เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสองมือถือคู่หูดูโอ้สเปคสุดคุ้มอย่าง Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G ชูจุดเด่นมาพร้อมกับหน้าจอ OLED รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz มีฟีเจอร์ Memory Extension ยืมความจุ ROM มาเติมหน่วยความจำ RAM และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W โดย Redmi Note 11 Pro จะมีราคาอยู่ที่ 8,999 บาท และ Redmi Note 11 Pro 5G เคาะอยู่ที่ 10,990 บาท
Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz รองรับการแสดงผลช่วงสี DCI-P3 และโหมดอ่านหนังสือ 3.0 รวมถึงโหมดถนอมสายตาที่เข้ามาช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตาออกอีกด้วย
กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 108MP ที่ Xiaomi เคลมว่า สามารถถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยมในระดับเรือธง มี AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้รูปมีความสวยงามและสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใส่กล้อง Ultra-Wide ถ่ายภาพมุมกว้าง และ Macro สำหรับถ่ายโคสอัปช็อตมาให้อีกด้วย โดย Redmi Note 11 Pro จะมีกล้องที่มากกว่ารุ่น 5G อยู่หนึ่งตัว ได้แก่ กล้องจับความลึก หรือ Depth Sensor ที่ใช้สำหรับถ่ายภาพ Portrait Mode นั่นเอง
อัดแบตเตอรี่มาให้แบบจัดเต็ม 5000 mAh ในทั้ง Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องพึ่งสายชาร์จหรือพาวเวอร์แบงค์ อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จไว 67W ที่ใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 42 นาที ก็ได้แบตจาก 0% เป็น 100% แล้ว
นอกจากนี้ Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G ยังมีเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool ที่ใช้ระบบท่อความร้อนรูปวงแหวนและแผ่นแกรไฟต์หลายเลเยอร์ ช่วยให้ชาร์จไฟเร็วขึ้น และลดอุณหภูมิเวลาใช้งานเครื่องหนักๆ ได้
จุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนของทั้งสองรุ่นก็คือหน่วยประมวลผล โดย Redmi Note 11 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต Helio G96 จาก MediaTek ในส่วนนี้ Xiaomi บอกว่าสามารถเอาไปเล่นเกมได้ไม่มีปัญหา ส่วนรุ่น 5G อย่าง Redmi Note 11 Pro 5G จะเลือกใช้ Snapdragon 695 เป็นขุมพลัง สเปคเหนือกว่ารุ่น 4G LTE เล็กน้อย และที่สำคัญ Redmi Note 11 Pro 5G รองรับการใช้งาน 5G
ตารางเปรียบเทียบสเปค Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G
Redmi Note 11 Pro | Redmi Note 11 Pro 5G | |
หน้าจอ | AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz | |
ชิปเซ็ต | MediaTek Helio G96 | Qualcomm Snapdragon 695 |
RAM | 8GB | |
ความจุ | 128GB (UFS 2.2) เพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB | |
กล้องหลัง | 4 ตัว – กล้องหลักความละเอียด 108MP – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP – กล้อง Macro ความละเอียด 2MP – กล้องจับความลึก 2MP (ไม่มีในรุ่น 5G) | |
กล้องหน้า | 16MP | |
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | ด้านข้างตัวเครื่อง | |
ระบบเสียง | ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ | |
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP53 | |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W (มีหัวชาร์จแถมในกล่อง) | |
ระบบปฏิบัติการ | MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 11 |
ราคาและวันวางจำหน่าย
- Redmi Note 11 Pro ราคา 8,999 บาท
- Redmi Note 11 Pro 5G ราคา 10,990 บาท
โดย Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G จะเริ่มเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งหากพรีในช่วงเวลาดังกล่าวก็รับไปเลย Redmi Note 11 Pro Series Boxset มูลค่า 1,690 บาท ก่อนทั้งสองสมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้มจะวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มีนาคมที่จะถึงนี้
ส่วนรายละเอียดทั้งหมดสามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เปิดตัว Redmi Note 11, Note 11s, Note 11 Pro และ Note 11 Pro 5G สเปคคุ้มค่า ราคาเริ่มต้น 6,299 บาท
ราคาของตัว pro 5G นี้ไปเล่น Mi 11 T ดีกว่านะ แพงไป บางที่ Xiaomi เองก็ว่า Segment ของสินค้างงๆๆ
อีกอย่่าง Pro 5G ราคานี้ไปเล่น Samsung A52s ไม่ดีกว่าหรอ
ไม่ใช่แค่บางทีครับ ทุกทีเลย เพราะเล่นทำหลายบ. ออกแข่งกันเองยังกะ 7-11 เปิดสาขา
ตั้งราคาตัวเริ่มต้นมาแพง ปกติตระกูล Redmi ก็ไม่น่าจะเกิน 10,000 บาท ถ้าเทียบราคากับยี่ห้ออื่นและในเครือตัวเอง ที่ดูดีก็มีแค่ชาร์จไว
สองรุ่นนี้เพิ่มเมมเหมือนรุ่นก่อนหน้าไม่ได้ใช่ไหมครับ
เพิ่มได้สูงสุด 1TB ครับ เดี๋ยวผมไปใส่ข้อมูลเพิ่มในตาราง ขอบคุณครับ
ตัดลำโพง JBL ออก แต่ราคาก็ไม่ได้ถูกลง