Xiaomi ประเทศไทยเปิดตัว REDMI 15 5G และ REDMI 15 รุ่นรองรับ 4G สมาร์ทโฟนสายคุ้ม ฟีเจอร์ครบครันตอบโจทย์คนทำงาน หน้าจอความละเอียด FHD+ ขนาด 6.9 นิ้ว แบตเตอรี่ความจุ 7,000mAh ชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้สูงสุด 2 วัน ชิปเซ็ต Snapdragon และกล้องหลังความละเอียด 50MP

รายละเอียด REDMI 15 Series

ทั้งนี้ REDMI 15 5G และ REDMI 15 รุ่นรองรับ 4G มีสเปคที่เหมือนกันทุกประการหลายจุด ยกเว้นในส่วนของชิปเซ็ตที่เลือกใช้ กับราคาเริ่มต้นซึ่งเป็นจุดแตกต่างหลักระหว่างสองรุ่นนี้ โดยที่ REDMI 15 5G มีราคาอยู่ที่ 5,999 บาท ส่วน REDMI 15 มีราคาอยู่ที่ 4,999 บาท

หน้าจอใหญ่เต็มตา 6.9 นิ้ว 144Hz

REDMI 15 Series มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.9 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรตหน้าจอแบบ AdaptiveSync สูงสุด 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด (HBM) ที่ 850 นิต พร้อมกับรองรับความสามารถอย่าง Wet Touch Technology 2.0 ถึงแม้มือจะไม่แห้งหรือหน้าจอจะเปียกก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ดีไซน์หน้าจอมาพร้อมกล้องหน้าแบบเจาะรู และเป็นหน้าจอถนอมสายตาซึ่งได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland เพื่อการใช้งานหรือการจ้องหน้าจอติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของดวงตา

ชิปแดงค่ายมังกร Qualcomm Snapdragon

REDMI 15 Serires ทั้งสองรุ่นเลือกใช้ขุมพลังการประมวลผลจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon ที่ผลิตบนเทคโนโลยีขนาด 6 นาโนเมตร หน่วยความจำ LPDDR4X ขนาด 8GB รองรับการเปิด RAM เสมือนอีก 8GB รวมเป็นสูงสุด 16GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลตัวเครื่อง UFS 2.2 ขนาด 256GB

  • REDMI 15 5G ชิปเซ็ต Snapdragon 6s Gen 3
  • REDMI 15 ชิปเซ็ต Snapdragon 685

ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 บนพื้นฐานของ Android 15 รองรับการใช้งานฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Gemini และฟีเจอร์วงค้นหา Circle to Search

แบตเตอรี่ความจุ 7,000mAh ชาร์จเร็ว 33W

แบตเตอรี่ความจุ 7,000mAh ของทั้งสองรุ่นทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 2 วัน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือจะเป็นการใช้งานทั่วไปก็สามารถใช้งานได้แบบยาวนานตลอดวันทั้งการใช้งานร่วมกับ Wi-Fi หรือ 5G ก็ตาม โดยหากแบตเตอรี่เหลือเพียง 1% ก็สามารถใช้งานเพื่อโทรศัพท์ได้ถึง 59-64 นาที

รองรับการชาร์จที่ความเร็ว 33W ด้วยอะแดปเตอร์ที่แถมมาให้ในกล่อง และการชาร์จย้อนกลับผ่านสายเพื่อเติมจ่ายแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นๆ Xiaomi เคลมไว้ว่า REDMI 15 5G ถึงแม้จะผ่านรอบการชาร์จไปกว่า 1,600 รอบแล้ว สุขภาพแบตเตอรี่ก็จะไม่ลดไปต่ำกว่า 80%

กล้องหลัก 50MP ดีไซน์พรีเมียม ทนน้ำทนฝุ่น IP64

กล้องหลักของ REDMI 15 Series ทั้งสองรุ่นมีความละเอียดอยู่ที่ 50MP รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด FULL HD ที่ 30fps และกล้องหน้าความละเอียด 8MP รองรับฟีเจอร์แก้ไขรูปภาพด้วย AI สำหรับรุ่น 5G เช่น ลบคนลบสิ่งของในภาพด้วย AI Erase กับแก้ไขท้องฟ้าในภาพถ่ายหลายแบบหลายสไตล์ด้วย AI Sky (ฟีเจอร์เดียวกับ REDMI Note 14 Series)

ดีไซน์ตัวเครื่องของ REDMI 15 Series เป็นดีไซน์แบบมุมเครื่องโค้งมนสอดรับกับการจับถือตัเวเครื่องเพื่อใช้งานเป็นอย่างดี เฟรมเครื่องทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP64 ลำโพงเดี่ยวที่สามารถบูสระดับเสียงได้ถึง 200%

สเปค REDMI 15 5G

  • หน้าจอ : LCD ขนาด 6.9 นิ้ว
    • ความละเอียด FHD+ (2,340 x 1,080 พิกเซล)
    • ความสว่างสูงสุด 850 นิต
    • อัตรารีเฟรชเรท 144Hz
    • รองรับ TÜV Rheinland Low Blue Light (Software Solution)
  • ชิปเซต : Snapdragon 6s Gen 3
  • หน่วยความจำ : 8GB (LPDDR4X)
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูล : 256GB (UFS 2.2)
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก : 50MP (f/1.75)
    • กล้องเสริมไม่ระบุรายละเอียด
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.2)
  • ระบบเสียง : ลำโพงเดี่ยว Hi-Res Audio
    • รับรองคุณภาพเสียงจาก Dolby
    • รองรับการเพิ่มเสียง 200%
  • แบตเตอรี่ : 7,000 mAh
    • รองรับชาร์จไว 33W
    • รองรับชาร์จย้อนกลับ 18W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 5
    • Bluetooth 5.1
    • NFC
  • พอร์ตเชื่อมต่อ
    • USB – C
  • เซนเซอร์ : สแกนนิ้วข้างตัวเครื่อง, IR Blaster
  • ความทนทาน : IP64
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS2 บนพื้นฐาน Android 15
  • ขนาด : 169.48 x 80.4 x 8.40 มม.
  • น้ำหนัก: 217 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย

REDMI 15 5G เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 5,999 บาท (8GB + 256GB) มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Ripple Green) สีดำ (Midnight Black) และสีเทา (Titan Gray)

ส่วนรุ่นรองรับ 4G อย่าง REDMI 15 จะวางจำหน่ายในราคา 4,999 บาท (8GB + 256GB) พร้อมตัวเลือกทั้งหมด 3 สีแบบเดียวกัน ได้แก่ สีม่วง (Sandy Purple) สีดำ (Midnight Black) และสีเทา (Titan Gray)