วางขายกันไปได้สักพักแล้ว สำหรับ Galaxy A7 (2018) ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากหลายคนด้วยมุมมองการถ่ายภาพที่แตกต่างออกไป ใส่เลนส์มุมกว้างเป็นเลนส์ตัวที่ 3 ของกล้องหลัง และสเปคโดยรวมก็ดูน่าใช้ หน้าตารูปร่างเครื่องดูดีไม่เบา แต่ว่ามันจะโอเคขนาดไหนนั้น จะขอเอาประสบการณ์ที่อยู่กับ Galaxy A7 มาตลอดเดือนนี้แชร์ให้ได้ทราบกันครับ
Galaxy A7 เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางๆจากทาง Samsung เปิดราคามาเริ่มต้นที่ 10,900 บาท สเปคให้มาแบบสามารถใช้งานทั่วไปได้โอเค แม้ว่าจะยังไม่ถึงกับแรงสุดคุ้มค่ากว่าคู่แข่ง แต่ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นในค่ายของ Samsung เองแล้วก็จัดว่าดีกว่าพอสมควร แต่ที่หาไม่ค่อยได้จากแบรนด์อื่นก็คือมีกล้องหลังให้มา 3 ตัว โดย 1 ใน 3 ตัวนี้จะมีเลนส์ไวด์มาให้ด้วย ซึ่งโดยสรุปแล้วจะมีจุดเด่น จุดด้อย และข้อสังเกต ที่ควรรู้ประมาณนี้ครับ
จุดเด่น
- กล้องหลัง 3 ตัว : Wide – Ultrawide – Depth
- หน่วยความจำ 4/64 หรือ 6/128 รองรับการเติม microSD
- แบตเตอรี่ 3,300 mAh
- รองรับ 4G LTE 2CA
จุดด้อย
- ไม่รองรับ fast charge
- ใช้เพียง micro USB 2.0
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับ Samsung Pay
- ไม่กันน้ำกันฝุ่น
ซึ่งจะขออธิบายเพิ่มเติมในเรื่องสำคัญๆตามรายละเอียดด้านล่างตามนี้ครับ
เปิดมุมมองใหม่กับกล้องเลนส์ไวด์ คุณภาพโอเคทั้งกลางวันและกลางคืน
Galaxy A7 (2018) ได้เลือกใช้เซนเซอร์รับภาพของทาง Samsung เองที่เป็น ISOCELL แต่ก็ไม่ได้ใช้รุ่นสูงสุดระดับเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S หรือ Galaxy Note มา แต่ใช้งานโดยรวมก็ถือว่าดีพอประมาณอยู่ ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเลนส์เสริมเป็นภาพไวด์ถ่ายมุมกว้าง มากกว่าเทเลถ่ายซูมอยู่แล้ว เพราะมันสามารถเก็บบรรยากาศและเปิดมุมมองใหม่ๆได้ดีกว่านั้นเอง โดยเนื้อไฟล์จากเลนส์หลักจัดว่าโอเค แต่เลนส์ไวด์คุณภาพจะดรอปลงไป ไม่ได้เนียนเท่ากัน และตัวเลนส์ไวด์ของ Galaxy A7 นี้จะไม่สามารถโฟกัสได้นะครับ ซึ่งมันก็เกือบจะชัดทุกช่วงอยู่แล้ว ถ้าไม่เอามาถ่ายมาโครก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มาดูตัวอย่างภาพบางส่วนกันครับ
เลนส์ไวด์ปกติ
เลนส์อัลต้าไวด์
กล้องหน้าก็ใส่ฟิลเตอร์มาหน้าเนียนใช้ได้นะครับ
ข้อควรรู้
- กล้องหลัก Galaxy A7 ถ่ายภาพทั่วไปได้โอเค ภาพกลางคืนต้องระวังสั่น ไม่มี OIS มาให้
- กล้องเสริม Ultra Wide ไม่มีโฟกัส เหมาะกับถ่ายภาพกลางวันแสงเยอะๆ แสงน้อยแล้วเนื้อภาพค่อนข้างวุ้น
ส่วนการถ่ายวิดีโอ Galaxy A7 ก็มีการใส่กันสั่นด้วย Software มาให้ ครอปรอบด้านออกเล็กน้อยเพื่อรักษาความนิ่งเรียกว่าใช้งานได้ค่อนข้างโอเคทีเดียวในระดับราคานี้
ตัวเครื่องดีไซน์ใหม่ คลีนๆสะอาดตา ปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และไม่กันน้ำ
เป็นรุ่นแรกของทาง Samsung ที่เปลี่ยนมาใช้ปุ่ม Power + สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง ใครที่ไม่เคยใช้มาก่อนก็อาจจะงงๆหาปุ่มไม่เจอได้ แต่ถ้าชินแล้วจะรู้สึกว่าการย้ายตำแหน่งการสแกนนิ้วมาด้านข้างก็เป็นอะไรที่สะดวกดีเหมือนกัน และทำให้เครื่องไม่ต้องมีริ้วรอยปุ่มกลมหรือเหลี่ยมที่ด้านหน้าหรือหลังเครื่อง ดูคลีนสะอาดตาดี ตัวเครื่องมีความบางจับถือสะดวก น้ำหนักกำลังดี แต่ที่แปลกไปจากความเป็น Galaxy A คือไม่ใส่ความสามารถในการกันน้ำมาให้แล้ว ลดจุดเด่นที่ช่วยตัดสินใจไปตัวนึงเลย
จอใหญ่ แบตอึด ชาร์จนาน
หน้าจอของ Galaxy A7 (2018) มีขนาด 6.0″ ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) กระจกหน้าจอแม้ว่าจะให้มาเพียง Gorilla Glass 3 แต่ไม่ว่าจะลิงพันธุ์ไหน ถ้ากลัวรอยก็ควรต้องติดฟิล์มหรือกระจกเสริมทั้งนั้น การจูนสีต่างๆออกมาได้ค่อนข้างดี ใช้งานสู้แสงได้ในระดับนึง กินแบตตามปกติของจอ SuperAMOLED ซึ่งถ้าปรับให้ใช้เป็น Dark Mode ในแอปต่างๆก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ดีขึ้นอีก แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปเท่าที่ทดสอบอยู่ได้ทั้งวันแบบไม่ต้องลุ้นว่าจะแบตหมด เวลาใช้งานหน้าจอผ่าน 3 ชม. ซึ่งเป็นเวลามาตรฐานในการใช้งานต่อวันของคนทั่วไปได้แบบสบายๆ ถ้าเปิด YouTube หรือ Netflix ดูยาวๆก็ยิงได้หลายชม.อยู่ เรียกว่าดูกันจนตาแฉะ ตาสั้นกันไปเลย แต่ข้อเสียของมันคือถ้าใช้งานจนแบตหมด กว่าจะชาร์จเต็มต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ชม. (ชาร์จได้ราวๆ ชม.ละ 45%) เพราะตัวเครื่องไม่มี fast charge มาให้นั่นเอง
เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ได้พอใช้
Galaxy A7 เลือกใช้ CPU ที่อยู่ในระดับกลางๆ เทียบแล้วใกล้ๆกับ Snapdragon 660 แต่ก็ยังแรงไม่เท่า และใช้หน่วยความจำเพียง eMMC ทำให้อ่านเขียนได้ไม่เร็วมาก เวลาจะโหลดเข้าเกมอะไรต่างๆ อาจจะไม่ได้ปรู๊ดปร๊าด ความสวยงามของกราฟิกก็ไม่สามารถเปิดได้สุด แต่เมื่อโหลดเข้าเกมไปแล้วทั้ง ROV & PUBG ต่างก็เล่นได้โอเค ไม่เจอปัญหาหนักๆอะไร ส่วนการดูหนังฟังเพลง หน้าจอของ Galaxy A7 ที่ขนาด 6.0″ ก็ดูได้จุใจดี เสียงเปิดจากลำโพงเครื่องอาจจะไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่นัก แนะนำใส่หูฟังแทนจะช่วยได้มาก โดยตัวเครื่อง Galaxy A7 นี้จะยังมีช่องหูฟัง 3.5 mm มาให้ใช้ตามปกติ ส่วนแบตใช้งานได้อึดพอตัว ทั้งการเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงก็ตาม
ข้อควรรู้
- เล่น ROV แล้วเจอติดขัดเวลาต้องการการควบคุมละเอียดๆ เช่น ยอน หรือเอลซุ ที่ต้องเล็งทิศทางแม่นๆ แต่หน้าจอของ Galaxy A7 บางครั้งจะปรับละเอียดไม่ได้ ทำให้เล็งตำแหน่งพลาดไป
- ROV เปิด High Framerate ได้ก็จริง แต่เล่นแล้วไม่ไฮอย่างที่คิด เฟรมเรตตกกระจุยโดยเฉพาะเวลาบวกหนักๆ
- การตั้งค่าแนะนำเล่น ROV แค่ปิดตัว High Framerate ชีวิตก็เล่นได้อย่างปกติสุขขึ้นมากละ
- PUBG เปิดกราฟิกได้ระดับกลางๆ เจอเฟรมเรตตกไปเป็นพักๆ สำหรับการเล่นแบบมือใหม่ยังไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก
- โหลดเข้าเกมไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าด แต่เข้าเกมส์แล้วก็เล่นได้ลื่นดีไม่มีกระตุก
- ดู Netflix ระดับ HD ได้ไม่มีปัญหา
- ลำโพงที่มากับเครื่องเสียงดังพอใช้ คุณภาพงั้นๆตามสภาพ
- รองรับ Dolby Atmos เฉพาะเมื่อเสียบหูฟังเท่านั้น
สเปคมาตรฐาน ไม่ได้โดดเด่น แต่ใช้งานดีไม่มีเอ๋อ
สำหรับสเปคอื่นๆของ Galaxy A7 ให้มาอย่างครบครัน ใช้งานทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ใช้งานมา 1 เดือนยังไม่เจออาการเอ๋อค้างอะไรหนักๆ การเชื่อมต่อต่างๆก็ให้มาแบบไม่กั๊กทั้ง Bluetooth 5.0 หรือ WiFi a/b/g/n/ac ส่วน 4G LTE สามารถจับได้ทุกเครือข่ายในไทย รวมถึง 4G TDD ของดีแทค แต่จะรองรับเพียง 2CA ความเร็วและความเสถียรจึงอาจจะยังไม่ได้สุดมากเวลาใช้งานในพื้นที่หนาแน่น
อื่นๆที่น่ารู้ของ Galaxy A7 (2018)
- GPS จับสัญญาณได้ดี ไม่เจอปัญหาสัญญาณหลุดบ่อย เด้งไปเด้งมา
- การรับสัญญาณ ไม่เจอปัญหาอะไร มีคุยๆแล้วสายหลุดบ้าง แต่ไม่ชัวร์ว่ามาจากเครือข่าย หรือเครื่องกันแน่
- microUSB 2.0 พอร์ตเป็นทั้งข้อดีที่หาใช้งาง่ายและข้อเสียที่ในอนาคต 2-3 ปีน่าจะหาใช้ยากขึ้น
- ไม่รองรับการแชร์ WiFi ต่อจาก WiFi อีกที
สรุปว่าน่าใช้น่าซื้อรึเปล่า?
Galaxy A7 (2018) สำหรับสายสเปค อาจจะไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ Galaxy A7 ก็มีจุดเด่นที่หลายเครื่องไม่มีให้ คือ กล้องไวด์ที่จะเก็บภาพหมู่ ภาพสถานที่ได้กว้างกว่าชาวบ้าน จอก็ใหญ่อ่านตัวหนังสือต่างๆได้ชัด วัสดุและขนาดตัวเครื่องพอดีมือ แบตก็อึดพอตัว จะซื้อมาใช้งานเองยืนพื้นเป็นเครื่องหลักก็น่าจะถือยาวๆ 1-2 ปีได้ไม่ยากเย็น ถ้าจะซื้อให้พ่อแม่ลุงป้าน้าอาใช้งานก็ไว้ใจได้ว่าปัญหาจุกจิกไม่มี เครื่องมีปัญหาจะเคลมเคลิมอะไรก็สะดวก มีคนคอยซัพพอร์ตในหลายๆช่องทาง ส่วนเรื่องที่น่าหงุดหงิดหลักๆก็คือชาร์จแบตใช้เวลานานไปหน่อย รวมถึงการตัดจุดเด่นของ Galaxy A Series อย่างการกันน้ำกันฝุ่น และการจ่ายเงินด้วย Samsung Pay ออกไปนั่นเอง ทั้งหมดนี้ถ้าคิดว่าโอเค รวมถึงการเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นยี่ห้ออื่นแล้วยังชอบข้อดีมากกว่า ก็ซื้อ Galaxy A7 ไปใช้ได้เลยครับ
ถ้ามีคำถามอยากรู้ตรงไหนเพิ่มเติมก็ถามมาได้นะครับ ส่วนด้านล่างนี้จะเป็นสเปคละเอียดรวมข้อมูลทุกจุดที่น่ารู้เกี่ยวกับ Galaxy A7 มาให้ทราบกันครับ
ราคา | 10,990 บาท / 13,990 บาท |
วันวางจำหน่าย | ตุลาคม 2561 |
สีที่จำหน่าย | Blue, Gold, Black |
หน้าจอ | 6.0″ Super AMOLED FHD+ |
วัสดุ | Gorilla Glass 3 |
CPU | Exynos 7885 Octa-Core (2.2GHz,1.6GHz) |
หน่วยความจำ | RAM 4 / ROM 64 GB (eMMC) RAM 6 / ROM 128 GB |
หน่วยความจำเสริม | รองรับ MicroSD |
เครือข่าย /ซิม | 2 Nano Sim ( มี 3 ช่อง : SIM1 + SIM2 + MicroSD Card)2G : 850/900/1800/1900 3G :850/900/1700/1900/2100 4G – FDD LTE : B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B13/B17/B20/B28/B66 4G: TDD LTE : B38/B40/B41 |
ความเร็วเครือข่าย | LTE Cat.6 2CA |
กล้องหน้า | 24 MP Tetra Cell (F2.0) Flash-LED |
กล้องหลัง | กล้องหลัง 3 เลนส์
+Flash-LED |
ถ่ายไฟล์ RAW | ไม่รองรับ |
วิดีโอ | บันทึก : FHD (1920 x 1080) | @30fps เล่น : FHD (1920 x 1080) | @60fps |
แบตเตอรี่ | 3,300 mAh ไม่รองรับ Fast Charge |
รองรับ OTG | USB 2.0 (Type B) |
รองรับ MHL | ไม่รองรับการต่อสายขึ้นจอ |
รองรับ NFC | มี |
รองรับ Samsung Pay | ไม่รองรับ เพราะไม่มี MST |
กันน้ำกันฝุ่น | ไม่กันน้ำกันฝุ่น |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
รองรับ Gear | Gear Circle (Manager Support), Gear Fit, Gear Fit2, Gear Fit2 Pro, Gear Sport, Gear1, Gear2, Gear2 Neo, Gear S, Gear S2, Gear S3, Gear IconX |
Bluetooth | Bluetooth v5.0, LE, ANT+ |
WiFi | 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz, VHT80 MU-MIMO |
เสียง | ไมค์ 2 ตัว ตัดเสียงรบกวน, ลำโพงเดี่ยว, มีรูหูฟัง 3.5mm, รองรับ Dolby Atmos เมื่อเสียบหูฟัง |
GPS | GPS, Galileo, Glonass, BeiDou |
OS | Android 8.0 |
ขนาด, น้ำหนัก | 159.8 x 76.8 x 7.5 mm, 168 g |
ดูเหมือน Galaxy A เทียบสิ่งที่ให้มากันยุคต่อยุค จะเหมือนค่อยๆลดต้นทุนลงเรื่อยๆ
A5 2017 เทียบกับ A5 2016 กล้องตัด OIS ออก
A7 2018 เทียบกับ A5 2017 ตัด USB-C กันน้ำ Fast Charge ออก
จุดเด่นเดียวเลยของมือถือรุ่นนี้คือมีกล้องไวด์ แต่ก็ให้มาแบบกั๊กๆอีก
ส่วนตัวมองว่าซัมซุงเดินมาผิดทางนะถ้าคิดจะสู้ Mid-End แบรนด์จีน
ตัวน่าสนใจรอดูจริงๆน่าจะอยู่ที่ A9 มากกว่า
เหมือนซัมซุงมองข้ามผู้ที่ต้องการมือถือขนาดกะทัดรัดแต่สเปคจัดเต็ม ไปรึเปล่า
ที่ทำ A7 กับ A9 ออกมาต่างสเปคกันแบบนี้
เพราะมันขายแค่ 10900 ไง คนเดี๋ยวนี้ส่วนมากมองแต่สเปค เลยยัดกล้องความละเอียดเยอะๆกับซีพียู 7885 มาแล้วตัดพวกยิบย่อย(ที่จริงๆก็สำคัญ)ออก ตามข่าวคือจะเอาซีรีย์ A กดราคาลงมาถึงซีรีย์ J เก่รด้วยก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
เทียบแบบนั้นไม่ได้ครับ เพราะ A5/A7 2017 ขยับตัวเองมาเป็น A8/A8+ 2018 หมดแล้ว
จากการปรับอนุกรมรุ่นใหม่ ให้จำง่าย เทียบเลขเท่ากับ S8/S8+ ตอนนั้น
ดังนั้น พวก A4-7 ที่ตามมา จึงเป็นรุ่นรองกว่า A5/A7 2015-2017 เดิมทั้งหมดครับ
แต่ก่อน Samsung มี A series แค่รุ่นเดียว โดยใช้ 5 กับ 7 เป็นตัวกำหนดขนาดเครื่อง
พอนับตั้งแต่ยุค A8/A8+ เป็นต้นมา 5 6 7 8 เปลี่ยนไปใช้เป็นเลขบอกระดับความแรง-ฟังก์ชั่นตัวเครื่อง ในตระกูล A แทนครับ
ส่วนขนาดเครื่อง ใช้ "+" แทน เหมือนตระกูล S
ดีไซน์สวยกำลังดี แต่อย่างที่พี่ด้านบนบอกจริงๆ กั๊กลงๆทุกที แบรนด์จีนรุ่นกลางๆอื่นๆตัวเลือกน่าจะมีตัวเลือกมากขึ้นเลยระดับกลางๆ
แบ่งกลุ่มลูกค้าชัดเจนดีนี่ครับ เน้นเล่นเกม ราคานี้ ก็ไปค่ายจีน ได้ Kirin 970, Snap 845 แต่กล้องจะห่วยหน่อย ส่วนตัวนี้ อย่างอื่นห่วยหมด แต่ไปยัดข้อดีไว้ตรงกล้อง กับจอ ผมว่าก็ถือว่ามีได้มีเสียครับ