เปิดตัวมาเป็นที่เรียบร้อยกับ realme GT 7 และ realme GT 7T สมาร์ทโฟนสองรุ่นใหม่เสริมทัพ realme GT 7 Series ที่กลับมาในครั้งนี้ก็มาพร้อมกับจุดเด่นน่าสนใจเพียบ วันนี้พวกเรา DroidSans เลยไม่พลาดที่จะพาผู้อ่านทุกคน ไปดูกันว่าเครื่องจริงมีหน้าตาเป็นยังไง พร้อมจุดเด่นชูโรงที่ว่า จะมีความน่าสนใจหรือตอบโจทย์การใช้งานมากขนาดไหน!

ดีไซน์คล้ายเดิม เพิ่มเติมคือฝาหลัง IceSense

ralme GT 7 และ realme GT 7T ยังคงมีหน้าตาแบบเดียวกันกับรุ่นพี่ในซีรีส์อย่าง realme GT 7 Pro หน้าจอ 6.78 นิ้ว และ 6.80 นิ้ว ตามลำดับ โมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมยกขอบสูง ทางด้านขวามีโลโก้ HYPERIMAGE+ อยู่ด้วย โดยที่ทั้งสองรุ่นจะมีการจัดวางตำแหน่งเซนเซอร์กล้องที่เหมือนกัน แต่เพิ่มเติมที่ realme GT 7  นั้น จะเพิ่มเซนเซอร์ซูมระยะ 2X เข้ามา มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมดสองสีหลัก ได้แก่

  • IceSense Black สีดำพรีเมียมพร้อมผิวสัมผัสกลิตเตอร์ระยิบระยับ ตัดขอบด้วยสีส้มดูทรงพลัง
  • IceSense Blue สีฟ้าสดใส ตัดขอบสีแดงเสริมความร้อนแรง

สำหรับจุดเด่นของฝาหลังอีกหนึ่งอย่างของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ก็คือ “IceSense Design” ที่นำแผ่นกราฟีนสำหรับนำความร้อนมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบฝาหลังของตัวเครื่อง ทำให้ตลอดการใช้งานหายกังวลเรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้เล่นเกมหรือใช้งานหนักๆ ไปได้เลย

ตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นใช้เป็นลำโพงคู่สเตอรีโอ รองรับการใส่ซิม 5G สองซิม (ใส่ SD Card ไม่ได้) พร้อมเสริมความทนทานด้วยมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่น IP68 และกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 7i

จอแสดงผลสวย AMOLED 120Hz

สิ่งหนึ่งที่ realme GT 7 และ GT 7T ทำให้เราประทับใจได้ตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกคือ “หน้าจอแสดงผล” ที่ทำออกมาได้ดีและให้รายละเอียดที่คมชัดมากๆ ถึงแม้ทั้งสองรุ่นจะมีขนาดหน้าจอที่ไม่เท่ากันระหว่าง 6.78 นิ้ว และ 6.80 นิ้ว ตามลำดับ แต่สเปคอื่นๆ ของหน้าจอแสดงผลจะเหมือนกันทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น อัตรารีเฟรชเรท 120Hz หน้าจอความละเอียด 1.5K และดีไซน์จอแบบแบนขอบหน้าจอบางเฉียบ กล้องหน้าเจาะรู พร้อมเซนเซอร์สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ของหน้าจอได้แบบเต็มตา เต็มพื้นที่

ชิปเซตเร็วแรงจากฝั่ง MediaTek

realme GT 7 มาพร้อมกับชิปเซตตัวใหม่ล่าสุดจากฝั่ง MediaTek อย่าง MediaTek Dimensity 9400e ชิปเซตเรือธงเน้นประหยัดพลังงาน แต่ก็ยังมีความแรงในระดับต้นๆ โดยผลิตบนสถาปัตยกรรม All Big Core รุ่นที่ 3 มีความเร็วสูงสุด 3.4 GHz สำหรับเครื่องที่เราได้มาอยู่ในมือนั้น (12GB + 512GB) ได้คะแนนทดสอบ AnTuTu ไปที่ 2,204,116 คะแนน แซงหน้าสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 ไปถึงสองแสนคะแนน สามารถเล่นเกมที่ความลื่น 120FPS ได้แบบสบายๆ (เช่น PUBG Mobile, Call of Duty Mobile) รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4

