Xiaomi ประเทศไทย ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นกลางรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศอินเดียได้ไม่นานอย่าง Redmi Note 14 Series ที่ในไทยมาด้วยกันถึง 4 รุ่นด้วยกัน คือ Redmi Note 14, Redmi Note 14 5G, Redmi Note 14 Pro, Redmi Note 14 Pro+ ซึ่งทั้ง 4 รุ่นมาพร้อมกับจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น โดยรุ่นท็อปสุดอย่าง Redmi Note 14 Pro+ ก็ได้ให้สเปกมาอัดแน่นทั้ง กล้อง 200 MP, ชิป Snapdragon 7s Gen 3 และฟีเจอร์ AI มากมาย

Redmi Note 14 Pro และ Note 14 Pro+

เริ่มจากรุ่นพี่สุดอย่าง Redmi Note 14 Pro และ Pro+ ที่ได้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว CrystalRes AMOLED ความละเอียด 1.5K ที่ความสว่างสูงสุด 3,000 nits แบบโค้ง 3 มิติ ที่มีความทนทานมากกว่าสมาร์ตโฟนระดับกลางทั่วไป โดยได้ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 ซึ่งเป็นระดับเท่ากับสมาร์ตโฟนเรือธงหลาย ๆ แบรนด์ด้วย

และทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพที่เหมือนกัน คือกล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล f/1.65 ที่มาพร้อมกับการกันสั่น OIS, กล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องถ่ายภาพมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และมาพร้อมกับ Xiaomi Imaging Engine ที่เป็น AI-boosted algorithm ในการประมวลผลภาพถ่ายของทั้ง 2 รุ่นให้มีสีที่ดีขึ้นในขณะที่ประมวลผลเร็ว และได้ภาพที่มีคุณภาพด้วย

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความทนทานที่ Xiaomi เคลมว่าเป็นระดับ ‘All-Star Durability’ คือทั้งทนทาน และแข็งแรง โดยทั้ง 2 รุ่น ผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP68, รองรับการทัชหน้าจอขณะเปียก (Wet Touch) และการเพิ่มโครงสร้างการป้องกันการกระแทก All-Star Armor Structure ที่ใส่วัสดุที่กันกระแทกทั้งข้างเครื่อง, โครงสร้างภายใน, เฟรมอัลลูมิเนียมเพื่อให้ทนต่อการตกกระแทกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงกระจกจอหลัง Corning Gorilla Glass 7i (ในสีที่ใช้ฝาหลังกระจก) ด้วย

นอกจากนั้นยังได้มีการใส่ฟีเจอร์ AI มาแน่นมาก ๆ อย่างเช่น AI Erase Pro (AI ลบวัตถุในภาพ), AI Image Expansion (AI ขยายภาพถ่าย), AI Bokeh (เพิ่มโบเก้ในภาพถ่าย), AI Cutout (ตัดวัตถุในภาพ แยกออกจากพื้นหลังได้), AI Film (ให้ AI สร้างวิดีโอจากภาพ หรือคลิปที่มี ผสมกับไอเดียที่เราพิมพ์) รวมไปถึงฟีเจอร์ AI อื่น ๆ อีก เช่น Gemini, Circle to Search, AI Interpreter, AI Notes, AI Subtitle, AI Recorder ให้ได้ใช้อีกด้วย

ที่แตกต่างจะเป็นเรื่องของสเปกภายในมากกว่า ที่ Redmi Note 14 Pro+ จะมาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3, แบตเตอรี่ 5,110 mAh ที่ชาร์จแบบต่อสายได้เร็ว 120W HyperCharge ในขณะที่ Redmi Note 14 Pro จะให้ชิปเซต MediaTek Dimensity 7300-Ultra, แบตเตอรี่ 5,110 mAh ที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบต่อสายได้เร็ว 45W แทน ทั้งนี้ สเปกของ Redmi Note 14 Pro และ Pro+ มีความแตกต่างจากเวอร์ชันที่ขายในอินเดียเล็กน้อย

