ในขณะที่มือถือเรือธงที่ใช้ชิป Dimensity 9400 จาก OPPO และ vivo มีกำหนดเปิดตัวในเดือนนี้ คาดว่ามืถือที่ใช้ชิปอีกค่ายอย่าง Snapdragon 8 Gen 4 เช่น iQOO 13 และ realme GT7 Pro จะเปิดตัวช้ากว่านั้นเล็กน้อยครับ เนื่องจากชิปเซตมีกำหนดเปิดตัวระหว่างวันที่ 21 ถึง 23 ตุลาคม ทำให้ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า realme GT7 Pro อาจเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน ล่าสุดแหล่งข่าว Digital Chat Station ได้เปิดเผยรายละเอียดหน้าจอของสมาร์ทโฟนเวอร์ชั่น global แล้ว

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวเคยเปิดเผยว่าโทรศัพท์จะมีหน้าจอ BOE X2 แบบโค้งสี่ด้านความละเอียด 1.5K อย่างไรก็ตาม ในโพสต์ล่าสุด แหล่งข่าวบอกว่าอุปกรณ์เวอร์ชั่น global จะใช้หน้าจอที่ปรับแต่งเองโดย Samsung นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเครื่องสแกนลายนิ้วมืออัลตราโซนิกแบบจุดเดียว ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากเซนเซอร์ออปติคอลใต้หน้าจอที่ใช้บน GT5 Pro รุ่นก่อนหน้า
และแม้ว่า Digital Chat Station จะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสเปคเกี่ยวกับโทรศัพท์เครื่องนี้มากนัก แต่แหล่งข่าวบอกว่าคุณสมบัติต่างๆ บนอุปกรณ์นั้นเหนือกว่ารุ่นเรือธงระดับไฮเอนด์หลายรุ่น ซึ่งบ่งบอกถึงรุ่นนี้จะเป็นเรือธงอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดโลก

และตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โทรศัพท์จะมีแบตเตอรี่ที่มีความจุมากกว่า 6,000 mAh ซึ่งถือเป็นแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ realme แล้วยังเป็นแบตเตอรี่แบบซิลิคอน-คาร์บอนแอโนด ซึ่งมีความหนาแน่นของพลังงานที่สูงกว่า และสามารถรักษารูปลักษณ์ที่เพรียวบางและน้ำหนักเบาเอาไว้ได้ โทรศัพท์เครื่องนี้ยังผ่านการรับรอง 3C แล้ว โดยมาพร้อมอะแดปเตอร์แปลงไฟ 120W อย่างไรก็ตาม ด้านความเร็วการชาร์จยังไม่ได้รับการยืนยัน
ด้านหน่วยความจำ โทรศัพท์เครื่องนี้จะมาพร้อม RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB และที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 1TB ชิปเซตใช้เป็น Snapdragon 8 Gen 4 (หรือ Snapdragon 8 Elite) ซึ่งตามรายงานบอกว่าจะใช้สถาปัตยกรรม CPU Nuvia ของ Qualcomm และแบ่งออกเป็นสองคลัสเตอร์ ได้แก่ คอร์ประสิทธิภาพสูงสองคอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานหกคอร์ คาดว่าจะมีความสามารถในการแสดงผลกราฟิกเท่ากับ Dimensity 9300 ของปีที่แล้ว โดยใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว ชิปเซตนี้ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตรของ TSMC เมื่อจับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ จะทำให้มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟังแล้วน่าสนใจมากเลยครับ
ที่มา gizmochina
Comment