ส่วนของ realme GT 7T จะใช้เป็นชิปเซตอย่าง MediaTek Dimensity 8400 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม All Big Core แบบเดียวกับ Dimensity 9400 มาพร้อมกับซีพียู 8 แกน ความเร็วสูงสุด 3.25 GHz ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟิก และการประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี เคาะคะแนน AnTuTu ไปที่ 1,726,226 คะแนน (เทียบเคียงได้กับ Snapdragon 8 Gen 2 หรือ 8s Gen 3) และรองรับการเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 6.0

ความจุแบตเตอรี่ของทั้งสองรุ่นให้มาเท่ากันที่ 7,000 mAh นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนในซีรีส์เรือธงที่นำเข้ามาขายในไทย และให้ความจุแบตเตอรี่ที่เยอะขนาดนี้ พร้อมกันนั้นความเร็วในการชาร์จก็ยังเร็วแรงสะใจถึง 120W Ultra Charge ได้รับการรับรอง 5 ดาวด้านแบตเตอรี่จาก TÜV Rheinland และยังรองรับฟีเจอร์ Smart Bypass สำหรับการชาร์จแบบพิเศษที่จะจ่ายไฟโดยตรงไปยังเมนบอร์ด ช่วยลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ขณะเล่นเกมตอนกำลังชาร์จ

  • ชาร์จแบตเตอรี่จาก 1% – 50% ใช้เวลา 14 นาที
  • ชาร์จแบตเตอรี่จาก 1% – 100% ใช้เวลา 40 นาที

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ realme GT 7 ก็คือความบางของตัวเครื่องนั่นเอง เพราะมีความบางเพียงแค่ 8.3 มม. เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ขนาด 7,000mAh ที่ใส่มาให้ ก็นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความบางมาได้สวนทางกับความจุแบตเตอรี่พอสมควร เพราะในความบางประมาณนี้ของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เราอาจจะยังได้เห็นแบตเตอรี่ความจุประมาณ 5,000mAh กันอยู่ แถมอะแดปเตอร์ชาร์จ 120W ก็แถมมาให้ในกล่องพร้อมใช้ตั้งแต่แกะกล่อง

กล้องเซนเซอร์ Sony ความละเอียด 50MP

ถึงแม้ว่าจะจัดเต็มมาให้ทั้งในส่วนของสเปคหน้าจอ และประสิทธิภาพจากชิป Dimensity ตัวท็อปแล้ว realme GT 7 และ GT 7T ก็ยังให้สเปคกล้องที่ใช้งานได้แบบคุ้มๆ สมน้ำสมเนื้อ ผนวกเข้ากับระบบประมวลผลภาพ HYPERIMAGE+ ที่ทาง realme พัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้ได้รูปถ่ายที่มีคุณภาพใกล้เคียงหรือเหมือนกับเรือธงตัวท็อปเลย

สเปคกล้องของ realme GT 7 จะมาพร้อมกับเซนเซอร์หลัก Sony IMX906 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ขนาดเซนเซอร์ 1.56” รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K 30FPS หรือ 4K 120FPS เซนเซอร์ซูมออปติคัลระยะ 2x ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (ซูมดิจิทัลสูงสุด 20x) เซนเซอร์อัลตราไวด์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX615 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60FPS

ทางฟากของ realme GT 7T เองก็ไม่แพ้กัน มีความละเอียดเซนเซอร์ของชุดกล้องที่คล้ายกับ GT 7 แต่จะแตกต่างในเรื่องของเซนเซอร์ที่ใช้เล็กน้อย กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX896 ขนาดเซนเซอร์ 1.56” (รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60FPS) กล้องอัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล ไม่มีกล้องซูมเหมือนกับรุ่นพี่ และกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX615

เทียบรูปภาพจากกล้องของ realme GT 7 และ GT 7T

อีกหนึ่งจุดเด่นของ realme GT 7 และ realme GT 7T คือฟีเจอร์หรือความสามารถเสริมอื่นๆ ที่มีมาให้เลือกใช้งานเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น

