MYO (อ่านว่า มาย-โอ) หรือเจ้าปลอกแขนอัจฉริยะตัวนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่รุ้จักมันกันบ้างแล้ว เพราะ @kengkawiz เคยพูดถึงไปพักใหญ่แล้ว ถ้ายังไม่เคยอ่านก็ย้อนกลับไปอ่านกันได้ที่ MYO : ปลอกแขนอัจฉริยะ ว่าที่อนาคตของการควบคุมสั่งงาน
โดยจะมีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่น คือ Alpha, Dev Kit และรุ่นสมบูรณ์ (วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ) ซึ่งเจ้า MYO ผมก็ได้ Pre-order รุ่นสมบูรณ์ไว้นานแล้วแหละ แต่ในที่สุดก็พึ่งจะมาถึง คราวนี้จึงขอจัด Unboxing ซักหน่อย ก่อนที่จะเริ่มรีวิวให้ได้รู้จักเบื้องลึกของมันกัน เอ้า! มัวรออยู่ไย อ่านต่อกันได้เลย!!
สำหรับ MYO ผมได้ Pre-order ไว้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2556 ซึ่งตอนนั้นก็หายเงียบไปค่อนข้างนานจนมาถึงหลังปีใหม่นี้ ทางทีมงานก็ให้อัพเดทข้อมูลอีกครั้งก่อนจะหักเงิน แล้วจึงจัดส่งมาให้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-6 สัปดาห์ แต่เดาว่าน่าจะรวมเวลาก่อนที่จะเริ่มส่งด้วย เพราะในขั้นตอนการขนส่งนั้นใช้เวลาแค่ 4 วันเท่านั้น!! (ทีมงานแจ้งว่าส่งของเมื่อวันที่ 24 มกราคม และผมก็ได้ของเมื่อวันที่ 28 มกราคม)
เริ่มแกะกล่องกันเลย!
ขนาดกล่องพัสดุไม่ใหญ่มาก พอๆกับตอนที่ผมสั่งจอมือถือมาซ่อมเองเลย
เมื่อแกะออกมาก็จะเห็น MYO นอนรออยู่ในกล่องแบบนี้
ตัวกล่องเรียกได้ว่าประทับใจอย่างมาก เพราะครึ่งล่างเป็นกล่องกระดาษ ส่วนครึ่งบนใช้พลาสติกใส ทำให้เห็น MYO อยู่ข้างใน (ของเดิมเป็นแค่กล่องกระดาษสีขาวธรรมดาๆ)
เมื่อหยิบ MYO ออกมาก็จะเห็นบัตรหนึ่งในอยู่ในกล่อง ซึ่งเป็นบัตรแสดงความยินดีพร้อมลายเซ็นต์จาก Co-Founder ทั้ง 3 ของ Thalmic Labs
และในกล่องก็จะมีกล่องกระดาษอยู่ชั้นล่างสุดอีกชั้นสำหรับใส่สาย Micro USB และ Bluetooth 4.0 Dongle Adapter
ของทั้งหมดจะมีดังนี้ (ไม่รวมตัวกล่อง)
สำหรับห่อพลาสติกใสจะใส่ก้านพลาสติกสำหรับกรณีผู้ใช้งานที่มีแขนเล็ก เพราะในรุ่น Alpha มีปัญหากับคนแขนเล็กค่อนข้างมาก เพราะ MYO ไม่สามารถตรวจจับ Gesture ได้ (แขนเล็กเกินรอบวงของ MYO)
ต่อมาเป็นสาย Micro USB ที่ผมแอบประทับใจอีกแล้ว เพราะปลายสายจะมีโลโก้ของ Thalmics Labs สลักลงไป
Bluetooth 4.0 Dongle Adapter ถือเป็นอะไรที่จำเป็นมาก เมื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์ เพราะ MYO สื่อสารผ่าน Bluetooth Low Energy Profile ซึ่งมีอยู่ใน Bluetooth 4.0 เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นบนคอมพิวเตอร์ก็บังคับให้ใช้ Dongle Adapter อยู่ดี ทั้งๆที่เครื่องที่ผมใช้ก็มี Bluetooth 4.0 แล้ว
ส่วนบนฝั่ง Smartphone หรือ Tablet จะไม่ต้องใช้ Dongle Adapter แต่เครื่องต้องรองรับ Bluetooth 4.0 และถ้าเป็น Android ก็จะต้องเป็น Android 4.3 ขึ้นไป (เพราะพึ่งจะมี Bluetooth Low Profile ให้ใช้งานในเวอร์ชันนี้)
มาถึงพระเอกหลักของงานกันบ้าง จะเห็นว่ามีรูปร่างหน้าตาต่างไปจากรุ่น Alpha พอสมควร (ส่วน Dev Kit จะหน้าตาคล้ายๆกับรุ่นวางจำหน่อย) และมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุยางเพื่อเป็นตัวยึดระหว่างเซ็นเซอร์ทั้ง 7 เข้าด้วยกัน และรูปโลโก้ ไฟ LED แสดงสถานะ และช่องต่อ USB
