Xiaomi เปิดตัว Redmi 13C สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่และรุ่นแรกในซีรีส์ Redmi 13 สานต่อจาก Redmi 12C ที่ออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว จุดที่อัปเกรดขึ้นมาคือ หน้าจออัตรารีเฟรช 90Hz และกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP ในราคาเริ่มต้น 3,999 บาท

Redmi 13C มากับจอภาพ Dot Drop display กระจก Gorilla Glass ขนาด 6.74 นิ้ว อัตรารีเฟรช 90Hz ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland ว่าเป็นหน้าจอที่ปล่อยคลื่นแสงสีฟ้าน้อย และปราศจากการกะพริบ เป็นมิตรต่อดวงตามากกว่าจอภาพทั่วไป โดยสามารถทำความสว่างสูงสุดได้ 600 นิตในโหมดกลางแจ้ง

ภายใน Redmi 13C ขับเคลื่อนด้วยชิป Helio G85 รอบนี้มีตัวเลือก RAM สูงสุดเป็น 8GB แล้ว ในขณะที่ ROM สูงสุด 256GB สามารถใส่ microSD card เพิ่มได้อีกสูงสุด 1TB โดยแยกกับช่องใส่ซิม

ในแง่ของแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ทาง Xiaomi เคลมว่า Redmi 13C สามารถสแตนด์บายได้นานสุด 25 วัน ฟังเพลงต่อเนื่องนานสุด 114 ชั่วโมง คุยโทรศัพท์ต่อเนื่องนานสุด 31 ชั่วโมง และดูวิดีโอออนไลน์ต่อเนื่องนานสุด 23 ชั่วโมง

สเปค Redmi 13C

  • จอภาพ : Dot Drop display ขนาด 6.74 นิ้ว
    – ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล
    – ความสว่างทั่วไป 450 นิต
    – ความสว่างสูงสุด 600 นิต
    – อัตรารีเฟรช 90Hz
  • ชิป : Helio G85
  • หน่วยความจำ : RAM LPDDR4x 6 / 8GB
  • ความจุ : ROM eMMC 5.1 128 / 256GB
    – รองรับ microSD card
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 50MP
    – กล้องมาโคร 2MP
    – กล้องจับความลึก
  • กล้องหน้า : 8MP
  • เครือข่าย : LTE, รองรับ 2 ซิม
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac
    – Bluetooth 5.3
    – วิทยุ FM
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 18W
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13

ราคาไทย และการจำหน่าย

Redmi 13C วางจำหน่ายในไทยด้วยกัน 2 รุ่นความจุ ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี คือ Midnight Black, Navy Blue และ Clover Green ส่วนราคาเปิดมาดังนี้

  • 6GB + 128GB ราคา 3,999 บาท
  • 8GB + 256GB ราคา 4,799 บาท

ตัวเครื่องจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป และพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2566 รับฟรีเคสใส และ Griptok มูลค่า 299 บาท