กลุ่มเทคโนโลยี Wireless Power Consortium (WPC) ได้ออกมาตรฐานการชาร์จไร้สาย Qi ครั้งแรกตอนปี 2008 ก่อนที่จะถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายบนมือถือในอีกหลายปีถัดจากนั้น ในระหว่างทางที่ผ่านมา WPC ได้มีการปรับปรุงข้อกำหนด Qi เล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เป็นระยะ จนกระทั่งมาถึงปี 2023 ที่มีการอัปเกรดขนานใหญ่เป็นครั้งแรก ข้ามมาเป็น Qi v2.0 หรือเรียกกันย่อ ๆ ว่า Qi2 ซึ่งขณะนี้มือถือและแท่นชาร์จที่รองรับมาตรฐานใหม่นี้ ก็เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว
Qi2 แตกต่างจาก Qi ยังไง
อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Qi2 สามารถจ่ายไฟหรือชาร์จไฟได้ไวกว่า Qi สามเท่า จาก 5W เป็น 15W และประหยัดพลังงานมากกว่า เนื่องจากมีการออกแบบขดลวดภายในใหม่ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงอัลกอริทึมการชาร์จ และโปรโตคอลการสื่อสาร ส่งผลให้เกิดการสูญเสียพลังงานขณะชาร์จน้อยลง
จุดเปลี่ยนสำคัญอีกประการคือ อุปกรณ์ Qi2 บางรุ่น สามารถใช้งานร่วมกับ MagSafe ได้ โดยมีการฝังแม่เหล็กที่ด้านในเพื่อช่วยยึดมือถือเข้ากับแท่นชาร์จให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สามารถชาร์จไร้สายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Qi2 ไม่จำเป็นต้องรองรับ MagSafe เสมอไป
อาจด้วยความสับสนในการสื่อสาร – นำเสนอ ของผู้ผลิตสินค้า ประกอบกับการที่แท่นชาร์จ Qi2 กลุ่มแรก ๆ ที่วางขาย ส่วนใหญ่แล้วเป็นอุปกรณ์ที่รองรับ MagSafe จึงทำให้บางคนเกิดความเข้าใจผิดว่า Qi2 = MagSafe แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ทาง WPC แจ้งอย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนประกาศมาตรฐานว่า Qi2 แบ่งย่อยออกเป็น 2 โปรไฟล์ ได้แก่ Qi v2.0 Extended Power Profile (EPP) และ Qi v2.0 Magnetic Power Profile (MPP)
ซึ่ง Qi v2.0 EPP คืออุปกรณ์ที่ผ่านข้อกำหนดทั่วไปของ Qi2 ในขณะที่ Qi v2.0 MPP เพิ่ม MagSafe เข้าไปเป็นฟังก์ชันเสริม หรือกล่าวโดยสรุปคือ Qi2 ไม่จำเป็นต้องรองรับ MagSafe เสมอไป
วิธีสังเกตว่าแท่นชาร์จ Qi2 รุ่นไหนรองรับ MagSafe เบื้องต้นให้มองหาสัญลักษณ์ Qi2 บนหน้ากล่องว่ามี ‘วงกลม’ ล้อมรอบหรือไม่ หากมีวงกลมล้อมรอบจะเป็น Qi v2.0 MPP ที่รองรับ MagSafe แต่หากไม่มีจะเป็น Qi v2.0 EPP ธรรมดา ส่วนฝั่งมือถือ ต้องดูตามที่ผู้ผลิตระบุเป็นรุ่น ๆ ไป
อย่างไรก็ดี มือถือที่เป็น Qi v2.0 MPP ยังสามารถกลายร่างเป็น Qi v2.0 EPP เทียม เพื่อใช้งานกับแท่นชาร์จ Qi2 พร้อม MagSafe ได้อยู่ โดยอาศัยตัวช่วยเล็กน้อยคือ สติกเกอร์แม่เหล็ก หรือเคสที่มีแถบแม่เหล็กฝังมาในตัว ซึ่งตอนนี้ก็มีบางค่ายที่เริ่มทำออกมาขายแล้ว
ทำไมมือถือบางรุ่นชาร์จไวเกิน 15W เร็วกว่า Qi2
มีมือถือหลายรุ่นที่รองรับชาร์จไร้สายเกิน 15W สูงกว่าความเร็วของ Qi2 เป็นเพราะมือถือกลุ่มนี้ใช้เทคโนโลยีการชาร์จที่ออกแบบเอง ไม่ใช่มาตรฐานกลางจาก WPC ซึ่งต้องอาศัยแท่นชาร์จเฉพาะตัวสำหรับความเร็วเต็มสปีด หากนำมาชาร์จกับแท่นชาร์จ Qi2 จะชาร์จได้สูงสุดเพียง 5W หรือ 15W ขึ้นอยู่กับว่ามือถือรุ่นนั้น ๆ รองรับ Qi เวอร์ชันไหน
มือถือรุ่นไหนรองรับ Qi2 บ้าง
มือถือรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย Qi2 คือ iPhone 12 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ก่อน WPC จะประกาศมาตรฐาน รวมถึง iPhone 13 และรุ่นอื่นที่ใหม่กว่าก็รองรับทั้งหมดเช่นกัน ส่วนมือถือ Android ที่แจ้งว่ารองรับ Qi2 อย่างเป็นทางการ ยังมี HMD Skyline เพียงรุ่นเดียว
- iPhone 12
- iPhone 12 mini
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13
- iPhone 13 mini
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 15
- iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- HMD Skyline
ควรซื้อแท่นชาร์จ Qi2 หรือ Qi
หากใช้งานมือถือที่รองรับ Qi2 อยู่แล้ว และอยากชาร์จไร้สายด้วยความเร็วสูงสุด การซื้อแท่นชาร์จ Qi2 คือคำตอบเดียวในตอนนี้ แต่สำหรับคนที่ใช้งานมือถือที่ยังไม่รองรับ Qi2 อาจยังไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบในการเปลี่ยนผ่านอะไร เพราะแท่นชาร์จ Qi2 ยังใหม่อยู่ จึงมีราคาค่อนข้างสูง เมื่อผ่านไปสักพักจนเริ่มมีราคาถูกลงแล้ว ค่อยซื้อหลังจากนั้นก็ไม่สาย
อ้างอิง : WPC (1, 2, 3) | Mishaal Rahman
Comment