Redmi เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Redmi K80 Series อย่างเป็นทางการแล้วครับ ประกอบด้วย 3 รุ่นหลักคือ Redmi K80, K80 Pro และ K80 Pro Champion Edition โดยรุ่นโปรจะได้ Snapdragon 8 Elite และรุ่นไม่โปรได้ Snapdragon 8 Gen 3 มีหน้าจอ 120Hz เทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำสมัย แบตเตอรี่ความจุระดับสูงพร้อมการชาร์จที่รวดเร็วทั้งแบบมีสายและไร้สาย ในขณะที่เปิดตัวมาในราคาที่ถูกที่สุด ณ ขณะนี้ (แม้ในประเทศจีนด้วย)

เปิดตัว Redmi K80 Pro มาพร้อม SD 8 Elite และ K80 ได้ SD 8 G3 หน้าจอ 2K OLED กล้อง 50MP และแบต 6,000 mAh

เรามาดูสเปคของรุ่น K80 Pro และ K80 Pro Champion Edition กันก่อนครับ ซึ่งทั้งคู่จะแชร์สเปคส่วนใหญ่ร่วมกัน โดยจะมาพร้อมหน้าจอแบบแบน TCL M9 OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ให้ความคมชัดและความสว่างที่ดี โดยรองรับความละเอียด 2K 3200×1440 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz (LTPS) ความลึกของสี 12 บิต ความสว่างสูงสุด 3200 nits นอกจากนี้ยังผสานรวมเทคโนโลยี Qingshan Eye Care 2.0 ของ Xiaomi ที่ให้การหรี่แสง DC ความสว่างเต็มที่เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตาและการสั่นไหว ในขณะที่รุ่น K80 พื้นฐานจะมีขนาด อัตรารีเฟรช และความละเอียดเท่ากัน จะต่างกันที่ความสว่างสูงสุดจะอยู่ที่ 1800 nits

สมาร์ทโฟนมีการออกแบบแบบสไตล์ unibody ที่มีกระจกสองชั้นพร้อมขอบจอที่แคบเป็นพิเศษเพียง 1.9 มม. บางลง 21% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และยังมาพร้อมกับ Xiaomi Dragon Crystal Glass 2.0 ซึ่งให้ความทนทานดีขึ้น 20 เท่า และในรุ่นไม่โปรจะได้กระจก Gorilla Glass 7i

ภายในตัวเครื่องในรุ่น Pro จะขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon 8 Elite ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร ให้ประสิทธิภาพ CPU ดีขึ้น 45% และ GPU ดีขึ้น 44% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ได้รับการอัปเกรด ทำงานร่วมกับชิปเกมมิ่งเฉพาะ D1 มีหน่วยความจำ RAM LPDDR5X, ที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 และ Fury Engine 4.0 สำหรับการปรับขนาดความถี่แบบไดนามิก รองรับการเล่นเกมความละเอียดสูง ultra-resolution และ ultra-frame ด้วยระบบระบายความร้อนแบบ 3D ice-sealed cooling แบบดูอัลลูปที่ได้รับการอัปเกรด รับประกันประสิทธิภาพที่ราบรื่นระหว่างการเล่นเกมที่จริงจัง ในขณะที่รุ่น K80 จะได้ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 3

สมาร์ทโฟนทัังหมด มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HyperOS 2 ของ Xiaomi ที่ผสานรวม Hyper Core Kernel เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น สามารถเปิดแอปได้เร็วขึ้น และลดเวลาแฝง Latency ได้เป็นอย่างดี

ด้านการถ่ายภาพ K80 Pro มาพร้อมกล้องสามตัวนำโดยเซนเซอร์หลัก 50MP (Light Fusion 800) พร้อมระบบกันสั่น OIS และช่วงไดนามิกภาพยนตร์ 13.2EV สำหรับการถ่ายภาพที่สดใสและมีรายละเอียด ทำงานร่วมกับกล้องอัลตราไวด์ 32MP (Samsung S5KKD1) มุมมองภาพ 120° นอกจากนี้ยังมีเลนส์เทเลโฟโต้ 50MP (Samsung S5KJN5) ที่รองรับการซูมแบบออปติคอล 2.5 เท่า ซูมแบบไม่สูญเสีย 5 เท่า ซูมดิจิทัล 20 เท่า และโหมดมาโครสำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้ที่ซับซ้อน และสำหรับการเซลฟี่และวิดีโอคอล มาพร้อมกล้องหน้า 20MP (Omnivision OV20B40)

ส่วนในรุ่น K80 จะมาพร้อมกล้องหลังคู่ ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS และกล้องอัลตราไวด์ 8MP ส่วนกล้องหน้าจะเป็นตัวเดียวกันครับ

