ใครที่เดินทางต่างประเทศเป็นประจำ น่าจะคุ้นชินหรือเคยใช้ SIM2Fly จากเอไอเอสกันมาบ้างแล้ว แค่ซื้อซิมมาใส่ก่อนบินก็ใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศได้แบบสะดวก ๆ ไม่ต้องเดินหาซื้อซิมในสนามบินเองให้วุ่นวาย แถมส่วนมากมีราคาที่สูงกว่าจำเป็นซะอีก โดยเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมามีออกแพ็กเกจใหม่ Ready2Fly ที่ทำให้เราเดินทางด้วยซิมที่ใช้อยู่ได้เลย ไม่ต้องซื้อเปลี่ยนซิมใหม่ รอจ่ายทีเดียวพร้อมกับบิลรายเดือนได้เลย ส่วนว่าจะดีและสะดวกแค่ไหน เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังกันครับ
วิธีการสมัครแพ็กเกจ Ready2Fly แค่กดรหัสและโทรออก
ข้อดีของ Ready2Flyเทียบกับ SIM2Fly อะไรน่าใช้กว่า
ทดลองใช้งาน Ready2Fly จริงที่ต่างประเทศ
บทความนี้เขียนหลังจากเดินทางไปนิวซีแลนด์และได้ลองสมัคร Ready2Fly ใช้งานมานะ โดยเรียกว่าได้ลองใช้งานแบบตรงตามจุดประสงค์เลย คือปกติจะเป็นคนพก SIM2Fly ไปใช้งานอยู่ตลอด ก่อนเดินทางก็มั่นใจเตรียมทุกอย่างไปพร้อมแล้ว แต่สิ่งนึงที่มักจะหาไม่เจอ ไม่รู้ไปลืมเก็บเอาไว้ที่ไหนก็คือ SIM2Fly เนี่ยแหละ ใช้เมื่อตอนเดินทางครั้งก่อนหน้า พอจบทริปก็เอาไปวางเก็บไว้ที่ไหนสักที่จนลืมเสมอ ซึ่งก็เกิดขึ้นกับทริปนี้ไม่ต่างกัน และดันไปรู้ตัวเมื่อถึงสนามบินแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าจะซื้อซิมใหม่ แต่ก็ไม่ได้อยากเก็บซิมมีเบอร์เพิ่มแล้ว ก็นึกถึง Ready2Fly ขึ้นมาได้ เลยได้ลองกดมาใช้กัน เรื่องแพ็กเกจและวิธีการสมัครจะขอไม่เขียนละเอียดตรงนี้ เดี๋ยวไปสรุปที่ด้านล่างให้อีกทีนะครับ
สามารถกดข้ามไปดูรายละเอียดก่อนได้
วิธีการสมัครแพ็กเกจ Ready2Fly แค่กดรหัสและโทรออก
น่าเสียดายว่า New Zealand ไม่ได้อยู่ในแพ็กเกจเอเชีย & ออสเตรเลีย ที่ 399 บาท ต่อ 10 วัน เลยต้องสมัครขึ้นไปที่ 899 บาทแทน
เครื่องลงก็พร้อมใช้งาน
หลังจากสมัครใช้งาน Ready2Fly ก่อนเครื่องจะขึ้น พอเครื่องลงและเปิดเครื่องจับสัญญาณเครือข่ายที่ประเทศปลายทางได้ปุ๊บก็จะมีข้อความอัตโนมัติให้สมัครแพ็กเกจโรมมิ่งเข้ามาหาเราทันที ซึ่งไม่ต้องสนใจไปครับ เพราะเราสมัครเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ไปเปิดการตั้งค่า data roaming เพิ่มเติมเพื่อเริ่มใช้งานได้เลย
iOS : Settings > Cellular > Cellular Data Options > Data Roaming
Android : Settings > Connections > Mobile Networks > Data Roaming
