มาตามนัดครับ สำหรับ RedMagic ที่ประกาศเปิดตัว RedMagic 10 Pro และ RedMagic 10 Pro+ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งคู่มาพร้อมชิปเซตระดับท็อปรุ่นล่าสุด Snapdragon 8 Elite ที่สามารถทำคะแนน AnTuTu ได้สูงถึง 3,291,328 คะแนน นอกจากนี้ยังมี RAM สูงสุด 24GB แบบ LPDDR5X ULTRA (9600Mbps) และหน่วยความจำสูงสุด 1TB แบบ UFS 4.0 PRO
สมาร์ทโฟนทั้งคู่แชร์สเปคส่วนใหญ่เหมือนกันครับ โดยมีหน้าจอ OLED BOE Q9+ 1.5K ขนาด 6.85 นิ้ว อัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 95.3% ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต และรองรับ PWM Dimming ความถี่สูงสูงถึง 2,592Hz และ DC dimming นอกจากนี้ยังมีชิปเกมมิงเฉพาะ Red Core R3 ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งรองรับความละเอียดสูงสุด 2K พร้อมซูเปอร์เฟรมเรท 120FPS ที่เนียนตาด้วย
RedMagic 10 Pro Series ทั้งคู่เป็นรุ่นแรกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยโลหะเหลวแบบคอมโพสิต ซึ่งมีค่าการนำความร้อน 80W/mk สูงกว่าเจลนำความร้อนถึง 13 เท่า ทำงานร่วมกับพัดลมแรงเหวี่ยงความเร็วสูง ‘Hot Wheels’ ใหม่ โดยเพิ่มความเร็วลมขึ้น 10% เป็น 23,000 รอบต่อนาที มีพื้นที่ VC แบบ 3D ice-step เพิ่มขึ้น 18% เป็น 12,000 มม.² พร้อมแผ่นฟอยล์ทองแดงตัวนำยิ่งยวดขนาด 5,200 มม.² และความหนาของกราฟีนใต้หน้าจอเพิ่มขึ้น 30%
นอกจากนี้ ยังมีปุ่มบริเวณไหล่เครื่องสำหรับเล่นเกมความถี่สูง 520Hz, มอเตอร์เชิงเส้นแกน X, ลำโพงสเตอริโอ และรองรับ multi-function NFC ที่รองรับบริการต่างๆ อย่างเช่น การ์ดรถประจำทาง และกุญแจรถอัจฉริยะ BYD และมีมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
ด้านการถ่ายภาพ ทั้ง 2 รุ่นมีกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลเทคโนโลยีกล้องใต้หน้าจอ AI รุ่นใหม่ ซึ่งรับประกันคุณภาพของภาพที่ดีขึ้น ด้านหลังมีกล้อง 3 ตัว กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล, กล้องอัลตราไวด์ 50 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รองรับโหมดกลางคืน, โฟกัสด่วน, โหมด HDR, โหมดไร้ AI, AI album search และฟังก์ชันอื่นๆ
RedMagic 10 Pro+ มีแบตเตอรี่ซิลิกอนคาร์บอน 7050mAh พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 120W ซึ่งสามารถชาร์จเร็ว 50% ใน 11 นาทีและ 100% ใน 30 นาที ส่วน RedMagic 10 Pro มีแบตเตอรี่ 6500mAh และรองรับการชาร์จเร็ว 80W
สเปค RedMagic 10 Pro และ 10 Pro+
- จอภาพ : หน้าจอ OLED BOE Q9+ ขนาด 6.85 นิ้ว
- ความละเอียด 2688×1216 พิกเซล 1.5K
- สว่างสูงสุด 2000 นิต
- อัตรารีเฟรช 144Hz
- รองรับ 960Hz touch sampling rate, 10-bit color depth, 100% DCI-P3 color gamut, DC dimming, 2592Hz PWM dimming
- ชิปเซต : Snapdragon 8 Elite 3nm
- GPU Adreno 830
