เมื่อปลายปีที่แล้ว เราได้เห็นข่าวว่า Asus นั้นเตรียมจับมือกับ Google ทำ ZenFone AR และจะเปิดตัวในงาน CES 2017 ที่จะถึงนี้ ซึ่งมาตอนนี้ก็มีข่าวหลุดเกี่ยวกับวันเปิดตัวของ ZenFone AR ออกมาแล้วว่าจะเป็นวันที่ 4 มกราคม หรือก่อนงาน CES เพียงหนึ่งวัน โดยคนที่ทำข่าวหลุดนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Qualcomm นั่นเอง
ดูเหมือนว่า Qualcomm นั้นตื่นเต้นเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน Project Tango รุ่นที่สองที่ผลิตโดย Asus ไม่ใช่น้อย เพราะได้ทำการโพสต์บล็อกว่า Asus ZenFone AR จะเป็นสมาร์ทโฟน Tango ตัวแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 821 พร้อมกับลงวันที่ไว้เป็นวันที่ 4 มกราคม 2017 ซึ่งก็ตรงกับวันจัดงานของ Asus อยู่แล้วด้วย
ASUS ZenFone AR (2nd Google Tango phone) pic.twitter.com/ctKQ9IKfeC
— Evan Blass (@evleaks) January 2, 2017
สำหรับสเปคของ ZenFone AR นั้นยังไม่มีหลุดออกมาเลยแม้แต่น้อย รู้เพียงแค่ว่าจะมาพร้อมกับชิป Snapdragon 821 อย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็มีภาพหลุดจากทาง @evleaks ออกมาให้เราได้ยมโฉมกันแล้ว ก็น่าสนใจนะครับว่า ZenFone AR นั้นจะมีฟีเจอร์อะไรใหม่มากกว่าแค่สเปคที่อัพเกรดจากตอน Lenovo Phab 2 Pro หรือเปล่า อีกไม่กี่วันก็จะได้รู้กัน
ที่มา: Qualcomm, @evleaks via GSMArena
ในยุคของ AR / VR
ความละเอียดหน้าจอคงจะเป็น 2K / 4K
Lenovo สวยกว่าเยอะเลย
เคยใช้ Sony ใช้ AR ตอนซื้อเครื่องวันแรก
แล้วก็ลืมไปเลยว่ามันมี
งงนะ ว่าทำไม Google ถึงดันโปรเจ็คนี้จัง AR มันมีมานานมากแล้ว และมันก็สามารถใช้ได้จริงๆมานานแล้ว อย่างน้อยๆ จำได้เลยว่าสมาร์ทโฟนโนเกียเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีเกม AR ให้เล่นอยู่ ปัจจุบันมือถือราคา 2xxx ใช้ AR ได้ทุกรุ่น ถามว่ามีคนใช้เยอะมั้ย ก็ไม่นะ สุดท้ายเห็นแค่ใน Pokemon Go ที่แรกๆก็เปิด หลังๆเล่นไปซักพักเปลี่ยนเป็นแบบธรรมดาเพราะมันจะบโปเกมอนง่ายกว่า
คือ AR มันเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าคนไม่ใช้ ต่อให้ Upgrade ให้มันแม่นยำขึ้นหรือนิ่งขึ้นยังไงโอกาสที่คนจะมาใช้ก็ยากอยู่ดี(ดูในรีวิวเมหมือนมันก็ยังไม่ได้แม่นมากๆขนาดนั้นแถมค่อนข้างอืดอีก) ยิ่งโดยเฉพาะถ้าต้องซื้อมือถือเฉพาะรุ่นอีก
ดีๆๆครับ สู้ต่อไปจะได้มีนวตกรรมว๊าวๆ
ผมว่า AR จะกลับมาบูมนะ ที่สมัยก่อนมันยังไม่บูมเพราะด้วยประสิทธิภาพของ Device ที่ทำอะไรไม่ได้มาก
พอ VR เริ่มมา ก็เริ่มมีการเอาแนวคิด VR + AR เป็น MR แบบที่ Hololens ทำ Tango เองก็ทำมาเพื่อประสบการณ์ใช้งาน AR ดีขึ้น
โดยส่วนตัวผมว่า AR มันจะอยู่กับคนทั่วไปในอนาคตมากกว่า (แบบที่เราเห็นในหนัง Sci-Fi ที่หน้าต่างเสมือนลอยไปมา) ส่วน VR จะไปทางเกมมากกว่า