  • Lighting Snap: การจับภาพด้วยชัตเตอร์สปีดความเร็วสูง ช่วยให้การเก็บช็อตไวๆ ได้ภาพถ่ายที่มีความคมชัดสูง เก็บครบหมดทุกการเคลื่อนไหว
  • Underwater Mode: รองรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอใต้น้ำในความละเอียด 4K
  • Travel Style Filter: ตัวเลือกฟิลเตอร์ภาพฟิลม์หลายแบบให้เลือกใช้ เพิ่มมิติและความหลากหลายให้รูปภาพไม่ซ้ำกัน

AI จัดเต็มพร้อม AI Planner ผู้ช่วยจัดตารางอัจฉริยะ

ทั้ง realme GT 7 และ realme GT 7T ทำงานบนระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 บนพื้นฐาน Android 15 ตั้งแต่แกะกล่อง ความสามารถ AI ขั้นสูงพร้อมใช้งานรองรับภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็น Google Gemini, Circle to Search ไปจนถึง AI สำหรับการแก้ไขรูปภาพหรือตัวช่วยสำหรับการทำงานทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น “AI Planner” ผู้ช่วยจัดตารางเวลาส่วนตัว แตะฝาหลังเครื่องสองที AI จะทำการสรุปคอนเทนต์หรือ Context ที่อยู่บนหน้าจอแล้วสรุปออกมาเป็นเวลานัดหมาย เพื่อเพิ่มลงปฏิทินให้โดยอัตโนมัติ

สำหรับ AI Planner รองรับการใช้งานบนทุกๆ แอปพลิเคชันไม่ว่าจะเป็น Poster งานอีเว้นท์บนอินเตอร์เน็ต ไปจนถึงข้อความในแชทที่คุยกับเพื่อนเพื่อนัดเจอกันในวันหยุด

สเปคเทียบ realme GT 7 และ GT 7T

รายละเอียดrealme GT 7realme GT 7T
จอภาพAMOLED 6.78 นิ้วAMOLED 6.80 นิ้ว
ความละเอียด2,780 x 1,264 พิกเซล2,800 x 1,280 พิกเซล
ความสว่างสูงสุด6,000 นิต1,800 นิต
ชิปเซตMediaTek Dimensity 9400eMediaTek Dimensity 8400
ความจุ12GB + 512GB12GB + 256GB
กล้องหลังกล้องหลัก: 50MP (f/1.8) IMX906 ขนาด 1.56”
กล้องเทเลโฟโต้: 50MP (f/2.0) ออปติคัลระยะ 2x
กล้องอัลตราไวด์: 8MP (f/2.2)
กล้องหลัก: 50MP (f/1.8) IMX896 ขนาด 1.56”
กล้องอัลตราไวด์: 8MP (f/2.2)
กล้องหน้า32MP (f/2.4) IMX615
ระบบเสียงลำโพงคู่สเตอรีโอ
แบตเตอรี่7,000mAh Titan Battery
การชาร์จ120W SUPERVOOC
การเชื่อมต่อ5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.45G, Wi-Fi 6, Bluetooth 6.0
พอร์ตเชื่อมต่อUSB-C
ความทนทานIP69
ระบบปฏิบัติการrealme UI 6.0 (Android 15)
ขนาดตัวเครื่อง162.42×76.13×8.30 มม.162.42×75.97×8.88 มม.
น้ำหนัก206 กรัม202 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย

realme GT 7

realme GT 7 วางจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งหมดสองสี ได้แก่ สีดำ (IceSense Black) และสีฟ้า (IceSense Blue) มีให้เลือกเพียงหนึ่งรุ่นความจุเท่านั้น

  • ความจุ 12GB + 512GB: ราคา 22,999 บาท

realme GT 7T

realme GT 7T นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งหมดสองสีเหมือนกัน ได้แก่ สีดำ (IceSense Black) และสีฟ้า (IceSense Blue) มีเพียงความจุเดียว

  • ความจุ 12GB + 256GB: ราคา 17,999 บาท