Note การลืมเปิด data roaming เป็นสาเหตุหลักที่หลายคนใช้งานเน็ตไม่ได้เมื่อไปถึงต่างประเทศเวลาใช้ซิมท่องเที่ยวเลย
ซึ่งหลังจากลองเดินสำรวจแล้ว ราคา 899 ของ Ready2Fly ถือว่าโอเคมาก ถ้าเทียบกับแพ็กเกจของเครือข่ายในนิวซีแลนด์เอง ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าราคาพอ ๆ กันบริการโรมมิ่งจะน่าสนกว่าซิมท้องถิ่นเล็กน้อยคือ สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องรอซื้อซิมใหม่หรือเปลี่ยนซิม และเกาะได้หลายเครือข่าย
ราคาซิมนักท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ที่ขายๆกันจะอยู่ที่ N$59 หรือราว 1200 บาทนะ
เอาภาพจาก New Zealand สวยๆมาฝากให้ดูพักผ่อนสายตา ^^
Castle Hill ทุ่งหญ้าและหินสุดตระการตา ที่มาของฉากหนังดังอย่าง Narnia
Milford Sound ล่องเรือชมหุบเขาสุดอลัง ที่สองข้างทางระหว่างเดินทางไปอลังยิ่งกว่า
Mt.Cook | Hooker Valley Track ทางเดินธรรมชาติบริเวณเมาท์คุ๊กที่เดินเพลินสุดๆ อากาศดีและสวยงามมาก
#ThatWanakaTree ต้นไม้กลางทะเลสาบ ที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนต้องแวะมาถ่ายภาพ เมื่อไปถึงเมืองวานากะ
Sheep Farm @ Glenorchy แต่ในภาพเป็นตัวอัลปาก้านะ
Somewhere on the road ทิวทัศน์ที่เห็นได้ตลอดสองข้างทางของการขับรถที่ประเทศนิวซีแลนด์ สวยแบบไม่รู้จะสวยยังไงแว้วววว
ทริปนี้ผมได้เดินทางไปทั้งเกาะเหนือ-ใต้ ของนิวซีแลนด์ ลัดเลาะไปก็หลายที่ แต่ไม่ขอเจาะเรื่องการเที่ยวมากไปกว่าภาพข้างบนละกันเดี๋ยวจะกลายเป็นรีวิวประเทศนิวซีแลนด์ไปแทน 555 การใช้งานโดยทั่วไปของแพ็กเกจ Ready2Fly สามารถจับสัญญาณได้ดี ไม่เจอปัญหาสัญญาณขาดจากการโรมมิ่งแต่อย่างใด ต่างจากบางประเทศที่ถ้าใช้ซิมโรมมิ่งแล้วเน็ตจะติดๆดับๆพอควร เหมือนเครือข่ายประเทศนั้นไม่ได้ปรับแต่งมาสำหรับซิมโรมมิ่งนัก โดยประเทศนี้มีสัญญาณที่ครอบคลุมในตัวเมืองเป็นหลัก แต่บนถนนหรือสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจะไม่ค่อยมีสัญญาณ ซึ่งข้อดีของการใช้ซิมโรมมิ่งก็คือหากพื้นที่มีสัญญาณแค่บางเครือข่าย เราก็จะยังใช้สัญญาณได้ หากเราซื้อซิมค่ายใดค่ายหนึ่งก็จะจำกัดการใช้งานเพียงค่ายนั้น ไม่สามารถใช้งานข้ามเครือข่ายไปมาเหมือนซิมโรมมิ่งได้นั่นเอง (แต่ขึ้นกับว่าเครือข่ายนั้นๆ มีการทำสัญญาว่าจะโรมมิ่งกับเครือข่ายบ้านเราเอาไว้รึเปล่าด้วยนะ)
ตรวจสอบเน็ตคงเหลือแบบง่าย ๆ ผ่านแอป myAIS
หลังจากใช้งานไปได้สักพัก หลายคนก็เริ่มจะกังวลว่าที่โหลดข้อมูลแผนที่ สถานที่ท่องเที่ยว หรือติดต่อกลับมาเมืองไทยทำงานแล้ว เน็ตจะเหลือเท่าไหร่ จะเพียงพอกับการใช้งานตลอดเวลาทริปที่เหลืออยู่รึเปล่า ตรงนี้ก็ทำได้ไม่ยากเลย เพียงเข้าแอป myAIS เลือกดู Current Roaming Package ก็จะมีข้อมูลดาต้าคงเหลือขึ้นมาบอกแล้วล่ะ
อย่างไรก็ดีเน็ต 4G ที่นิวซีแลนด์ไม่ได้แรงและครอบคลุมเท่าบ้านเรานัก ระหว่างทางที่ขับรถอยู่ก็ไม่ได้มีเน็ตให้ใช้ตลอดเวลา พอถึงที่พักก็ใช้ WiFi ทำให้เน็ตที่ได้มา 7 GB นั้นใช้ไม่หมดจ้า เหลืออีกหลายกิ๊กอยู่ ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปใช้งานเน็ตหลายๆประเทศมา ทุกครั้งที่กลับถึงไทยก็จะรู้สึกดีกับบ้านเรามาก เพราะว่า 4G เมืองไทยนี่ถือว่าแรงกว่าหลายประเทศในแถบยุโรป ออสเตรเลีย หรืออเมริกาซะอีก แถมความครอบคลุมก็มีเยอะกว่ามากอีกด้วย
และข้อดีของการใช้แพ็กเกจ Ready2Fly นอกเหนือจากที่เราไม่ต้องเปลี่ยนซิมแล้ว ก็จะมีเรื่องใช้ก่อนจ่ายทีหลังอีกอย่าง เพราะค่าใช้จ่ายเมื่อสมัครแพ็กเกจ Ready2Fly สำหรับลูกค้ารายเดือน จะเอาไปคิดรวมกับใบแจ้งหนี้ของค่าโทรศัพท์เราไปเลยได้ด้วย อย่างของผมจบทริปมาก็ไปตรวจสอบใบแจ้งค่าบริการ ก็จะมีรายละเอียดต่างๆขึ้นมาให้จรวจสอบได้ทั้งหมดเลย
สรุปรีวิว Ready2Fly
หลังจากที่ได้ใช้งาน Ready2Fly ตลอดทริปนิวซีแลนด์ รวมถึงใช้งาน SIM2Fly มาแบบโชกโชน ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีมากที่มีแพ็กเกจเสริมแบบนี้เกิดขึ้นมา และแนะนำให้ทุกคนได้ใช้กัน เพื่อความคุ้มค่า และขอสรุปข้อดีของ Ready2Fly มาให้ตามนี้ครับ
Ready2Fly ไม่ต้องกลัวลืมซื้อ หรือกลัวซิมหาย
ไปต่างประเทศ ใช้ SIM2Fly มาก็หลายทริป สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ ซิมที่ซื้อเอาไว้ดันหายหรือลืม จะไปซื้อซิมที่สนามบินบางทีก็ไม่ทัน (ไปสายไง 555) และไม่อยากเปิดซิมพร่ำเพรื่อ บินไปถึงที่หมายบางครั้งก็ต้องจำใจเปิดโรมมิ่งหรือซื้อซิมของเครือข่ายที่ประเทศนั้น ๆ ไป ซึ่งก็แน่นอนว่าราคาจะหฤโหดกว่า SIM2Fly แน่นอน มี Ready2Fly คือลดปัญหาเรื่องนี้ลงได้มาก
Ready2Fly ไม่ต้องถอดเปลี่ยน หรือถือเครื่องเพิ่ม
พอไม่ต้องซื้อซิมเพิ่มแล้ว แน่นอนว่าก็ใช้เครื่องและซิมที่มีอยู่ใช้งานได้เลย ต่างจาก SIM2Fly ที่ต้องถอดเปลี่ยนเพื่อใช้งาน ซึ่งถ้าเกิดเครื่องไม่รองรับ 2 ซิม ก็อาจจะต้องไปหาเครื่องใหม่เสียบใช้งานกันเลย กรณีที่ยังต้องการเปิดเบอร์หลักรอรับสาย หรือติดต่องานอยู่
