Redmi K20 Pro เปิดตัวเรียบร้อยแล้วสดๆ ร้อนๆ โดยคราวนี้ได้ขอสถาปนาตัวเองให้เป็น “นักฆ่าเรือธง 2.0” แทนที่ OnePlus (ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นมือถือเรือธงเองซะแล้ว) ด้วยสเปค + ฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์พร้อมตบกับมือถือเรือธงรุ่นอื่น แต่กลับมีราคาเริ่มต้นแค่ราวๆ 11,500 บาท เท่านั้นเอง
Redmi K20 Pro มีหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สัดส่วน 19.5:9 มีขอบจอบางเฉียบไม่มีรู ไม่มี Notch เนื่องจากใช้กล้องหน้าแบบป๊อปอัพ ทำให้สามารถขยายหน้าจอออกไปได้เกือบสุดขอบตัวเครื่อง และมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 92% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนจอรุ่นล่าสุดที่มีความเร็วและปลอดภัยมากกว่าเดิมอีกด้วย
Redmi K20 และ K20 Pro ยังมีระบบทัชที่แม่นยำด้วยหน้าจอสัมผัสที่มี Touch response สูงถึง 180Hz ทำให้ Redmi K20 และ K20 Pro กลายเป็นมือถือในระดับ e-Sports ได้เลยทีเดียว
กล้องหน้าแบบป๊อปอัพของ Redmi K20 / K20 Pro มีความละเอียดที่ 20MP ใช้เวลาในการยืดกล้องขึ้นมาแค่ 0.8 วินาทีเท่านั้น และยังมีการป้องกันเลนส์กล้องด้วยกระจก Saphire ความทนทานสูง แถมยังมีลูกเล่นเท่ๆ ด้วยไฟ+เสียงเอฟเฟ็คท์ประกอบที่มีให้เลือก 6 แบบ เวลาที่กล้องยืดขึ้นมา
ความแรงของ Redmi K20 Pro ก็ไม่แพ้มือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ ด้วยชิป Snapdragon 855 พร้อม RAM สูงสุด 8GB และความจุในตัวอีก 256GB พร้อมเทคโนโลยี Game Turbo 2.0 ที่จะช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปด้วยความลื่นไหล และได้เฟรมเรทที่เสถียรกว่าเดิม แถมยังมีระบบระบายความร้อนด้วย Graphite ถึง 8 ชั้น ทำให้อุณหภูมิของเครื่องไม่สูงเกินไปเวลาใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน
กล้องหลังของ Redmi K20 Pro ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก IMX586 ความละเอียด 48MP (f/1.75) + เลนส์ Super-wide 124.8° ความละเอียด 13MP (f/2.4) + เลนส์ซูมออพติคอล 2x ความละเอียด 8MP (f/2.4) ที่มีระบบ AI ช่วยในการประมวลผลของภาพถ่าย และยังมีโหมดการถ่ายภาพกลางคืนทั้ง Night Scene และ Handheld Super Night Scene สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนแบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย แถมยังมีโหมดสโลว์โมชั่น 960fps มาให้เล่นกันสนุกๆ อีกด้วย
Redmi K20 Pro ยังมีระบบเสียงแบบ Hi-Res พร้อมลำโพงแบบ 1217SLS แบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่นพี่ Mi 9 เพื่อเพิ่มความหนักแน่นของเบสให้มากขึ้น และยังใส่ AMP ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ Xiaomi พัฒนาขึ้นมาเองอีกด้วย
แบตเตอรี่ของ Redmi K20 Pro อัดมาให้ถึง 4000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็วระดับ 27W เทคโนโลยีเดียวกันกับเรือธงรุ่นพี่อย่าง Xiaomi Mi 9 ที่สามารถชาร์จจาก 0 – 58% ได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง และชาร์จถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 74 นาที เท่านั้น
สเปค Redmi K20 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340)
- CPU : Snapdragon 855
- GPU : Adreno 640
- RAM : 6GB / 8GB
- ความจุ : 64GB / 128GB / 256GB
รองรับ MicroSD Card 512GB - กล้องหลัง : 48MP (IMX586, f/1.75) + 13MP (f/2.4) + 8MP (f/2.4)
- กล้องหน้าป๊อปอัพ : 20MP (f/2.2)
- ระบบเสียง : ลำโพง 1217SLS, รูหูฟัง 3.5 มม., Hi-res Audio, AMP
