Red Magic 5G สุดยอดมือถือเกมมิ่งเปิดตัวในจีนไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยสเปคแรงขั้นเทพทั้งชิป Snapdragon 865, RAM LPDDR5, หน่วยความจำ UFS 3.0, หน้าจอรีเฟรชเรท 144Hz และพัดลมระบายอากาศในตัว ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการสนใจในมือถือรุ่นนี้มากๆ แต่ไม่รู้ว่ามันจะวางขายนอกจีนรึเปล่า…ซึ่งล่าสุดทาง Nubia ก็ออกมาเผยข้อมูลแล้ว ว่าจะเริ่มวางขาย Red Magic 5G เวอร์ชั่น Global ในวันที่ 21 เมษายนนี้
Red Magic 5G เป็นมือถือที่เกิดมาสำหรับสายเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะด้วยรูปร่างหน้าตาที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดๆ แถมยังมีไฟ RGB ตรงโลโก้ Redmagic ที่ด้านหลัง มองแว่บเดียวรู้ทันทีว่าไม่ใช่มือถือธรรมดาๆ แน่นอน
จัดเต็มด้วยฟีเจอร์สำหรับเหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม L – R สำหรับตั้งค่าใช้กับเกมต่างๆ เพื่อเพิ่มความว่องไว และความถนัดในการกดปุ่ม ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้การกดปุ่มดังกล่าวแทนที่การกดบนหน้าจอที่ตำแหน่งไหนก็ได้
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.65 นิ้ว ที่มีรีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz เพิ่มความลื่นไหล ความเนียน และคมชัดให้กับภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ แถมยังมี Touch Sampling สูงถึง 240Hz ทำให้การบังคับเกมต่างๆ บนหน้าจอมีความแม่นยำ และติดนิ้วมากกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ แตะปุ๊บยังปั๊บ ลากนิ้วปุ๊บหันตามปั๊บ
ระบบระบายความร้อนขั้นเทพทั้งพัดลมระบายอากาศ และท่อระบายความร้อนด้วยของเหลว ที่จะทำงานไปพร้อมๆ กันเวลาเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยสามารถลดอุณหภูมิลงไปได้มากกว่าเดิมถึง 200% ทำให้เครื่องไม่ต้องลดประสิทธิภาพลงไปจนเกิดอาการกระตุก หรือเฟรมเรทแกว่งนั่นเอง
ไม่ใช่ว่าจะมีดีแค่เรื่องเกมอย่างเดียว แต่กล้องหลังของ Red Magic 5G ยังอัดแน่นมาให้ถึง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักเซ็นเซอร์เรือธง Sony IMX686 ความละเอียด 64MP + กล้อง Super Wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP ซึ่งถ่ายรูปออกมาได้แบบงามๆ ทุกสภาพแสง ส่วนกล้องเซลฟี่ให้มา 1 ตัว ที่ความละเอียด 8MP
แบตเตอรี่ของ Red Magic 5G ให้มาที่ 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จไว 55W ซึ่งจะทำงานควบคู่ไปกับพัดลมระบายอากาศ เพื่อลดอุณหภูมิของแบตเตอรี่ลงไป ทำให้ชาร์จได้ไวมากขึ้น แถมยังเป็นการยืดอายุแบตเตอรี่ขึ้นไปอีกด้วย โดย Nubia เคลมว่า Red Magic 5G ใช้เวลาแค่ 15 นาที ก็ชาร์จแบตจาก 0% – 56%, 30 นาที ได้แบต 90% และแบตเต็ม 100% ในเวลาแค่ 40 นาที เท่านั้น
สเปค NUBIA RED MAGIC 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.65 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 144Hz
- CPU : Snapdragon 865
- GPU : Adreno 650
- RAM : (LPDDR5) 8GB / 12GB
- ความจุ : (UFS 3.0) 128GB / 256GB
- กล้องหลัง : กล้องหลัก 64MP + กล้อง Super Wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP
- กล้องหน้า : 8MP
- การเชื่อมต่อ : 5G (SA + NSA), WiFi 6 2×2 MIMO, BT 5.1
- เซ็นเซอร์ : สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ, Geomagnetic sensor, Gyroscope acceleration sensor, Light distance sensor
- มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว air-cooled turbo fast charge 55W
- สีที่วางจำหน่าย : สีดำ Eclipse Black และสีแดง Hot Rod Red (รุ่น 8GB / 128GB) สี Pulse (รุ่น 12GB / 256GB)
Red Magic 5G เวอร์ชั่น Global จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น แบ่งเป็นหน่วยความจำคือ 8GB / 128GB ราคา 579 ดอลลาร์ (ประมาณ 19,000 บาท) และรุ่นท็อป 12GB / 256GB ราคา 649 ดอลลาร์ (ประมาณ 21,200 บาท) โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 21 เมษายน 2563 ในประเทศโซนยุโรป, โซนอเมริกา, แคนาดา และโซนเอเชีย ประเทศญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า ส่วนประเทศไทยจะเข้ามาด้วยรึเปล่า…ต้องรอลุ้นกันอีกทีครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : Redmagic 5G
สวยงามครับ
สวยดี แต่ nubia นี่มีข้อดี / สังเกต อะไรบ้างครับ ?
ขอตอบในฐานะคนใช้ nubia z17s นะครับ เผื่อใครสนใจNubia
1.กล้อง nubia สามารถตั้งค่าถ่ายรูปได้เยอะมาก (
2. สเป็คดี ราคาไม่แพง
ข้อเสีย
1.nubia (global) ไม่ค่อยมีอัพเดท
2.ไม่แจ้งเตือนพวกไลน์ (แต่ลงโปรแกรมเสริมได้)
3.เคส/ฟิลม์หน้าจอ หายากมาก (ต้องหาเทียบเอาครับ)
เรื่อง line ไม่แจ้งเตือนนี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ แค่รอมมันไม่ auto start line มาให้เท่านั้นเอง ซึ่งสามารถตั้งค่า auto start ได้ ปัญหานี้ก็จะหมดไป ใน Xiaomi ก็เจอเหมือนกัน ซึ่งสามารถตั้งได้เหมือนกัน
ถ้าทำรุ่น Lite ออกมา ใช้ Snapdragon 765G
เอาพัดลมออก ใส่แบตเพิ่มเป็น 5500
จะลด RAM ลงก็ได้ ขายสัก 13000 – 14000 นี่จะรีบเก็บเงินเลย T_T