ข้อควรรู้ บริการ Ready2Fly ถ้าต้องการโทรออก / รับสาย จะคิดค่าใช้จ่ายเรตเดียวกับโรมมิ่งปกติ แต่ถ้าอยากได้เรตราคาประหยัด ก็สามารถสมัครแพ็กเสริมสำหรับโทรออก/รับสายโรมมิ่งได้
Ready2Fly เข้าทำธุรกรรมต่างๆสะดวกกว่า
บริการทางการเงินต่าง ๆ ทุกวันนี้เข้าใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนกันได้เกือบทั้งหมด ซึ่งโดยมากจะมีขั้นตอนยืนยันตัวตน ว่าเป็นเราใช้งานจริงหรือไม่จากเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อเข้าใช้บริการ ถ้าหากว่าเราใช้ SIM2Fly ปัญหาเรื่องนี้ก็จะเกิดขึ้นทันที เพราะเบอร์ที่ติดต่อเข้าไปจะกลายเป็นอีกเบอร์ ทำให้ตัวแอปไม่ยอมทำงาน เคยเจอกับตัวมาแล้วหลังจะใช้แอปธนาคารหนึ่งที่ต้องมีการตั้งค่ายินยอมให้เข้าใช้งานผ่านเบอร์อื่นได้ แต่ดันลืมตั้งเอาไว้ก่อนไปใช้งานต่างประเทศ ทำเอาวุ่นวายต้องหาทางแก้ไขปัญหากันปวดหัวเลย ต่างจาก Ready2Fly ที่จะไม่มีปัญหานี้แน่นอน
Ready2Fly ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง ไม่ต้องคอยเลี้ยงซิม
คนที่ใช้ SIM2Fly เป็นประจำน่าจะพอรู้กันดีว่าถ้าหากเราเก็บซิมเอาไว้ใช้ครั้งต่อไป จะมีแพ็กเกจที่ราคาประหยัดลงกว่าปกติให้เลือกใช้งานกันได้ แต่ปัญหาคือเราต้องเติมเงินเลี้ยงซิมให้สามารถใช้งานต่อได้จนกว่าจะได้เดินทางครั้งต่อไป เกิดความลำบากในการใช้งานอยู่เล็กน้อย แต่ถ้าใช้เป็นแพ็กเกจ Ready2Fly ก็หมดกังวลเรื่องเลี้ยงซิมไป โดยเฉพาะสำหรับคนที่จ่ายรายเดือนจะยิ่งสบาย เพราะไม่ต้องเอาเงินเข้าไปซื้อแพ็กเกจทันที แต่รอจ่ายเมื่อถึงรอบบิลเลยได้ ยิ่งถ้าเกิดเดินทางบ่อย ๆ สมัครใช้งานเป็นประจำ ก็จะสามารถสะสมแต้ม AIS Points แลกส่วนลดและของรางวัลต่าง ๆ ได้อีกเพียบ
สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครแพ็กเกจ Ready2Fly ก็ไปดูเรื่องรายละเอียดแพ็กเกจรวมวิธีการสมัครกันต่อด้านล่างได้ครับ
รายละเอียดแพ็กเกจ Ready2Fly
มีให้เลือก 3 แพ็กเกจ สำหรับคนเดินทางใกล้ๆ ไปประเทศเพื่อนบ้าน หรือจะเดินทางไปเอเชีย-ออสเตรเลีย (ไม่รวมนิวซีแลนด์) หรือจะไปทุกทวีปทั่วโลกเลยก็ได้
แพ็กเกจ | ราคา* | ดาต้า** | วัน | จำนวนประเทศ |
ประเทศเพื่อนบ้าน | 93 บาท | 2 GB | 7 | 4 |
เอเชีย & ออสเตรเลีย | 399 บาท | 6+1 GB | 10 | 20 |
ทุกทวีปทั่วโลก | 899 บาท | 6+1 GB | 15 | 81 |
