ถึงแม้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ Google จะเริ่มเตือนให้ทุกค่ายเปลี่ยนมาใช้ระบบชาร์จ USB Type-C แบบมาตรฐาน แต่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตชิปแบรนด์ดังมังกรไฟ Qualcomm นั้นจะไม่อยากให้การชาร์จไฟนั้นช้าลง เพราะล่าสุดมีข่าวลือว่ากำลังเตรียมที่จะเปิดตัว Quick Charge 4.0 ระบบชาร์จไฟเร็วออกมาในเร็วๆ นี้ คาดว่าน่าจะมาพร้อมกับชิป Snapdragon 830
ระบบชาร์จไฟ Quick Charge 4.0 นั้นรองรับการชาร์จไฟที่กำลังสูงสุดถึง 28 วัตต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับระบบ Quick Charge 2.0 และ 3.0 ในปัจจุบันนั้นรองรับกำลังไฟสูงสุดอยู่ที่ 18 วัตต์ เท่านั้น นี่มันยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุชัดๆ ทาง Qualcomm นั้นจะมีการเปิดตัวระบบที่จะจัดการเรื่องแรงดันไฟตัวใหม่มาพร้อมกับ Quick Charge 4.0 ด้วย โดยใช้ชื่อว่า INOV ย่อมาจาก Intelligent Negotiation for Optimum Voltage (อันนี้แปลกันเอาเองนะครับ ฮ่าๆ)
สำหรับระบบ INOV น่าจะเป็นระบบ smart charging ที่เอาไว้คอยเช็คเรื่องความร้อนของแบตเตอรี่ขณะชาร์จ รวมไปถึงเช็คเรื่องสายเคเบิ้ลที่เสียบ เพื่อดูว่าสามารถรองรับกระแสไฟได้ขนาดไหน และปรับเพื่อป้องกันอันตรายระหว่างชาร์จ หรือพูดง่ายๆ ว่า ป้องกันไม่ให้แบตมันระเบิดนั่นแหละครับ ส่วนสเปคอื่นๆ อย่าง แรงดันไฟ หรือ กระแสไฟ นั้นยังไม่มีระบุออกมา คงต้องรอดูกันอีกทีครับ
ที่มา: Phandroid
moto x style เป็น QC2.0 แต่ทำไมหัวชาร์จTurboPowerที่ให้มาในกล่องถึงเป็น25Wได้ล่ะครับ หรือว่าQCมีความสามารถแอบแฝง
หวังว่า Q.C. 4.0 จะทำให้แบตเสื่อม ช้าลง
เรียกว่าเปิดตัวมาแบบไม่แคร์กู(เกิ้ล)เลย วันก่อนกู(เกิ้ล)เพิ่งบอกไปแท้ ๆ มาวันนี้เปิดตัวสวนมันซะงั้น
อย่างว่ายุคนี้ไม่มีไม้เด็ดมาเป็นจุดขาย มันจะตายเพราะโดนทุบด้วยราคาน่ะสิ
ระบบชาร์จเร็วพวกนี้ผมว่ามันเหมาะกับ Power Bank ที่ขนาดแบตใหญ่ ๆ เกิน 10,000 mAh ขึ้นไปมากกว่ามือถือนะครับ เพราะถ้าใช้ระบบชาร์จปกติจะนานมากแบบข้ามคืนเลย ส่วนมือถือนี่ แค่ชาร์จปกติก็น่าจะเพียงพอ ช่วยยืดอายุแบตด้วย เดี๋ยวนี้ยิ่งถอดแบตไม่ค่อยได้อยู่แล้ว เปลี่ยนยาก
ผมใช้ Nexus 6P เปลี่ยนยาก หาไส้แบตมาเปลี่ยนยิ่งยากกว่าแกะเครื่องอีก
ไม่มีระบบ cool charge หรือ fast and cool charge บ้างเหรอ
ทุกวันนี้ชาร์จเร็วจริง แต่ก็ร้อนเหมือนกัน ต้องเลือกระหว่าง เร็ว ใช้งานทันใจ แต่ร้อน กับ แบตเสื่อมช้า แต่ชาร์จไม่ไว
หรือต้องรอแบตเตอรรี่แบบใหม่มาแทนลิเทียมไอออน
+1 น่ามีสองตัวเลือกในการชาร์จ
คิดแบบนี้เหมือนกัน ชาร์จไว แบตก็หมดไว เวลาไปเที่ยวหลายวัน วุ่นวายกับสายพาวเวอร์แบงก์อีก
