Xiaomi ทำตลาดแตกไปด้วยการเปิดตัวมือถือรุ่น Mi 10T และ Mi 10T Pro ซึ่งเคาะราคาเริ่มต้นในประเทศไทยมาแค่ 12,990 บาท แต่ได้สเปค+ฟีเจอร์มาแบบคุ้มสุดๆ ทั้งชิป Snapdragon 865, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108MP, ลำโพงคู่, แบต 5000 mAh, รองรับ 5G และหน้าจอรีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือพาเนลหน้าจอที่ดันเป็น LCD แทนที่จะเป็น OLED เหมือนมือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ โดยล่าสุดทาง Xiaomi ก็ได้ออกมาเผยเหตุผลแล้ว ว่าทำไมถึงเลือกใช้หน้าจอแบบ LCD ในมือถือซีรีส์นี้

เพราะผู้ใช้งานชอบมือถือแบบจอแบนมากกว่า

ทาง Xiaomi ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุผลบางอย่างที่เลือกใช้พาเนลหน้าจอแบบ LCD ของมือถือซีรีส์ Mi 10T ว่าได้ทำการสำรวจข้อมูลของผู้ใช้งานกว่า 60% ชอบใช้มือถือที่มีหน้าจอแบบแบนราบมากกว่ามือถือที่มีหน้าจอขอบโค้ง เนื่องจากปัญหาทั่วไปที่หลายๆ คนมักจะเจอกับมือถือจอโค้ง อย่างเช่นอุ้งมือลั่นไปโดนขอบจอ, ติดฟิล์มกันรอยยาก, ทำเครื่องตกแล้วมีโอกาสจอแตกมากกว่ามือถือจอแบน เป็นต้น ทาง Xiaomi ก็เลยเลือกใช้หน้าจอแบบ LCD ซึ่งมีความแบนราบแทน หน้าจอแบบ OLED ที่มีขอบโค้งนั่นเอง (แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมไม่ใช้จอ OLED แบบแบนราบ?)

หน้าจอ LCD สบายตากว่า OLED

Xiaomi บอกว่าผู้ใช้งานมือถือหน้าจอ OLED เป็นเวลานานจะเกิดอาการตาล้าและปวดหัวเนื่องจากหน้าจอประเภทดังกล่าวให้สีสันที่จัดจ้าน มีความสว่างมาก และมีการกระพริบของหน้าจอที่สังเกตเห็นได้ง่ายกว่าเมื่อลดความสว่างลงไป ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีผู้ใช้งานประมาณ 10% ที่เกิดปัญหาตาล้าเวลาจ้องหน้าจอประเภท OLED อีกด้วย

ถึงจะใช้จอ LCD แต่ก็เป็นจอระดับสูง

แม้ว่าจอของมือถือซีรีส์ Mi 10T จะเป็นจอแบบ LCD ที่มีประสิทธิภาพในการแสดงผลสู้จอแบบ OLED ของมือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ ไม่ได้ แต่ Xiaomi ก็บอกว่าหน้าจอแบบ LCD ที่เลือกใช้ เป็นจอที่มีคุณภาพระดับสูงสุด ถึงขั้นเคลมว่า The best of the best LCD ที่สูสีกับหน้าจอ AMOLED ระดับกลางเลยทีเดียว

ตอนแรกก็มีหลายๆ คนตั้งแง่กับมือถือซีรีส์ Mi 10T เอาไว้เหมือนกันว่าสเปค และฟีเจอร์อะไรๆ ก็ดีไปหมดทั้งชิป, กล้อง, แบตเตอรี่, รองรับ 5G ฯลฯ เสียอย่างเดียวที่ดันใช้หน้าจอแบบ LCD แต่พอเปิดราคามาได้ร้อนแรงสุดๆ เริ่มต้นที่ 12,990 บาท เท่านั้น ทำให้ข้อติเรื่องจอ LCD กลายเป็นเรื่องจิ๋วๆ ไปเลยทันที

Play video

ที่มา : AndroidAuthority