ข้อควรรู้ก่อนใช้งาน
- ใช้ได้ทั้งรายเดือนและเติมเงิน
- ต้องเปิดบริการข้ามแดนอัตโนมัติก่อน ถ้ายังไม่เคยกด *128*1#📞
- *ราคายังไม่รวม VAT ถ้าใครใช้ซิมเติมเงินอย่าลืมเติมเผื่อด้วย โดยคำนวนออกมาแล้วได้เท่ากับ 99 | 426.93 | 961.93 บาท ตามลำดับ
- **+1 GB เป็นโปรโมชั่นถึง 31 ม.ค. 63 นี้
- การนับวันของแพ็กเกจจะนับทันทีหลังกดสมัคร แต่ดาต้าจะนับเมื่อมีการใช้งานต่างประเทศ
- หลังจากสมัครแล้วต้องใช้ภายใน 30 วัน ถ้าไม่ใช้ เกิดเรื่องอะไรจนไม่ได้เดินทาง AIS ใจดีคืนเงินให้ภายใน 45 วัน
- ถ้าใช้ดาต้าหมด เน็ตจะยังสามารถวิ่งได้ที่ 128 Kbps
- การนับวัน จะเริ่มตั้งแต่กดสมัคร + 24 ชม. เท่ากับ 1 วัน
- สามารถใช้ได้ในประเทศที่กำหนดเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นจะไม่สามารถใช้ได้ (แต่อาจจะสามารถเปิดโรมมิ่งเพิ่มเติมได้ เพราะบางประเทศไม่ร่วมรายการ แต่ยังยอมให้โรมมิ่ง)
Ready2Fly แพ็กเกจไหนรองรับประเทศอะไรบ้าง
World | |||||
Asia & Australia | |||||
Neighbours | |||||
พม่า | ลาว | กัมพูชา | มาเลเซีย | ||
ญี่ปุ่น | เกาหลีใต้ | จีน | สิงคโปร์ | ||
ไต้หวัน | เวียดนาม | มาเก๊า | บรูไน | ||
ศรีลังกา | อินเดีย | ฟิลิปปินส์ | อินโดนีเซีย | ||
ฮ่องกง | กาตาร์ | เนปาล | ออสเตรเลีย | ||
กรีซ | กาตาร์ | กานา | เกาหลีใต้ | ||
แคนาดา | จีน | ญี่ปุ่น | เดนมาร์ก | ||
ตุรกี | ไต้หวัน | เนเธอร์แลนด์ | บรูไน | ||
บังกลาเทศ | บัลแกเรีย | เบลเยียม | โปรตุเกส | ||
ฝรั่งเศส | พม่า | ฟินแลนด์ | ฟิลิปปินส์ | ||
มอลตา | มาเก๊า | มาเลเซีย | ยูเครน | ||
เยอรมัน | รัสเซีย | ลาว | ลิกเตนสไตน์ | ||
เวลส์ | เวียดนาม | ศรีลังกา | สก๊อตแลนด์ | ||
สเปน | สวิตเซอร์แลนด์ | สวีเดน | สหรัฐ ฯ | ||
สาธารณรัฐเช็ก | สาธารณรัฐสโลวัก | สิงคโปร์ | ออสเตรเลีย | ||
ออสเตรีย | อังกฤษ | อิตาลี | อินเดีย | ||
อินโดนีเซีย | อิสราเอล | เอสโตเนีย | แอฟริกาใต้ | ||
แอลเบเนีย | ไอร์แลนด์ | ไอร์แลนด์เหนือ | ฮ่องกง | ||
ฮังการี | นิวซีแลนด์ | คูเวต | โครเอเชีย | ||
โคลอมเบีย | ซานมารีโน | เซอร์เบีย | นอร์เวย์ | ||
โอมาน | เนปาล | ปากีสถาน | เปอร์โตริโก | ||
โปแลนด์ | มาซิโดเนีย | เม็กซิโก | ลัตเวีย | ||
ลิทัวเนีย | วาติกัน | สฟาลบาร์และยานไมเอน | สโลวีเนีย | ||
หมู่เกาะแฟโร | หมู่เกาะเวอร์จิน | หมู่เกาะโอลันด์ | อาร์เจนตินา | ||