เคยอ่านในเว็บนี้ ว่ามีมือถือเจ้าหนึ่งที่มีระบบ "ชาร์ดช้า" เพื่อลดการเสื่อมของแบตเตอรรี่
(ตรงข้ามกับชาร์ตเร็ว ที่เต็มเร็วขึ้น แต่แบตเสื่อมเร็วขึ้นด้วย)
แต่ขอโทษจริงๆ ผมจำรายละเอียดอย่างอื่นไม่ได้เลย
เทคโนโลยีมาไวไปไว สองสามปีเปลี่ยนทีถึงคุ้มเดี่ยวนี้เพิ่มทีละนิดหน่อยตามกันไปซิทาสเทคโนโลยี
ไวมาก quick charge 4 เปิดตัวสวยกูเกิลเลย 55+
แต่ quick charge ผมจะเปิดออฟชั่นชาร์จยามจำเป็น ต้องรีบจริงๆน่ะ วันปกติใช้ชาร์จธรรมดาลดความร้อนในการชาร์จถนอมกว่า
จริงๆ Charge เร็วๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่านะครับ ผมเคยอ่าน Technical specification ของแบตตัวนึงนานมาแล้ว พบว่าการ Charge เร็วแบตเสื่อมเร็วจริงๆ ครับ แต่ไม่ได้เสื่อมเร็วขนาดส่งผลต่อผู้ใช้ทั่วไป อย่างเช่น แบตมี Charge cycle ปกติ 1000 cycles แต่พอ Charge เร็ว Cycle อาจจะตกลงมาเหลือ 900 – 950 cycles ซึ่งน่าจะพอต่อการใช้งาน 3 ปีขึ้นไปครับ อีกอย่างแบตรุ่นใหม่ก็พัฒนาให้รองรับ Quick charge ได้ดีขึ้น คือเสื่อมช้าลงครับ
หากอยาก Slow charge สามารถทำได้ง่ายครับ โดย Charge กับ Notebook/Laptop ทั่วๆ ไปที่จ่ายไฟได้ 0.5 A 5 V ครับผม หรือสูงกว่านั้นหน่อยหากเป็น Notebook บางรุ่น
จริงๆ การถนอมแบตมีวิธีอื่นด้วยครับ เช่น ชาร์ตบ่อยๆ –> shallow discharges คือใช้ให้แบตลดไม่ต้องหมด คือ ประมาณ 20-30%แล้วชาร์ตใหม่ให้เต็ม ทำแบบนี้ cycle ของแบตก็จะเพิ่มจากสเปกจากการทดสอบมาตรฐาน เช่นจาก 1000 เท่า อาจจะเป็น 1200 cycle ครับ
อันนี้เป็นการยกตัวอย่างคร่าวๆ นะครับ ผมขี้เกียจไปนั่งอ่าน Technical specification และงานวิจัยใหม่ ขอโทษทีนะครับ ^^"
การชาร์ทเร็ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน แต่ต้องคิดเรื่องปัญหาเมื่อมันทำงานผิดปกติด้วยนะครับ
เพราะยิ่งการชาร์ทเร็วขึ้นมากเท่าไร แสดงว่าพลังงานที่อัดเข้าไปในแบตเตอรี่ก็มากขึ้นเท่านั้น หากแบตเตอรี่รับไม่ไหว จนระเบิดก็เกิดเรื่องใหญ่ได้ง่ายๆ
แม้ว่าผู้ออกแบบจะคิดวิธีป้องกันต่างๆนาๆก็ตาม แต่หากตัวป้องกันที่ออกแบบไม่ได้ทำงานตามที่คิดเอาไว้ หรือเกิดปัญหาขึ้นมาก็อันตรายครับ
ปกติการออกแบบจะมี failure analysis โดยทดลองให้เกิด failure ที่จุดต่างๆ แล้วดูผลว่า ปัญหาที่ตามมามีความรุนแรงแค่ไหน ถ้ารุนแรงมากจะต้องมีการเพิ่มตัวป้องกันเข้าไป หรือออกแบบใหม่
ซึ่งทำยากเหมือนกัน อาจจะทดลองไม่ครบทุกๆเงื่อนไขที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วหากปัญหาดันไปเกิดขึ้นในจุดที่ไม่ได้ทดลอง และไม่ได้ป้องกัน ก็โชคร้ายไป
เอาจริงๆ ส่วนตัวผม ผมว่าชาทไว เต็มที่ 0-100 นี่ใช้เวลา 40 นาทีก็โอละนะ แต่อยากได้สักรุ่นที่อึดข้ามวัน ผมว่าน่าสนมากๆ