Redmi Pad 2 แท็บเล็ตภาคต่อของ Redmi Pad จากปี 2022 กลับมารอบนี้ขอสานต่อความสำเร็จ จัดเต็มสเปคสุดคุ้มค่าด้วยราคาเปิดตัว 5,999 บาท เหมาะกับซื้อใช้งานทั่วไป หรือใครที่มีงบประมาณจำกัด ด้วยหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียดสูง 2.5K และลำโพงสี่ตัว แบตเตอรี่ 9,000mAh จะดูหนัง ฟังเพลง หรือเรียนออนไลน์ก็ใช้งานได้ยาวตลอดวัน ใช้งานจริงเป็นยังไง คุ้มค่าตามสเปคที่บอกมาหรือเปล่า วันนี้ DroidSans มีคำตอบให้ครับ!

เปิดกล่อง Redmi Pad 2

สำหรับใครที่ซื้อ Redmi Pad 2 มาใช้งาน สิ่งที่จะได้รับมาพร้อมกันในกล่องเรียกได้ว่า ครบ จบ เปิดกล่องพร้อมใช้ ตั้งแต่แรกเริ่มเลยครับ โดยสิ่งที่ได้มาภายในกล่องจะประกอบไปด้วย

  • Redmi Pad 2 (1 เครื่อง)
  • อะแดปเตอร์ชาร์จ 15W
  • สายชาร์จ USB Type A to C
  • เข็มจิ้มถาด microSD Card
  • คู่มือ

ดีไซน์รอบตัวเครื่อง Redmi Pad 2

ถึงจะเป็นแท็บเล็ตในช่วงราคาต่ำหมื่น แต่วัสดุไปจนถึงการดีไซน์ของ Redmi Pad 2 เรียกได้ว่าทำมาแบบใส่ใจพอสมควรเลยครับ สีของเครื่องที่อยู่ในมือของเราคือ สีเขียวมิ้นต์ (Mint Green) มีผิวสัมผัสแบบแมตต์ พร้อมกับพื้นผิวแบบขัดทราย (Sand Blast) ให้ความรู้สึกในการจับถือที่พรีเมียม ไม่เก็บรอยนิ้วมือสำหรับใครที่ต้องการใช้งานแบบไม่ใส่เคส

ดีไซน์รอบตัวเครื่องหากจับถือในแนวนอน – ปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ทางด้านบนของตัวเครื่อง พร้อมกับถาดใส่ microSD Cards (สูงสุด 2TB) ทางด้านขวาของตัวเครื่องประกอบด้วยรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. และ USB Type-C ส่วนปุ่มพาวเวอร์จะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องครับ ลำโพงให้มาทั้งหมด 4 ตัว (Dolby Atmos) จัดวางไว้ด้านซ้าย-ขวา แบบสมมาตร

และสุดท้ายคือโมดูลกล้องที่อยู่ในรูปแบบ ทรงแคปซูล สีดำ วัสดุตัวเครื่องใช้เป็นงานโลหะแบบชิ้นเดียว (Metal Unibody Design) สามารถจับถือได้ถนัดมือ เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน Redmi Pad 2 มีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 510 กรัม และมีความบางแค่ 7.36 มม. เท่านั้น

หน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2.5K

เริ่มต้นการรีวิวด้วยหน้าจอของ Redmi Pad 2 ที่เป็นเหมือนหน้าต่างบานแรกของแท็บเล็ตกันครับ โดยหน้าจอเลือกใช้เป็นพาแนลหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 11 นิ้ว บนความละเอียดระดับ 2.5K (2,560 x 1,600 พิกเซล) รองรับการแสดงผลสีถึง 1.07 พันล้านสี อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz มีฟังก์ชัน Dynamic Refresh Rate ปรับรีเฟรชเรทตามการใช้งานของเราเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน

หน้าจอแสดงผลของ Redmi Pad 2 ถือว่าสามารถใช้งานเพื่อดูคอนเทนต์วิดีโอ เล่นโซเชียลมีเดีย ทำงานหรือใช้เรียนได้เป็นอย่างดีเลยครับ ถึงแม้การแสดงผลสีอาจจะไม่ได้จัดจ้านเท่าจอ AMOLED แต่ในช่วงเรตราคาไม่เกิน 6,000 บาท ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แถมหน้าจอยังมีอัตราส่วนแบบ 16:10 ดูคอนเทนต์แนวนอนได้เต็มตา ไม่เหลือขอบบน-ล่าง ไว้ให้กวนใจ

สเปคหน้าจอ Redmi Pad 2

  • จอภาพ : ขนาด: 11 นิ้ว (อัตราส่วน 16:10)
    • ความละเอียด: 2560 x 1600 พิกเซล (274 ppi)
    • ความสว่างสูงสุด: 500 นิต (ปกติ), 600 นิต (โหมดกลางแจ้ง)
    • อัตรารีเฟรช: สูงสุด 90Hz
    • รองรับ
      • การรับรอง TÜV Rheinland Low Blue Light (Software Solution)
      • การรับรอง TÜV Rheinland Flicker-Free
      • การรับรอง TÜV Rheinland Circadian Friendly
      • สี 1.07 พันล้านสี
      • โหมดการอ่าน
      • เทคโนโลยีสัมผัสเมื่อหน้าจอเปียก

ข้อสังเกตหลักคงเป็นความสว่างหน้าจอ 600 นิต ที่หากเป็นการใช้งานกลางแจ้งหรือห้องที่มีแสงสว่างมากจนเกินไป จอก็แอบสู้ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน

เสียงสมจริงด้วยลำโพง Dolby Atmos สี่ตัว

สมมงฐานะของแท็บเล็ตที่ออกแบบมา สำหรับใช้งานด้านความบันเทิงของแท้ กับลำโพงสี่ตัวรองรับระบบเสียง Dolby Atmos มอบความสมจริงทั้งในแง่ของมิติเสียงกับรายละเอียดเสียง พร้อมกับการมีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วยนั้นก็ช่วยได้มากๆ สำหรับใครที่ชอบใช้งานหูฟังแบบมีสาย มีตัวเลือกสำหรับการเชื่อมต่อเสียงเพิ่มมากขึ้น

ทดสอบใช้งานกับเจ้า Redmi Pad 2 ในเรื่องของความดังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ ไม่ได้ดังจนโดดหรือเบาจนเกินไป ในระดับเสียงประมาณ 60-70% ก็สามารถได้ยินเสียงของคอนเทนต์ได้ชัดเจน มิติของเสียงหรือย่านเบสไม่ได้จัดจ้านมากนัก เน้นย่านเสียงกลางเป็นหลัก ฟังเพลงคือเก็บรายละเอียดเสียงร้องได้โอเคเลย ในเรตราคานี้ได้ลำโพงมาสี่ตัวก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยครับ

ชิปเซ็ต Helio G100-Ultra ใช้งานได้ขนาดไหน

Redmi Pad 2 ติดตั้งมาด้วยชิปเซ็ต Helio G100-Ultra ชิปขวัญใจคู่บุญอุปกรณ์ราคาเป็นมิตรที่คุ้นตากันดี จับคู่กับหน่วยความจำขนาด 8GB ในการใช้งานทั่วไป เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ไถฟีดโซเชียลมีเดีย และสลัปแอปพลิเคชันไปมาถือว่าสอบผ่านฉลุยครับ ใช้งานได้แบบปกติไม่มีอาการค้างหรือกระตุกให้เห็น