อาร์เมเนีย | อียิปต์ | อุซเบกิสถาน | ไอซ์แลนด์ |
วิธีการสมัครแพ็กเกจ Ready2Fly แค่กดรหัสและโทรออก
การสมัครแพ็กเกจทำได้ง่ายมาก แค่ยกโทรศัพท์มากดรหัสของแพ็กเกจที่ต้องการ รอการยืนยันเป็น SMS จากเครือข่ายก็เรียบร้อย
แพ็กเกจ | ราคารวม VAT* | วิธีกดรหัส |
ประเทศเพื่อนบ้าน | 99 บาท | *111*407#📞 |
เอเชีย & ออสเตรเลีย | 426.93 บาท | *111*408#📞 |
ทุกทวีปทั่วโลก | 961.93 บาท | *111*409#📞 |
หลังจากสมัครแล้ว เราจะได้ SMS ส่งมายืนยันตามนี้ครับ ซึ่งถ้าใครปิด หรือยังไม่เคยสมัครบริการเน็ตโรมมิ่ง ก็อาจจะมีแจ้งเตือนว่าทำการสมัครแพ็กเกจ Ready2Fly ไม่ได้ให้ไปทำการสมัครหรือเปิดเน็ตโรมมิ่งก่อน โดยสามารถกด *128*1#📞เพื่อสมัครได้เลย แล้วค่อยกดรหัสของ Ready2Fly อีกรอบครับ
ข้อดีของ Ready2Fly เมื่อเทียบกับ SIM2Fly
หลังจากที่ได้ลองใช้แพ็กเกจ Ready2Fly มาทริปนึง ก็ขอมาสรุปเปรียบเทียบกับ SIM2Fly ที่ใช้มาหลายทริปให้ได้ทราบกัน ทั้งสองแบบมีจุดเด่นที่ต่างกันพอสมควร ดังนี้
Ready2Fly | SIM2Fly | |
ซิม | ซิมเดิมเบอร์เดิม ไม่ต้องถอดเปลี่ยนซิม | ซิมใหม่เบอร์ใหม่ ต้องถอดเปลี่ยนหรือหาเครื่องเพิ่ม |
ทำธุรกรรม | ใช้เบอร์เดิม ยืนยันตัวตนได้ง่าย | |
การเรียกเก็บเงิน | รวมในบิลได้ กรณีรายเดือน | เติมเงินก่อนเท่านั้น |
ค่าบริการ | ประหยัดขึ้น เมื่อใช้ SIM2Fly ซิมเดิม | |
VAT | ราคายังไม่รวม VAT | ราคารวม VAT แล้ว |
WiFi Calling (โทรออกรับสายต่างประเทศแบบประหยัด) | ใช้ได้ กรณีปล่อยสัญญาณให้เบอร์อื่น | ใช้ได้ กรณีปล่อยสัญญาณมาให้เบอร์หลัก |
ยังไงใครจะเดินทางต่างประเทศช่วงหยุดยาวนี้ก็ลองเลือกกันได้ครับ ว่าจะไป Ready2Fly หรือ SIM2Fly กันและถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดของ AIS Ready2Fly กันเพิ่มเติมได้เลยครับ
ดีครับจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนซิม 🙂 🙂
ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกรอมานาาน
ปีนี้ได้ลองทั้งสองแบบ ในปีเดียวครับ
ไปยุโรป ใช้ sim2fly พอซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต
บัตรถามรหัส otp สองรอบ กรอกไม่ผ่าน เพราะบัตรผูกกับเบอร์โทรหลักที่ไทย
สุดท้ายโดนอายัติบัตร วุ่นวายพอสมควร(แต่ก็ผ่านมาได้)
แล้วไปไต้หวัน ใช้ Ready2Fly สะดวกมาก รับ sms ได้หมด จะโดนถาม otp อะไรสบายมาก
รับได้แม้แต่คนโทรเข้าจากไทย(แต่ตัดสายทิ้ง เพราะรับสายนาทีละ 50 อะไรประมาณนี้)
ใช้ได้ตั้งแต่เครื่องบินแลนดิ้ง
เทียบราคากับเพื่อนซื้อซิมไต้หวันตก 300 บาท แต่ Ready2fly 399
ราคาต่างกัน 100 นึง แต่อุ่นใจ สะดวกกว่ากันมาก เน็ตที่ไต้หวันเร็วปรื๋อ
ทริป 5 วัน เน็ต 6gb ใช้แบบไม่ออมมือ เพียงพอครับ
เสริมนิดครับ edit ข้อควาไม่ได้
ข้อแนะนำสำหรับคนไปเที่ยวเมืองนอกระยะสั้นๆ
1.ใช้แบบ Ready2Fly ดีกว่า Sim2Fly แน่นอน และแพงกว่าซิมท้องถิ่นเพียงเล็กน้อยหลักร้อยบาท
2.คุณไม่ต้องเปลี่ยนซิม และใช้ได้ทันทีที่เครื่องแลนดิ้ง แจ้งพ่อ แม่ ลูก เมีย ที่สุดแสนห่วงใยได้ทันทีว่าถึงที่หมายปลอดภัยแล้ว
ไม่ต้องไปเดินซื้อซิม ไม่ต้องพกเข็มจิ้มซิม ไม่ต้องสลับซิม-กลัวซิมหาย ไม่ว่าขาไปขากลับ
3.อุ่นใจหายห่วงกับการใช้บัตรเครดิต ที่บางครั้งมีการถามรหัส otp การรับsms จากไทย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใดๆทั้งสิ้น
เรื่องการรับ otp ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเวลาเที่ยวต่างแดน
4.สำหรับคนทำงาน อย่าลืม divert call ไปยังเบอร์คนที่ไทยก่อนเดินทาง เพื่อให้คนที่ไทยรับสายแทน
เพราะ Redy2fly ค่ารับสายที่ ตปท. ยังคงแพงมาก
ปล่อย wifi ได้ไหมครับ?
ปล่อยได้ทั้ง Ready2Fly และ Sim2Fly
แต่ก่อน ผมใช้ sim2fly ใส่ mifi เพื่อให้ใช้ wifi calling และ รับ otp ได้
ข้อเสียคือ ต้องพก mifi เพิ่มอีกตัว และถ้าเก็บในกระเป๋า mifi จะค่อนข้างร้อนทีเดียว
แถมแบตอยู่ได้ราวๆ 8-10ชม. ยังไม่จบวัน ต้องพก powerbank เพิ่มอีกก้อน
ทางแก้คือ สมัคร dtac เติมเงิน เพื่อให้ใช้ dtac call ได้ และตั้ง divert ไปเบอร์ ais ตั้งแต่ยังอยู่ในไทย
เพราะปีที่แล้ว ไปตั้ง divert ตอนอยู่วังเวียง ปรากฎว่าตั้งแล้วใช้ไม่ได้ ต้องมาตามไล่แก้ตอนกลับมาแล้ว
ถ้าจำไม่ผิด เกิดจากระบบตั้ง prefix number ผิด
ข้อเสียของวิธีนี้ คือรับ otp ไม่ได้ และน่าจะใช้แอพธนาคารไม่ได้ (โชคดีตอนนั้นไม่ต้องใช้)
ปัญหาทุกอย่างจะหมดไป หาก ais ได้โปรดทำ แอพ calling เสียที
ผมใช้เบอร์หลักเป็น dtac อีกซิมเป็น Sim2Fly
เติมเงินเลี้ยงที่บอก ก็เติมทีละ 10-20 เติมทีให้ครบปี แล้วใช้ standby รับสายได้เผื่อพื้นที่ dtac ห่วยๆ พอจะไปต่างประเทศ 10-20 ที่เติมไว้ก็ใช้ซื้อ package ได้เลยด้วยนะครับ
เรื่อง โทร+รับสาย+รับ sms ที่ต่างประเทศ ก็ปิด Sim dtac แล้วใช้ dtac wifi calling แทนเลย สะดวกสุดใน 3 ค่ายละครับ ของ true ใช้ net อีกซิมไม่ได้ต้อง wifi เท่านั้น ส่วน ais เหมือนจะไม่มี