สเปก Redmi Note 14 Pro+ 5G ที่ขายในไทย

  • จอภาพ : หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด 1.5K 1220 x 2712 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 3000 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • รองรับ HDR10+, Dolby Vision, กระจกกันรอย Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซต : Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 (4 nm)
  • RAM LPDDR4X : 12GB
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 : 512GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องถ่ายภาพหลัก 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3, f/1.65, กันสั่น OIS, 2.24μm 16-in-1 pixel binning
    • กล้องอัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล f/2.2
    • กล้องถ่ายภาพมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า : 20 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 5,110 mAh
    • รองรับชาร์จไว 120W HyperCharge
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB C
    • ซิม : Hybrid Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (สแกนนิ้วบนหน้าจอ, optical), accelerometer, gyro, proximity (ultrasonic), compass
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด :
    • 162.53 x 74.67 x 8.75 มม. (วัสดุกระจก)
    • 162.53 x 74.67 x 8.85 มม. (วัสดุ Vegan Leather)
  • น้ำหนัก: กระจก 210g / Vegan Leather 205g

สเปก Redmi Note 14 Pro 5G ที่ขายในไทย

  • จอภาพ : หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด 1.5K 1220 x 2712 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 3000 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • รองรับ HDR10+, Dolby Vision, กระจกกันรอย Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซต : MediaTek Dimensity 7300-Ultra (4 nm)
  • RAM LPDDR4X : 12GB
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 : 256GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องถ่ายภาพหลัก 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3, f/1.65, กันสั่น OIS, 2.24μm 16-in-1 pixel binning
    • กล้องอัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล f/2.2
    • กล้องถ่ายภาพมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า : 20 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 5,110 mAh
    • รองรับชาร์จไว 45W Turbo Charging
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB C
    • ซิม : Hybrid Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (สแกนนิ้วบนหน้าจอ, optical), accelerometer, gyro, proximity (ultrasonic), compass
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด :
    • 162.33 x 74.42 x 8.4 มม. (วัสดุกระจก)
    • 162.33 x 74.42 x 8.85 มม. (วัสดุ Vegan Leather)
  • น้ำหนัก: 190g

Redmi Note 14, Note 14 5G

ในขณะที่ Redmi Note 14 และ Note 14 5G จะเน้นที่การเป็นสมาร์ตโฟนราคาประหยัดที่เน้นเรื่องของการให้สเปกที่คุ้มค่าด้วย โดย Redmi Note 14 5G ได้ให้กล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ที่มีการกันสั่น OIS และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI อย่าง AI Erase, AI Sky, AI Beautify และ ยังใช้ Google Gemini ได้ด้วย แถมยังได้ให้ชิปเซต MediaTek Dimensity 7025-Ultra, หน้าจอ AMOLED 120Hz ความสว่างสูงสุด 2,100 nits, กล้องหน้าที่อัปเกรดมาเป็นความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64, กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 5 และมาตรฐานการชาร์จไวที่ 45W กับแบตเตอรี่ 5,110 mAh รวมไปถึงยังให้ลำโพงคู่ Dolby Atmos อีกด้วย

สเปก Redmi Note 14 5G ที่ขายในไทย

  • จอภาพ : หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 2100 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • รองรับ HDR10+, กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซต : MediaTek Dimensity 7025 Ultra (6 nm)
  • RAM : LPDDR4X 8/12GB
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 : 256/512GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล f/1.7, กันสั่น OIS, 0.64μm, 1.92μm 9-in-1 pixel binning
    • กล้องอัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล f/2.2
    • กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า : 20 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 5,110 mAh
    • รองรับชาร์จไว 45W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    • Bluetooth 5.3
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB C
    • หูฟัง 3.5 มม.
    • ซิม : Hybrid Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (สแกนนิ้วบนหน้าจอ, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ความทนทาน : IP64
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS 1 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด : 162.4 x 75.7 x 7.99 มม.
  • น้ำหนัก: 190 กรัม

