เปิดตัวฮือฮาและขายดีจนของหมดไปก่อนงาน Mobile Expo จะจบ สำหรับ Wiko RIDGE และ Wiko RIDGE FAB 4G โดยมีจุดเด่นที่เข้าใจง่ายคือเป็นสมาร์ทโฟนที่สเปคดูดีในราคาไม่แพง

ตอนนี้เราได้เครื่องทั้ง 2 รุ่นมาลองเล่น เลยขอเอามาพรีวิวสั้นๆ ว่าวัสดุและปุกรณ์ในกล่องนั้นมีอะไรมาให้บ้าง แล้วก็ได้ลองเทียบสเปคกับ Zenfone 5 ในเรื่องของ Benchmark และกล้องถ่ายภาพนิดหน่อย ลองมาดูกันว่า Wiko RIDGE ที่ราคา 4,990 บาทดีจริงหรือเปล่า

สำหรับ Wiko RIDGE กับ Wiko RIDGE FAB 4G นั้นจะแตกต่างหลักๆ แค่ 3 อย่า่งคือ ขนาดหน้าจอ ชิพประมวลผล และก็การรองรับ 4G LTE 

  • RIDGE หน้าจอ 5 นิ้ว / RIDGE FAB 4G หน้าจอ 5.5 นิ้ว
  • RIDGE ใช้ชิพ MTK / RIDGE FAB 4G ใช้ชิพ Snapdragon 410
  • RIDGE ไม่รองรับ 4G / RIDGE FAB 4G รองรับ 4G

สเปคแบบละเอียดลองไปดูได้ที่ สเปค Wiko RIDGE และ RIDGE FAB 4G

ดีไซน์ของตัวเครื่องและ UI นั้นเป็นแบบเดียวกัน ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Android 4.4 KitKat มีหน่วยความจำภายใน 16GB ใส่ Micro SD เพิ่มความจุได้อีก ให้ RAM 2GB

จะเห็นว่ารูปทรงของเครื่องคล้ายกันมาก ต่างกันที่ขนาดตามความใหญ่ของหน้าจอ 

 

อุปกรณ์ในกล่องของ Wiko RIDGE ต้องมีครบตามนี้ ตัวเครื่อง, หูฟัง in-ear, จุกเปลี่ยนหูฟัง, หม้อแปลง, สาย micro USB, ตัวแปลง SIM, คู่มือผู้ใช้งาน

อุปกรณ์ในกล่องของ Wiko RIDGE FAB 4G ก็เหมือนกับของ RIDGE แต่จะมีแบตเตอรี่ขนาด 2820 มิลลิแอมป์เพิ่มมาด้วย เพราะรุ่นนี้ถอดแบตได้

การพรีวิวครั้งนี้จะขอเน้นไปที่ Wiko RIDGE ก่อน สาเหตุไม่มีอะไรมากเพราะเป็นรุ่นที่ราคาประหยัดกว่าแถมขายหมดก่อนซะด้วย สำหรับใครที่สนใจเห็นว่าของจะเข้ามาอีกทีในช่วงเดือนมีนาคมนะครับ

ขนาดหน้าจอ 5 นิ้วตอนนี้หลายๆ คนคงไม่คิดว่ามันใหญ่ละ เท่าที่ได้ลองถือดูก็ขนาดกำลังพอดี ขอบจอด้านข้างไม่หนาเหมือนมือถือสมัยก่อน ดีไซน์เครื่องได้บางและน้ำหนักเบา

ลองเทียบขนาดกับ Zenfone 5 แล้ว จะเห็นว่า Wiko RIDGE บางกว่านิดหน่อย ส่วนนึงมาจากฝาหลังที่แบนเรียบ แต่ของ Asus นั้นนูนออกมา 

Wiko RIDGE นั้นใช้โลหะเป็นแกนกลางครับ จับแล้วรู้สึกได้ถึงความเย็นและก็ดูแข็งแรงทนทาน (บอกเลยว่าผมแอบลองงอแล้ว แต่มันไม่งอ) คือเทียบกับ Wiko 6-7 รุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัวมาแล้ว ตัวนี้งานดีกว่าแบบคนละเรื่อง 