สำหรับช่องต่อ USB ก็มีการทำจุกยากเพื่อป้องกันน้ำเล็กน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวนี้จะกันน้ำได้นะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ เพราะเค้าทำมาเพื่อป้องกันพวกเหงื่อเฉยๆ
ลองสวมใส่ดูแล้วรู้สึกเลยว่าใส่สบายกว่ารุ่น Alpha ที่เป็นพลาสติกทั้งอัน เพราะรุ่นนี้เปลี่ยนใหม่ให้เซ็นเซอร์แต่ละตัวครอบด้วยพลาสติก และมียางที่ยืดได้เป็นตัวยึดกับเซ็นเซอร์แต่ละตัว จึงทำให้ไม่รู้สึกอับ
และที่ชอบก็คือโลโก้อยู่ที่บนนี้จะมีไฟ LED ด้วย จะเป็นไฟสีฟ้าทำให้โลโก้ดูสวยมาก
แต่การใช้งานจะเป็นยังไง มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากรุ่นเก่าๆ ไว้เดี๋ยวผมจะรีวิวให้ได้อ่านกันอีกทีนะครับ แต่บอกได้เลยว่าดีขึนกว่าเดิมเยอะเลย
วีดีโอตอนที่เอารุ่น Alpha ของเพื่อนมาเล่น เผื่อใครยังงงว่าเอาเจ้านี่มาทำอะไรเล่นได้บ้าง
เพิ่มเติม แถมอีกภาพ 😀 ทายซิ๊เกมอะไร
สำหรับตอนนี้ราคา Pre-order จะอยู่ที่ $199 ไม่รวมค่าส่ง ซึ่งตอนนู้นผมได้มาในราคา $149 รวมค่าส่งอีก $10 (ไม่โดนภาษีด้วย) ก็เป็น $159 ดังนั้นใครที่อยากซื้อไปลองก็เข้าไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ Pre-order Myo
และถ้าอดใจรอรีวิวไม่ไหวก็ไปดูรีวิวของรุ่น Alpha ที่ผมเคยทำไว้ก่อนก็ได้นะเออ (แต่รุ่นใหม่นี้ก็มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน) [Review] MYO Alpha – Gesture Control Armband สุดเจ๋งจาก Thalmic Labs
ตอนนี้ได้แต่แปะยั่วน้ำลายผู้อ่านไปก่อน 😀
สั่งเข้ามาโดนภาษีไหมครับ
ไม่โดนครับผม
น่าสนใจมากๆครับ
ต่อยอดไปเรื่อยๆ น่ะ มันน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้อีกเยอะ
อ้าว… หลอกให้อยากแล้วก็จากไป
ว่าแต่ [Pre-order ไว้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2556] อะไรจะนานขนาดนั้น
"เทียนมี ไม้ขีดไม่มี"
-*-
อยากได้มาเล่นบ้าง
ส่งมาไทย บวกอีก 30
น่าเล่น รอรีวิว มันต้องใส่ที่ต้นแขนเท่านั้นหรือครับใส่ที่อื่นได้มัย
หลักๆเค้าออกแบบมาเพื่อต้นแขนครับ แต่ถ้าใส่ที่อื่นก็ได้นะครับ ขอแค่หน้าคอนแทคของเซนเซอร์แนบกับกล้ามเนื้อเราก็พอครับ เพราะใช้หลักการ ECG แต่ว่า Gesture ในตัวจะไม่ทำงานนะครับ ต้องเข้าไปทำเองใน Raw Data (เค้าเปิดให้เข้าถึงได้)
ผมเห็น อยู่ น่าสน เมพมาก พอจะลองเทส กับเกมส์ เหมือน ใน คลิป ได้ไหมอะครับ คือ เคยเข้าไปดูในเว็บ แต่ไม่แน่ใจ ว่า เค้าสามารถ เอาไป ประยุค ใช้กับอะไรได้บ้าง
ผมแค่คิดเล่นๆ ว่าเอามาใช้ แทนเมาท์ได้ไหมหว่า หุๆ
ทีม Thalmic Labs เค้าสร้างขึ้นมาโดยเปิด API ให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลและนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามต้องการครับ เพราะงั้น ใช้กับอะไรได้บ้างก็อยู่ที่ไอเดียนักพัฒนาแล้วล่ะครับ
อ่านชื่อทีมแล้วนึกว่าเป็นของ thai ทุกทีเบย
ตอนพรีออเดอร์แรกก็เห็นอยู่ แต่ช่วงนั้นช็อกไม่มีเงินจองเลยผ่านไป มาเห็นแบบนี้เสียดายจริงๆครับ
ล้ำมากเลยย รอต่อยอดไปเรื่อยๆละกัน ฮ่าๆ
อยากกับ Tony Starkkkkkk