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0, USB-C
- เซ็นเซอร์ : Fingerprint (บนหน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass
- แบตเตอรี่ : 4000 mAh รองรับชาร์จไว 27W
- ระบบ Android 9.0 ครอบด้วย MIUI 10
- สีที่วางจำหน่าย : สีแดง สีน้ำเงิน สีดำ
Redmi K20 Pro จะวางจำหน่ายด้วยกัน 4 รุ่น โดยแบ่งออกเป็นหน่วยความจำตามนี้
- 6GB / 64GB : ราคา 2499 หยวน หรือราวๆ 11,500 บาท
- 6GB / 128GB : ราคา 2599 หยวน หรือราวๆ 12,000 บาท
- 8GB / 128GB : ราคา 2799 หยวน หรือราวๆ 12,900 บาท
- 8GB / 256GB : ราคา 2999 หยวน หรือราวๆ 13,800 บาท
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวมือถือรุ่น Redmi K20 รุ่นธรรมดาที่มีการลดสเปคบางอย่างลงมาทั้ง CPU, หน่วยความจำ, ระบบชาร์จ และเซ็นเซอร์กล้องหลัก โดยสเปคเต็มๆ ก็มีตามนี้เลย
สเปค Redmi K20
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340)
- CPU : Snapdragon 730
- GPU : Adreno 618
- RAM : 6GB
- ความจุ : 64GB / 128GB
รองรับ MicroSD Card 512GB - กล้องหลัง : 48MP (IMX582, f/1.75) + 13MP (f/2.4) + 8MP (f/2.4)
- กล้องหน้าป๊อปอัพ : 20MP (f/2.2)
- ระบบเสียง : ลำโพง 1217SLS, รูหูฟัง 3.5 มม., Hi-res Audio, AMP
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0, USB-C
- เซ็นเซอร์ : Fingerprint (บนหน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass
- แบตเตอรี่ : 4000 mAh รองรับชาร์จไว 18W
- ระบบ Android 9.0 ครอบด้วย MIUI 10
- สีที่วางจำหน่าย : สีแดง สีน้ำเงิน สีดำ
Redmi K20 จะวางจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น โดยแบ่งออกเป็นหน่วยความจำตามนี้
- 6GB / 64GB : ราคา 1999 หยวน หรือราวๆ 9,200 บาท
- 6GB / 128GB : ราคา 2099 หยวน หรือราวๆ 9,640 บาท
Redmi K20 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ส่วน Redmi K20 Pro จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2019 เป็นต้นไป ส่วนวันจำหน่ายสำหรับประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย.. ถ้ามีข้อมูลแล้วเราจะรีบมาอัพเดทให้ทันทีครับ
ที่มา : Gizmochina, GSMArena, Indianexpress, Blog.mi
ไม่เกรงใจพี่ Mi9
ใส่2ซิม แยกเมมได้ไหม
คหสต. น่าจะชนแค่พวก Zenfone 6 ไม่ค่อยพรีเมียมเลย Op7 pro ตีโจทย์นักฆ่าเรือธงแตกกว่า
นิยามของนักฆ่าเรือธง คือ สเปกเทียบเท่าหรือใกล้เคียงเรือธงของค่ายใหญ่ๆ ในราคาที่ถูกกว่า แต่ในปัจจุบันใช้นิยามนี้กับOnePlusไม่ได้แล้วครับ เพราะราคาเริ่มขยับไปใกล้่เคียงกับเรือธงของค่ายอื่นๆแล้ว ณ ตอนนี้ที่เรียกได้ว่านักฆ่าเรือธงจริงๆ คงเป็นค่าย Xiaomi มากกว่าครับ
สีสวยดีครับ 🙂 🙂
สอบถามเพิ่มเติมครับแอด ตัวบอดี้/ฝาหลังทำจากอะไรครับ แล้วกระจกหน้าเป็นกอลิล่า v. อะไรครับ
หน้าจอเป็น Gorilla Glass 5 ส่วนฝาหลังบอกว่าเป็น Glass แต่คาดว่าคงไม่ใช่กระจกจริงๆ น่าจะเป็นแค่พลาสติกเงาๆ มากกว่าครับ
ขอบคุณครับ
ที่น่าสนใจคือ เป็นรุ่นสเป็คสูงแต่ยังมีรูหูฟัง 3.5 mm และใส่ microSD การ์ดได้นี่ล่ะ แค่นี้ผมก็ให้ผ่านและเป็นอีกใน 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจได้เลย
ตอนนี้น่าจะผิดหวังไปเรื่องนึงแล้วครับ ตอนแรกตามเว็บต้นทางบอกว่ามี microsd card slot แต่เหมือนจะเข้าใจภาษาจีนกันผิด ตอนนี้เลยกลายเป็นไม่รองรับ microsd card แล้วครับ
mi 9 ในมือ สั่นเล็กน้อย อิอิ
mi9 กดโกรธ
ตัวกล้องมี ois มาด้วยไหมครับ หาหลายที่ละ ไม่มีแจ้งไว้เลย
ทำไมโพสไม่ติดหว่า ?
ทำมาตบ Mi9 ซะง้ัน 55555
http://www.youtube.com/watch?v=Ytg9XJxUaHo
ราคาก็ถูกกว่า แรงก็แรงกว่า แบตก็อึดกว่า