วัสดุที่บุขอบจอด้านหน้าและฝาหลังนั้นเป็นลักษณะคล้ายๆ กำมะหยี่ขนสั้นๆ หรือจะบอกว่าคล้ายผิวกระดาษทรายแบบละเอียดก็ได้ ถ้าใครได้ลองจับฝาหลังของ OnePlus One สีดำ Sand stone ละก็ มันคล้ายๆ กันนั่นแหละ

วัสดุด้านในของฝาฟลังเป็นโพลีคาร์บอเนตชนิดที่ยืดหยุ่นได้ มีความเหนียว ไม่แตกหักง่าย ผมแกะฝาหลังออกมางอซะขนาดนี้ก็ยังไม่เป็นไร 

แบตของ Wiko RIDGE ความจุ 2,400 มิลลิแอมป์ แต่เป็นแบบฝังมากับตัวเครื่อง ซิมการ์ดที่ใช้เป็น micro SIM ทั้งคู่ อยู่ที่ช่องกลาง และขวาสุดจากในภาพ ส่วนทางซ้ายเป็นช่องสำหรับ micro SD

UI ของ Wiko RIDGE นั้นมีการปรับจาก Pure Android ไปเล็กน้อย เปลี่ยนไอคอนต่างๆ ใหม่ และถอดเอา app drawer ออกไป (ไม่รู้ทำไมถึงชอบเอา app drawer ออกไปกันจัง) แต่การใช้งานทั่วไปก็ยังคงเหมือนกัน ไม่ได้เปลี่ยน UI และ UX ทั้งหมด

หน่วนควาามจำ 16GB ในตัวเครื่่องนั้นไม่มีการแยกส่วน แต่ถูกจับรวมเป็นก้อนเดียวเหลือให้ใช้งานราวๆ 11GB ครับ 

ลองเอามาทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Antutu ชนกับ Zenfone ก็ได้คะแนนสูงกว่าพอสมควร จุดที่แตกต่างเห็นได้ชัดคือเรื่องของ CPU ที่ทางฝั่งของ Wiko RIDGE ทำคะแนนได้สูงกว่า และก็มีเรื่องของ RAM กับ I/O อีกนิดหน่อย 

 

มาลองดูกล้องหน้าสำหรับ Selfie กันบ้าง เรื่องความละเอียดนั้น Wiko RIDGE สูงกว่าอยู่แล้ว (5MP) แต่ยังมีเรื่องของเลนส์ที่กว้างกว่าอีกด้วย สังเกตุว่าผมวางตัวเครื่องเอาไว้ในระดับเดียวกัน ส่วนเรื่องความสว่างยังไม่ต้องตัดสินกันนะครับ เพราะแสงมันมาจากด้านขวา ให้ดุความกว้างของเลนส์อย่างเดียว

เช่นเดียวกันกับภาพ Selfie แนวตั้ง Zenfone อาจจะเห็นแค่ประมาณหน้าอก แต่ Wiko RIDGE เห็นไปถึงกว้างไปถึงสะดือ

 

 =ตัวอย่างภาพ Selfie เทียบกล้องหน้า=

เรื่องโทนสีและแสงของทั้ง 2 ภาพนั้นผมคุมไม่ได้จริงๆ เพราะน้องๆ เค้าก็พยายามหมุนหามุมที่ชอบแล้วก็กดถ่ายไป T T 

 

ส่วนกล้องหลังนั้นความละเอียดของ Wiko RIDGE สูงกว่าที่ 13MP แต่เท่าที่ได้ลองถ่ายดูเหมือนกับว่าภาพจะแอบสั่นง่ายไปนิดนึงในที่แสงน้อย

 

 =ตัวอย่างภาพกล้องหลัง=

ภาพดอกเข็มนี่ของ Wiko RIDGE สีตรงและธรรมชาติดี แต่อย่าถามผมว่าทำไมสี Zenfone มันเข้มจนสีจัดเว่อเกินจริงขนาดนี้แต่ผมถ่ายซ้ำไป 3-4 รูปสีมันก็ออกมาแบบนี้ทั้งหมดน่าจะเป็นในส่วนของ post process ของ software ก็เป็นได้

เอาเป็นว่าเอาเป็นน้ำจิ้มพอแค่นี้ก่อนนะครับ อาจจะต้องฝากท่าน @Gimme ทดสอบเปรียบเที่ยบประสบการณ์การใช้งานและในส่วนของกล้องอีกทีในรีวิวของ Wiko RIDGE ครับ  :party: