ได้เวลา รีวิว Asus Zenfone 5 ของดีราคาถูกกันแล้วครับ อ้อ! แต่ต้องเติม หายาก เข้าไปด้วยสินะ เพราะจนป่านนี้แล้วยังหาซื้อกันลำบากเลย แต่ก่อนจะเริ่มรีวิว ขออัพเดทเรื่องของรุ่น และราคาของ Zenfone 5 ในบ้านเรากันอีกทีนะครับ

สำหรับ Zenfone 5 รุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีรุ่นเดียวเท่านั้นคือรหัส A501CG 8G/2G ในราคา 5,990 บาท ส่วนรุ่นที่เป็น RAM 1GB ราคา 4,990 บาท ไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายแล้ว นั่นคือเปิดให้เฉพาะคนที่จองในงาน Thailand Mobile Expo เท่านั้น

และตอนนี้ในบ้านเราก็มีขายด้วยกันทั้งหมด 4 สี นั่นคือ ขาว ดำ แดง ทอง ครับ


= Video Review : Asus Zenfone 5 =

 อยู่ระหว่าง upload ขึ้น youtube (ช้านิดนึง เมื่อคืน net ล่ม  T T )

 

 

แกะกล่องแกะกล่อง ในกล่อง Zenfone 5 นั้นมีอะไรบ้าง เราลองมาดูกัน แน่นอนอย่างแรกคือตัวเครื่องพร้อมฝาหลัง ในกล่องจะไม่มีแบตเตอรี่มานะครับ เพระาแบตของ Zenfone 5 นั้นถอดไม่ได้ ฝังมาในเครื่องเลย

 

ส่วนของที่แถมมาก็มีสาย micro USB, หม้อแปลง และหูฟังแบบ in-ear (ต่างกับ Zenfone 4 ที่ไม่แถมหูฟังมาให้) 

 

Zenfone 5 มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วตามชื่อรุ่น เป็นจอ IPS คมชัดมุมมองกว้าง บริเวณด้านบนตัวเครื่องมีลำโพงสนทนา ambient light sensor สำหรับปรับความว่างหน้าจอตามสภาพแสง และกล้องหน้าความละเอียด 2MP วัสดุตัวเครืองเป็นพลาสติก แต่ชิ้นด้านล่างของจอภาพมีการเคลือบเงาคล้ายๆ โลหะ ส่วนปุ่มควบคุมด้านหน้า Back, Home , Recent App นั้นอยู่บนตัวเครื่อง ไม่ได้ไปใช้บนหน้าจอ

 

วัสดุฝาหลังนั้นผิวสัมผัสอาจจะต่างกันไปตามสี เช่นสีดำและสีขาวนั้นจะเป็นผิวด้าน แต่สีแดงหรือสีทองจะเป็นผิวเงาๆ หน่อย แต่ไม่มันจนถือแล้วติดเป็นคราบรอยนิ้วมือนะครับ ส่วนกล้องหลังของ Zenfone 5 ก็มีความละเอียด 8MP พร้อมเทคโนโลยี Pixel Master จาก Asus และก็มี LED Flash ด้วย ส่วนด้านล่างเป็นช่องลำโพง 

 

Asus Zenfone 5 รองรับการใช้งาน 2 SIM แต่ต้องใช้เป็น micro SIM ทั้งคู่นะครับ ส่วนมุมขวาบนในภาพจะเห็นว่ามีช่องใส่ micro SD การ์ดสำหรับเพิ่มหน่วยความจำอยู่ด้วย

 

= การใช้งาน Zen UI = 

สำหรับแถบ notification bar ด้านบนของ Zen UI นั้น หากเราเลื่อนจากด้านซ้ายบนลงมา มันด็จะโชว์ notification การแจ้งเตือนต่างๆ ครับ แต่ถ้าเลื่อนจากขวาบนลงมา มันจะเป็น toggle switch สำหรับปิดเปิดฟังก์ชั่นต่างๆ แต่เราก็สามารถกดสลับ noti กับ toggle ได้ด้วยปุ่มขวาบนสุดเช่นกัน

 

 

Splendid คือแอพที่ช่วยให้เราสามารถปรับแต่งการแสดงผลของหน้าจอได้ครับ สีจืดไปก็ไปเปิด Vivid Mode ถ้ายังสดไม่พอก็ไปปรับ Saturate ให้สดขึ้นอีกก็ย่อมได้ หรือหน้าจอเหลือง อยากได้ขาวก็ไปปรับ Color Temp ให้ลดลง

 

อีกฟังก์ชั่นนึงที่โดดเด่นคือ What’s Next ที่จะคอยเตือนตางรางนัดหมายและสิงที่ต้องทำต่อไปของเรา ดูๆ แล้วก็คล้ายๆ Google Now แต่ของ Zen UI นั่นจะพ่วงในเรื่องของการพยากรณ์อากาศเข้ามาด้วย เช่นถ้าฝนจะตก ก็เตือนให้เราพกร่มก่อนออกจากบ้าน หรือถ้าแดดแรงๆ ก็จะเตือนให้เราทาครีมกันแดด

นอกจากนั้น What’s Next ยังสามารถแยกงานที่ต้องทำออกจากกันเป็นหมวดหมู่ได้ เช่นนัดประชุม หรือนัดฉลองวันเกิด 

 

ส่วน Do It Later ก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Zen UI ที่ช่วยเตือนให้คุณทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ปกติคุณอาจจะพูดว่า เดี๋ยวก่อน หรือ ไว้ทีหลัง โดยจับมันมารวมกันไว้ในแอพ Do It Later

บางทีคุณเปิดอ่านข้อมูลจากเว็บไซต์อยู่ หรือบางทีกำลังจะพิมพ์ตอบเมล์ แต่เผอิญมีประชุม หรือต้องรีบเดินทางไปที่ไหน ก็สามารถเลือกเอากิจกรรมนั้นๆ ไปใส่ใน Do It Later ได้ และเมื่อนำไปใส่แล้ว ก็จะมีตัวเลขเด้งขึ้นมาพร้อมกับวงกลมสีแดงๆ ให้คุณรู้ว่าคุณดองสิ่งที่จะทำเอาไว้กี่ชิ้นแล้วนั่นเอง 

 

หลังจากเปิดเข้ามาในแอพ คุณก็จะเห็นสิ่งที่คุณเก็บไว้ใน Do It Later ทั้งหมด และก็สามารถทยอยเคลียร์มันไปทีละอย่างได้สบายๆ แต่ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ได้รองรับทุกแอพนะครับ

 

= การทดสอบประสิทธิภาพ : Benchmark =

หน้าจอของ Zenfone 5 รองรับ multi-touch สูงสุดถึง 10 จุดครับ และจากการทดลองใช้งาน 4 จุดไขว้ตัดกันไปมาก็ให้ผลออกมาดี ไม่มีการกระโดดข้ามระหว่างจุดสัมผัส 

 

คะแนนประสิทธิภาพที่ได้จาก Antutu X นั้นอยู่ที่ 19,070 คะแนน อยู่ในระดับที่สูงกว่า GALAXY S3 นิดหน่อย

 

= โหมดกล้องถ่ายภาพ =

สำหรับ Zenfone 5 นั้นมีโหมดกล้องถ่ายภาพให้เลือกเยอะรวมถึง 13 โหมดเลยทีเดียว การทำงานของชัตเตอร์ก็เร็วคือกดแล้วถ่ายภาพเลย ส่วนการสัมผัสไปที่หน้าจอเพื่อโฟกัสนั้น ก็สามารถปรับให้่มีการวัดแสงและปรับสภาพความสว่างตามได้ 

 

ซึ่งโหมดถ่ายภาพที่เด่นๆ ก็มี

  • Time Rewind ที่คล้ายๆ กับ Time Shift Burst ของทาง Sony
  • Low Light การถ่ายภาพในที่แสงน้อยแล้วใช้การรวมแสงให้ของเซนเซอร์ให้สูงขึ้นคล้ายๆ Ultra Pixel
  • Depth of field ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ
  • Smart Remove ลบคนหรือสิ่งที่เคลื่อนไหวออกจากภาพ
  • Beautification ถ่ายหน้าสวยเนียนเรียว

 

และหากสลับมาใช้งานกล้องหน้า ก็ยังพอมีโหมดถ่ายภาพให้เล่นอยู่ แต่ก็เหลือน้อยลงแค่ 5 โหมดเท่านั้น 

 

แน่นอนว่าในการถ่าย selfie นั้นก็ต้องใช้โหมด Beautification ครับ ซึ่งโหมดนี้เราสามารถปรับสีแก้ม, ความเนียนของผิวหน้า, ความเรียวของใบหน้า และขนาดของตาดำ ลองสังเกตุที่ภาพซ้ายกับขวา จะเห็นว่าก่อนถ่ายภาพก็จะมีตัวอย่างให้ดูเป็นแบบ Live Preview คือถ่ายแล้วจะออกมาเป็นแบบนี้นะ

ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายข้างล่างได้ครับเท่าที่ผมลองนี่คงปรับกันไม่เกิน 1 หรือ 2 มันก็ค่อนข้างโอเคแล้ว พอปรับไปเยอะๆ นี่กลายเป็นเอเลี่ยนไปเลย  😐

 

 

= ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Asus Zenfone 5 = 


ภาพทั้งหมดนี้ย่อขนาดอย่างเดียวนะครับ ไม่ได้ปรับแต่งจากต้นฉบับเลย ส่วนตัวผมว่าสีของภาพนั้นสดมาก และก็ไวต่อสีแดงพอสมควร คือถ้าภาพไหนมีสีแดงจะยิ่งสดมากๆ ในบางรูปสดจนเกินจริง รายละเอียดของภาพถือว่าค่อนข้างดี ภาพคม ระยะมาโครเข้าไปได้ใกล้มาก

ภาพนี้ถ่านตอนแรกแอบมีมือมืดนิดนึง เลยลองเปิด HDR แล้วถ่ายภาพที่ 2

เปิดแล้วความสว่างของภาพมาเลย รายละเอียดเมฆบนท้องฟ้ายังอยู่ครบ ต้นไม้ด้านหลังสว่างขึ้น โอเคเลยครับ

ภาพนี้ผมว่าสีมันแอบสดไปหน่อยนึง

 ตำถาด ตำถาด ใครเปิดมาดูตอนดึกๆ ขออภัยด้วย

ลองขยับเข้าไปนิดนึง ในถาดมีอะไรบ้างเอ่ย

ทดสอบระยะมาโคร ใกล้ได้อีก ไข่มดแดงใหญ่น่ากินหงับๆ

กินของคาวแล้ว ต้องมาต่อด้วยของหวาน

ภาพนี้เปิด HDR แล้วเกิดอาการโอเว่อร์ ขาวไปหมดเลย > <

ลองเปลี่ยนมาเล่นโหมดถ่ายภาพอื่นๆ บ้าง เช่นภาพนี้เปิด Miniature Mode ถ่าย

Pixelize Effect

Sepia Effect

Cartoon Effect

Lomo Effect

ส่วนโหมดหน้าชัดหลังเบลอหรือ Dept of Field นั้นผมว่ายังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ถ่ายไป 5 รูปอาจจะดูดีแค่รูปเดียวครับ

ถ่ายอะไรเล็กๆ บ้าง ผึ้งน้อยๆ

ค่ำแล้วก็มาไหว้พระก่อนกลับบ้าน

ปิดท้ายด้วยภาพถ่ายย้อนแสงสักรูป 

ผมมีตัวอย่างภาพถ่ายจาก Zenfone 5 แบบไม่แต่งไม่ย่อ ไปดูกันได้ที่ Asus Zenfone 5 – Sample images

 

= การใช้งาน View Flip Cover =

Asus View Flip Cover ของแท้จะมีหน้าตาแบบนี้ครับ และจะใช้ประกอบแทนฝาหลังของ Zenfone 5 ไปเลย

พอลองแกะเอามาประกอบก็จะเห็นว่ามันพอดีเป๊ะ

ตำแหน่งของช่อง View ก็ตรงจุดพอดี เห็นข้อมูลได้ทั้งหมด โดยหน้าจอหลักของ View Flip ก็จะแสดงรายการโทร อีเมล์ และ SMS หากเลื่อนไปอีกก็จะเป็นพยากรณ์อากาศ และถ้าเราเปิดเพลงก็จะเป็น music control ครับ

ด้วยความอยากรู้ว่าแล้วพวกของทำเลียนแบบนั้นจะใช้ได้เหมือนกันหรือเปล่า ผมเลยลองซื้อมาทดสอบดูด้วย จะเห็นว่ามันเป็นเคสแบบเต็มตัว ไม่ใช่เป็นแค่ฝาหลัง

พอลองปิดฝา flip เข้าไป เออใช้ได้เหมือนกัน แต่ปัญหาคือรูมันไม่ค่อยตรงครับ เบี้ยวๆ เอียงๆ ดูแล้วไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แนะนำว่าถ้าจะซื้อของเลียนแบบให้ลองให้ดีซะก่อนครับ

 

สำหรับ Asus Zenfone 5 ผมว่าด้วยสเปคและราคาของมันนั้นคุ้มค่ามากมายครับ แบตเตอรี่ 1 วันนี่อยู่ได้สบายๆ ถ้าเทียบกับหลายๆ รุ่นที่เปิดตัวในตลาดราคาใกล้ๆ กันนั้นผมว่าไม่แพ้ แต่ถ้าเป็นรุ่นราคาสูงๆ ที่เปิดตัวมานานแล้วราคาหล่นลงมาก็ต้องดูว่ารุ่นไหนยังไงแล้วพิจารณาเรื่องสเปคกันอีกที

สำหรับใครที่เล็ง Asus Zenfone 5 และ Huawei Honor 3C อยู่ เข้าไปอ่าน เปรียบเทียบ Asus Zenfone 5 vs Huawei Honor 3c ซื้อตัวไหนดี? ได้นะ ในคอมเม้นท์มีคนที่ใช้ทั้งสองตัวนี้อยู่มาตอบกันมันส์สะพรึมเลย 😀