ส่วนการเล่นเกมที่ไม่ได้ใช้ทรัพยาการหรือต้องการการประมวลผลกราฟิกที่เยอะมาก Redmi Pad 2 สามารถเล่นได้โอเคเลยครับ อาจจะไม่ได้ลื่นหรือมีเฟรมไทม์ที่นิ่งและสเถียรตลอดการเล่นขนาดนั้น แต่ข้อดีก็คือทำให้ตัวแท็บเล็ตไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานหรือแบตเตอรี่ที่เยอะมาก ช่วยยืดระยะเวลาในการใช้งานแท็บเล็ตของเราให้นานยิ่งขึ้นไปอีก จากเกมที่เราได้ไปทดสอบมา เช่น RoV, Roblox, Subway Surfers และ Candy Crush Saga

สเปคชิปเซ็ต Redmi Pad 2

  • ชิปเซต : MediaTek Helio G100-Ultra (กระบวนการผลิต 6nm)
    • CPU: 2x Cortex-A76 @ 2.2GHz + 6x Cortex-A55 @ 2.0GHz
    • GPU: Mali-G57 MC2
  • RAM: 6GB / 8GB (LPDDR4X)
  • Storage: 128GB / 256GB (UFS 2.2)
    • รองรับ microSD: สูงสุด 2TB

แบตเตอรี่ 9,000mAh พร้อมชาร์จไว 18W

แบตเตอรี่ของ Redmi Pad 2 นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้น่าซื้อยิ่งขึ้นไปอีก กับแบตเตอรี่ความจุ 9,000mAh หากชาร์จเต็ม 100% แล้วเอาไปใช้งานดู YouTube เล่นเกม ดูซีรีส์บน Netflix เล่นโซเชียลมีเดียแบบต่อเนื่อง แบตเตอรี่ก็สามารถอยู่รอดได้ตลอดทั้งวันแน่นอนครับ

จุดที่น่าเสียดายจริงๆ ของ Redmi Pad 2 ก็จะเป็นความเร็วการชาร์จ 18W เพราะเอาเข้าจริงกับแบตเตอรี่ความจุ 9,000mAh ถือว่าต้องใช้เวลานานพอสมควรถ้าจะชาร์จให้เต็ม 100% ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องรีบใช้ต่อก็อาจจะไม่ทันใจสักเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าเป็นการชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนตอนนอนก็ถือว่าเวิร์คเลย ตื่นมาพร้อมนำไปใช้งานต่อทันที

กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP

สเปคกล้องของ Redmi Pad 2

  • กล้องหลัง : 8MP, ขนาดเซนเซอร์ 1/4″, ขนาดพิกเซล 1.12μm, รูรับแสง f/2.0
  • กล้องหน้า : 5MP, ขนาดเซนเซอร์ 1/5″, ขนาดพิกเซล 1.12μm, รูรับแสง f/2.2

แท็บเล็ตรุ่นนี้ให้กล้องหลังมาที่ความละเอียด 8MP และกล้องหน้าความละเอียด 5MP สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การถ่ายรูปเอกสาร ถ่ายรูปสไลด์ หรือใช้เพื่อเข้าประชุมออนไลน์ เพราะกล้องหน้าของ Redmi Pad 2 ถูกออกแบบมาให้จัดวางไว้สำหรับการใช้งานแนวนอนโดยเฉพาะ

รายละเอียดรูปภาพจากกล้องหลังที่ได้มาถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ได้ ด้วยความละเอียด 8MP หากจะนำไปใช้งานต่อแบบครอปซูมอาจจะยังไม่ตอบโจทย์มากเท่าไหร่ ถ้าต้องการจะถ่ายวัตถุหรืออะไรที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร ให้เลือกใช้วิธีเข้าไปถ่ายใกล้กับสิ่งที่ต้องต้องการจะถ่ายจะโอเคที่สุดครับ เพราะหากพ้นระยะ 2x เป็นต้นไปรายละเอียดเริ่มจะดูเป็นวุ้นแล้ว ส่วนกล้องหน้าเองก็มีโหมดบิวตี้ปรับหน้าเนียน มาให้ใช้งานด้วย

