หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย COVID-19 กับโครงการ “เราชนะ” กันไปแล้ว ล่าสุดทาง รมว. คลังได้ออกมาให้ข้อมูลคุณสมบัติของ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับสิทธิ์ “เราชนะ” ที่จะได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งจะไม่ได้ให้เป็นเงินสด แต่จะทำการโอนผ่านแอปกระเป๋าตังค์ สัปดาห์ละครั้งจนครบจำนวนเงิน โดยเริ่มเปิดลงทะเบียน 29 มกราคม นี้
สำหรับโครงการ “เราชนะ” ทาง รมว.กระทรวงการคลังได้มีมติเห็นชอบกับที่จะนำมาใช้เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยจะจ่ายเป็นเงินเยียวยาจำนวน 3,500 บาท/เดือน เป็นระยะเป็นเวลา 2 เดือน รวมเป็นคนละ 7,000 บาท รวมทั้งสิ้น 31.1 ล้านคน ซึ่งรวมเป็นวงเงินทั้งหมด 2.1 แสนล้านบาทด้วยกัน โดยงบในส่วนนี้จะเป็นงบที่ได้มาจากเงินกู้และงบเยียวยารวมกัน
เงื่อนไขคนที่สามารถใช้สิทธิ์โครงการเราชนะ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปี ขึ้นไป
- ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ตามกฎหมายประกันสังคม (พนักงานเงินเดือนที่มีประกันสังคมสมัครไม่ได้)
- ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานรัฐ ที่ได้ค่าตอบแทนจากรัฐโดยตรง
- ไม่เป็นข้าราชการทางการเมืองหรือผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 300,000 บาทต่อปี(ในปีภาษี 2562) รวมทั้งมีเงินฝากรวมทุกบัญชี ไม่เกิน 500,000 บาท ในวันที่ 31 ธ.ค. 2562
โดยการแจกจ่ายเงินจะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เช่น แอป เป๋าตังค์ เพื่อลดภาระในการต้องไปต่อคิวเพื่อกดเงินจากตู้ ATM นั่นเอง
ใครสามารถใช้สิทธิ์ได้บ้าง
สำหรับเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสิทธิ์จะแบ่งออกได้เห็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
1. กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- เป็นผู้มีรายได้รวมไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ที่ได้รับเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 800 บาท/เดือน โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มคนละ 2,700 บาท/เดือน (รวมได้รับเงินจาก “เราชนะ” 5,400 บาท)
- เป็นผู้มีรายได้ระหว่าง 30,000 – 100,000 บาท/ปี ที่ได้รับเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท/เดือน โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มคนละ 2,800 บาท/เดือน (รวมได้รับเงินจาก “เราชนะ” 5,600 บาท)
ผู้มีรายได้ทั้ง 2 แบบเงิน จะได้รับเงินเป็นรายสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
2. กลุ่มที่เคยลงทะเบียนคนละครึ่ง/เที่ยวด้วยกัน
สำหรับกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีแอป เป๋าตังค์ มาก่อนทำให้รัฐมีฐานข้อมูลอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกลุ่มนี้รัฐจะคัดกรองตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ด้านบน โดยต้องยินยอมให้ภาครัฐตรวจสอบข้อมูลรายได้ก่อน
- หากผู้สมัครผ่านเกณฑ์ จะได้รับเป็นเงิน 1,000 บาท/สัปดาห์ ไปจนครบ 7,000 บาท เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. เป็นต้นไป
3. กลุ่มที่ไม่มีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลของรัฐ
กลุ่มที่ไม่เคยลงทะเบียนโครงการใด ๆ ของภาครัฐ จำเป็นต้องทำการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ “เราชนะ” โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนกันในวันที่ 29 ม.ค. – 12 ก.พ. 2564
- หากผู้สมัครผ่านเกณฑ์ จะได้รับเป็นเงิน 1,000 บาท/สัปดาห์ ไปจนครบ 7,000 บาท เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. เป็นต้นไป
**เพิ่มเติม โครงการเราชนะจะมีระยะเวลาการใช้เงินจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 ซึ่งถ้าใครใช้ไม่หมดก็จะไม่สามารถใช้ต่อและเสียสิทธิ์ทันทีที่หมดอายุ
อย่างไรก็ตามจากเงื่อนไขข้างต้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้เงินช้ากว่าคนอื่น 1 สัปดาห์ แต่ทางรัฐจะทำการโอนเงินชดเชยสัปดาห์ที่ช้าให้ ทำให้กลุ่มที่ 2 และ 3 ได้เงินงวดแรกเป็นเงิน 2,000 บาท แล้วสัปดาห์ต่อไปก็จะได้ 1,000 บาทตามปกติ จนครบ 7,000 บาท
ทั้งนี้ทั้งนั้น โครงคนละครึ่ง จะมีการอนุมัติเพิ่มอีก 1.3 ล้านสิทธิ์ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้สมัครก็สามารถรอที่จะสมัครได้ ในวันที่ 20 ม.ค. 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. และเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.เราชนะ.com/
Source: ThaiPBS
บรรทัดสุดท้ายพิมพ์ว่า https://www.เราชนะ.com/ แต่ลิ้งค์กลับไปที่ https://www.คนละครึ่ง.com/ ครับ
คนที่มีรายชื่ออยู่ในระบบแล้วจะได้รับการแจ้งสิทธิเมื่อใด หรือต้องป้องกันการหลุดสิทธิให้ไปลงทะเบียนไว้ก่อนในวันที่ 29 มค. (เพราะคนที่จะได้สิทธิที่มีรายชื่อในฐานข้อมูลจะรู้หรือไม่รู้ว่าได้หรือไม่หรือรายชื่อตกหล่นหรือไม่ก็โน่นเลย 18 กพ.) วันลงทะเบียนก็กรอกๆไปก่อนเพื่อรักษาสิทธิไม่ดีกว่ารึ (แต่ก็กลายเป็นสร้าง traffic หรืออาจไปตัดสิทธิคนอื่นหรือเกิดการซ้อนสิทธิอีก) ทำไมไม่แจ้งให้มันชัดเจนกว่านี้