มโฮมให้กดเหมือนเดิม นั่นคือ Galaxy J4

แต่ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปขึ้นมาอีกซักนิด กล้องมีสีสัน , กล้องหน้ามีฟีเจอร์ AR Sticker , ลำโพงดัง Dolby Atmos และ ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือก็เป็น Galaxy J6 เล่นเกมได้ดีกว่า กับหน้าจอสัดส่วนยอดฮิตในตลาด 18.5:9

ทั้งสองรุ่นเปิดตัว และ วางขายกันไปแล้ว เลยเอามาแนะนำและพรีวิวให้ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นกัน เพื่อใครที่สนใจจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มเติมค่ะ