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า Redmi Pad 2

ระบบปฎิบัติการ Xiaomi HyperOS 2

ในส่วนของซอฟต์แวร์ Redmi Pad 2 จะทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 บนพื้นฐานของ Android 15 ตั้งแต่แกะกล่อง ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ค่อนข้างครบครัน หน้าตาของ UX/UI ก็ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Redmi Pad 2 จะมีดังนี้ครับ

  • Google Gemini (ผู้ช่วยอัจฉริยะ)
  • Circle to Search
  • Xiaomi Interconnectivity การเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์
    • รับสายโทรศัพท์ที่เข้ามายังมือถือผ่านแท็บเล็ตได้โดยตรง
    • คัดลอกข้อความจากสมาร์ทโฟน แล้วนำไปวางบนแท็บเล็ตได้เลย
    • เชื่อมต่อเครือข่ายร่วมกัน ไม่ต้องกรอกรหัสใหม่ให้วุ่นวาย

นอกจากนั้นแล้ว Redmi Pad 2 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายสายแล้ว เปลี่ยนตัวเองให้เป็นจอเสริม (Wireless display extension) ไปสู่มอนิเตอร์หรือจอภายนอกด้วยนะครับ ใช้งานร่วมกับ MacOS และ Windows ได้เช่นกัน ไม่ต้องลงแอปพลิเคชันเพิ่ม

พร้อมกันนั้น Redmi Pad 2 ยังรองรับการใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย แต่จะไม่ได้แถมมาให้ในกล่องนะครับ เป็นการวางจำหน่ายแยกต่างหาก Redmi Smart Pen (ราคา 1,999 บาท) ปากกาที่รองรับแรงกด 4,096 ระดับ และเคสปกป้องตัวเครื่องรอบด้าน Redmi Pad 2 Cover (ราคา 599 บาท)

สรุปการใช้งาน Redmi Pad 2

ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสำหรับใช้งานทั่วไป ใช้เรียน และใช้งานเพื่อความบันเทิงที่ไม่ต้องการพลังการประมวลผลสูง Redmi Pad 2 ถือเป็นแท็บเล็ตในราคาต่ำหมื่นช่วงราคาไม่เกิน 6,000 บาท ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีเลยครับ ด้วยสเปคหน้าจอแสดงผล LCD ที่มีความละเอียดสูง ลำโพงสี่ตัวรองรับระบบ Dolby Atmos ไปจนถึงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 9,000mAh รองรับการใช้งานในระยะเวลาที่ยาวนาน เรียกว่าเป็นแท็บเล็ตสายบัดเจ็ต ที่สามารถใช้งานได้แบบ All-rounder เลยก็ว่าได้ครับ

จุดเด่นของ Redmi Pad 2

  • หน้าจอ 11 นิ้ว ความละเอียดสูง 2.5K
  • ลำโพงสี่ตัว รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่มีความจุเยอะ 9,000mAh
  • จับถือใช้งาน พกพาสะดวก

จุดพิจารณาของ Redmi Pad 2

  • ความเร็วการชาร์จรองรับแค่ 18W
  • Xiaomi HyperOS 2 ยังเจอบัคอยู่ในบางจุดเวลาใช้งานแบบแบ่งหน้าจอ
  • ชิปเซ็ตไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงๆ

รายละเอียดการวางจำหน่าย และโปรโมชัน Redmi Pad 2

Redmi Pad 2 มีวางจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมกับตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Graphite Gray และ Mint Green ทั้งหมดสองความจุ ได้แก่

  • 6GB + 128GB : ราคา 5,999 บาท (วางจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์)
  • 8GB + 256GB : ราคา 6,999 บาท

พร้อมกับตอนนี้ทาง Xiaomi ประเทศไทยก็ได้จัดโปรโมชันสำหรับ Redmi Pad 2 สำหรับคำสั่งซื้อในช่วงวันที่ 20 มิ.ย. 68 – 5 ก.ค. 68 โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ความจุ 8GB + 256GB ราคา 6,999 บาท
    • รับฟรี Redmi Pad 2 Cover มูลค่า 599 บาท