K80 Pro ได้แบตเตอรี่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 120W และการชาร์จไร้สาย 50W นอกจากนี้ยังใช้ชิปชาร์จเร็ว Surge G3 ของ Xiaomi และติดตั้งระบบจัดการแบตเตอรี่ Surge G1 ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพการชาร์จที่มีประสิทธิภาพ ส่วนรุ่น K80 จะได้แบตที่เยอะว่าที่ 6,550 mAh แต่จะชาร์จช้ากว่า โดยจะรองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 90W

เซนเซอร์ลายนิ้วมือรุ่นนี้จะได้แบบอัลตราโซนิค ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Redmi ที่จะให้ความแม่นยำและรวดเร็วที่ดีขึ้น นอกจากนี้บอดี้ยังกันน้ำและฝุ่นตามมาตราฐาน IP68 ช่วยให้รองรับการใช้งานในสภาวะที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีชิปเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณ Surge T1S ที่รองรับแบนด์ 5G 19 แบนด์เพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่น ส่วนด้านการเชื่อมต่อจะรองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ NFC ลำโพงคู่ระบบ Stereo ตัวเครื่องบาง 8.12 มม. และน้ำหนัก 206 กรัม สำหรับรุ่นไม่โปร และบาง 8.39 มม. น้ำหนัก 212 กรัมสำหรับรุ่นโปร

สเปค Redmi K80 Pro

  • จอภาพ : หน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว TCL M9 LTPS
    • ความละเอียด 2K 3200×1440 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 3200 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • รองรับสีสัน 12 บิต, เทคโนโลยี Qingshan Eye Care 2.0, DC dimming, กระจกกันรอย Xiaomi Dragon Crystal Glass 2.0
  • ชิปเซต : Snapdragon 8 Elite
  • RAM 12/16GB LPDDR5X
  • ROM 256GB/512GB/1TB UFS 4.0
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 50MP (Light Fusion 800) กันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 32MP (Samsung S5KKD1)
    • กล้องเทเลโฟโต้ 50MP (Samsung S5KJN5) ซูมแบบออปติคอล 2.5 เท่า ซูมแบบไม่สูญเสีย 5 เท่า ซูมดิจิทัล 20 เท่า
  • กล้องหน้า : 20MP (Omnivision OV20B40)
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo
  • แบตเตอรี่ : 6,000 mAh
    • รองรับชาร์จไว 120W
    • รองรับชาร์จไร้สาย 50W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB-C
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS 2
  • ขนาด : บาง 8.39 มม.
  • น้ำหนัก: 212 กรัม

สเปค Redmi K80

  • จอภาพ : หน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว TCL M9 LTPS
    • ความละเอียด 2K 3200×1440 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 1800 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • รองรับสีสัน 12 บิต, เทคโนโลยี Qingshan Eye Care 2.0, DC dimming, กระจกกันรอย Gorilla Glass 7i
  • ชิปเซต : Snapdragon 8 Gen 3
  • RAM 12/16GB LPDDR5X
  • ROM 256GB/512GB/1TB UFS 4.0
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 50MP (Light Fusion 800) กันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 8MP (Samsung S5KKD1)
  • กล้องหน้า : 20MP (Omnivision OV20B40)
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo
  • แบตเตอรี่ : 6,550 mAh
    • รองรับชาร์จไว 90W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB-C
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS 2
  • ขนาด : บาง 8.12 มม.
  • น้ำหนัก: 206 กรัม

ราคาวางจำหน่าย

Redmi K80 Pro มีตัวเลือกสีทั้งหมด 3 สี ประกอบด้วย Snow Rock White, Mountain Green และ Midnight Black พร้อมรุ่นสีพิเศษ K80 Pro Champion Edition ส่วนรุ่น K80 พื้นฐานจะมี 4 สีคือสีดำ, ขาว, เขียว และสีฟ้า โดยแต่ละรุ่นจะมีราคาและตัวเลือกความจำดังนี้

Redmi K80

  • RAM 12GB+256GB ราคา 2499 หยวน หรือประมาณ 11,900 บาท
  • RAM 12GB+512GB ราคา 2899 หยวน หรือประมาณ 13,800 บาท
  • RAM 16GB+256GB ราคา 2699 หยวน หรือประมาณ 12,900 บาท
  • RAM 16GB+512GB ราคา 3199 หยวน หรือประมาณ 15,300 บาท
  • RAM 16GB+1TB ราคา 3599 หยวน หรือประมาณ 17,200 บาท

Redmi K80 Pro

  • RAM 12GB+256GB ราคา 3699 หยวน หรือประมาณ 17,600 บาท
  • RAM 12GB+512GB ราคา 3999 หยวน หรือประมาณ 19,000 บาท
  • RAM 16GB+512GB ราคา 4299 หยวน หรือประมาณ 20,500 บาท
  • RAM 16GB+1TB ราคา 4799 หยวน หรือประมาณ 22,900 บาท

ที่มา mi.com, 2, gizmochina, gizbot