- RAM LPDDR5X ULTRA :
- 10 Pro : 12GB
- 10 Pro+ : 16GB / 24GB
- Storage UFS 4.0 PRO :
- 10 Pro : 256GB / 512GB
- 10 Pro+ : 512GB / 1TB
- กล้องหลัง :
- กล้องหลัก 50MP 1/1.5″ เซนเซอร์ OmniVision OV50E40 รูรับแสง f/1.88 , OIS
- กล้องอัลตราไวด์ 50MP 120-องศา OmniVision OV50D รูรับแสง f/2.2
- กล้องมาโคร 2MP OmniVision OV02F10
- กล้องหน้า : 16MP OmniVision OV16A1Q แบบใต้หน้าจอ under-display
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Dual 1115K speakers
- รองรับ DTS:X ULTRA, ไมค์สามตัว
- แบตเตอรี่ :
- 10 Pro : 6,500 mAh ชาร์จไว 80W
- 10 Pro+ : 7,050 mAh ชาร์จไว 120W
- การเชื่อมต่อ
- 5G
- Wi-Fi 7
- Bluetooth 5.4
- NFC
- พอร์ต
- USB-C
- หูฟัง 3.5mm audio jack
- ซิม : Dual SIM (nano + nano)
- เซนเซอร์ : สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Infrared, Dongci 0815 dual X-axis linear motors, 5G NSA /SA, Dual 4G VoLTE, GPS (L1/L5)+ GLONASS
- ความทนทาน : ไม่ระบุ
- ระบบปฏิบัติการ : Redmagic AI OS 10.0 บนพื้นฐาน Android 15
- ขนาด : 163.42×76.14×8.9 มม.
- น้ำหนัก: 229 กรัม
ราคาวางจำหน่าย
RedMagic 10 Pro Series เปิดให้สั่งซื้อแล้ว และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 18 พฤศจิกายนในประเทศจีนครับ ส่วนการวางจำหน่ายทั่วโลกจะประกาศอีกครั้งในเดือนธันวาคม โดยราคาจะแบ่งออกเป็นดังนี้
- RedMagic 10 Pro สี Dark Knight และ Day Warrior
- RAM 12GB+256GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 24,000 บาท
- RAM 12GB+512GB ราคา 5,499 หยวน หรือประมาณ 26,500 บาท
- RedMagic 10 Pro สี Deuterium Front Transparent Dark Night และ Silver Wing
- RAM 12GB+256GB ราคา 5,299 หยวน หรือประมาณ 25,500 บาท
- RAM 12GB+512GB ราคา 5,799 หยวน หรือประมาณ 27,900 บาท
- RedMagic 10 Pro+ สี Dark Knight และ Day Warrior
- RAM 16GB+512GB ราคา 5,999 หยวน หรือประมาณ 28,900 บาท
- RedMagic 10 Pro+ สี Dark Knight
- RAM 24GB+1TB ราคา 7,499 หยวน หรือประมาณ 36,100 บาท
- RedMagic 10 Pro+ สี Deuterium Front Transparent Dark Night และ Silver Wing
- RAM 16GB+512GB ราคา 6,299 หยวน หรือประมาณ 30,300 บาท
นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพิเศษอย่าง RedMagic 10 GOLDEN SAGA 24GB+1TB Limited Edition ที่มาพร้อม Vapor Chamber สีทอง, ท่ออากาศสีทองและเงิน, ระบบระบายความร้อนด้วยคาร์บอนไฟเบอร์, กระจกป้องกันแซฟไฟร์, ปุ่มเปิดปิดชุบทอง, โลโก้ชุบทอง, บริการผู้ช่วยส่วนตัวพิเศษ, กล่องสมบัติในเกม, ชุดป้องกัน, สิทธิพิเศษของแบรนด์และอื่นๆ อีกมากมาย โดยรุ่นพิเศษนี้ก็มีราคาแพงพิเศษอยู่ที่ 9,499 หยวน หรือประมาณ 45,700 บาท
ส่วนตลาดโกลบอล จะเปิดตัวในวันที่ 3 ธันวาคม 2024
ที่มา fonearena
Comment