ส่วน Redmi Note 14 รุ่นน้องสุด ก็เป็นสมาร์ตโฟนที่ได้ให้ฟีเจอร์มาแน่นไม่แพ้รุ่นพี่ ในราคาที่ประหยัดที่สุด ด้วยกล้องถ่ายภาพหลัก 108 ล้านพิกเซล (แบบไม่มีการกันสั่น OIS), กระจกจอ Gorilla Glass 5, หน้าจอ AMOLED 120Hz ความสว่างสูงสุด 1800 nits และลำโพงคู่ Dolby Atmos อีกด้วย โดย Redmi Note 14 ได้ให้ชิปเซตเป็น MediaTek Helio G99-Ultra, แรมขนาด 8GB และหน่วยความจำ 256GB อีกด้วย โดยได้ให้แบตเตอรี่ขนาด 5,500 mAh, ชาร์จไว 33W และการกันน้ำกันฝุ่น IP54

สเปก Redmi Note 14 ที่ขายในไทย

  • จอภาพ : หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 1800 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • รองรับ HDR10+, กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซต : MediaTek Helio G99-Ultra (6 nm)
  • RAM : LPDDR4X 8GB
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 : 256GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล f/1.7, 0.64μm, 1.92μm 9-in-1 pixel binning
    • กล้องวัดระยะ 2 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า : 20 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 5,500 mAh
    • รองรับชาร์จไว 33W
  • การเชื่อมต่อ
    • 4G
    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    • Bluetooth 5.3
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB C
    • หูฟัง 3.5 มม.
    • ซิม : Hybrid Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (สแกนนิ้วบนหน้าจอ, optical)
  • ความทนทาน : IP54
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS 1 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด : 163.25 x 76.55 x 8.16 มม.
  • น้ำหนัก: 196.5 กรัม

ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย

ราคาวางจำหน่ายของ Redmi Note 14 Series ประกอบไปด้วย

  • Redmi Note 14 วางจำหน่ายในไทยแค่ความจุ 8+256GB ที่ราคา 5,999 บาท
    • ถ้าซื้อภายในวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 จะได้รับของแถมเป็น กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service (ประกัน 2 ปี และประกันจอแตก 1 ครั้งภายใน 6 เดือน) มูลค่ารวม 5,690 บาท
  • Redmi Note 14 5G วางจำหน่าย 2 ความจุ คือ
    • 8+256GB ราคา 7,999 บาท
    • 12+256GB ราคา 9,999 บาท
    • ถ้าซื้อภายในวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 จะได้รับของแถมเป็น กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service (ประกัน 2 ปี และประกันจอแตก 1 ครั้งภายใน 6 เดือน) มูลค่ารวม 7,690 บาท
  • Redmi Note 14 Pro 5G วางจำหน่ายแค่ความจุ 12+256GB ที่ราคา 11,990 บาท
    • ถ้าซื้อภายในวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 จะได้รับของแถมเป็นสมาร์ทวอทช์ Redmi Watch 5 Active และประกัน VIP Service (ประกัน 2 ปี และประกันจอแตก 1 ครั้งภายใน 6 เดือน) มูลค่ารวม 11,290 บาท
  • Redmi Note 14 Pro+ 5G วางจำหน่ายแค่ความจุ 12+512GB ที่ราคา 14,990 บาท
    • ถ้าซื้อภายในวันที่ 11 มกราคม – 17 มกราคม 2568 จะได้รับของแถมเป็น Redmi Note 14 Series x BamBam Exclusive Gift Set และประกัน VIP Service (ประกัน 2 ปี และประกันจอแตก 1 ครั้งภายใน 6 เดือน) มูลค่ารวม 13,790 บาท

(กำลังอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติม)