หากพูดถึงโน้ตบุ๊กสายทำงานระดับโปร หลายคนอาจนึกถึง MacBook Pro เป็นตัวเลือกแรก ๆ แต่ในฝั่ง Windows เองก็มีคู่แข่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน หนึ่งในนั้นคือ HP ZBook Ultra G1a 14 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ด้วยการออกแบบที่บางเบาเหมือนอัลตร้าบุ๊ก แต่ภายในอัดแน่นด้วยสเปกแรงเวอร์ มาพร้อมชิป AMD Ryzen AI Max Pro ที่รองรับทั้งงานวิศวกรรม การตัดต่อ และงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ

เพราะโดยปกติแล้ว พอพูดถึงโน้ตบุ๊กสเปกแรง หลายคนคงนึกถึงเกมมิ่งโน้ตบุ๊กตัวใหญ่ ๆ หนา ๆ น้ำหนักเกิน 2 กิโลขึ้นไป ไม่ค่อยมีใครคาดหวังว่าเครื่องบางเบาในฝั่ง Windows จะดันประสิทธิภาพได้ถึงระดับนั้น แต่ ZBook Ultra G1a กำลังจะเปลี่ยนภาพจำนี้ ด้วยการผสานความบางเบา พกง่าย แต่แรงพอจะท้าชนโน้ตบุ๊กสายโปรระดับเรือธง

คำถามคือ มันจะแรงจริงสมชื่อ “Ultra” แค่ไหน และเพียงพอที่จะเป็นคู่แข่งของ MacBook Pro ได้หรือไม่ วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกคำตอบกัน

ดีไซน์ภายนอกบางเบา เรียบหรู แต่ยังดูแข็งแรง

พูดตรง ๆ ตอนเห็นครั้งแรก HP ZBook Ultra G1a 14 มันชวนให้นึกถึง MacBook Pro อยู่ไม่น้อย เพราะมาในสไตล์เรียบหรู บางเฉียบ สมกับโน้ตบุ๊กสายทำงานระดับโปร ถึงแม้จะไม่ได้บางเฉียบแบบโน้ตบุ๊กสายพกพา 1 กิโลกว่า ๆ แต่เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน้ตบุ๊กสเปกแรง ๆ แล้วถือว่าบางกว่ามาก แถมยังดูภูมิฐานและแข็งแรงในแบบที่เหมาะกับคนทำงานจริงจัง

สาเหตุที่เครื่องยังคงมีความหนาอยู่บ้างก็เพราะภายในอัดแน่นด้วยสเปกแรงเวอร์ ๆ อย่าง AMD Ryzen AI Max PRO 390 รุ่นรองท็อปของตระกูล ที่ต้องการระบบระบายความร้อนระดับสูงมาคู่กัน พูดง่าย ๆ คือบางลงเท่าที่จะบางได้ แต่ก็ยังไว้ลุยงานหนักโดยไม่ลดทอนสมรรถนะ

ด้านซ้ายมาพร้อมกับ ช่อง HDMI 2.1 จำนวน 1 ช่อง USB-C ความเร็ว 10 Gbps จำนวน 1 ช่อง USB-C Thunderbolt 4 ความเร็ว 40 Gbps จำนวน 1 ช่อง ทั้งสองช่องรองรับการชาร์จไฟและต่อจอภาพ และช่องหูฟัง 3.5 แบบ Combo Jack

ด้านขวาให้พอร์ต USB-C Thunderbolt 4 ความเร็ว 40 Gbps จำนวน 1 ช่อง รองรับการชาร์จไฟและต่อจอภาพ USB-A ความเร็ว 10 Gbps จำนวน 1 ช่อง และ Kensington Lock

ในภาพรวม HP ZBook Ultra G1a 14 ให้พอร์ตเชื่อมต่อมาค่อนข้างครบครัน ตอบโจทย์ทั้งสายทำงานและคนทั่วไป ไม่ว่าจะต่อจอ ต่อ Storage หรือต่ออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็แทบไม่ต้องพก USB Hub เพิ่มให้เกะกะกระเป๋า จุดที่น่าประทับใจคือทุกพอร์ตที่ให้มาเป็นพอร์ตความเร็วสูง รองรับการโอนถ่ายไฟล์และต่ออุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงได้สบาย ๆ

แต่สิ่งที่แอบน่าเสียดายเล็กน้อยคือ ไม่มีช่องอ่าน SD Card แบบเต็มขนาด มาให้ ซึ่งเป็นพอร์ตที่ช่างภาพและสายวิดีโอหลายคนใช้งานกันบ่อย ถ้ามีเพิ่มมาให้คงจะสมบูรณ์แบบกว่านี้

ด้านใต้ตัวเครื่องของ HP ZBook Ultra G1a 14 ถูกออกแบบมาให้ช่วยระบายความร้อนด้วยช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ พร้อมยางรองทั้งหมด 3 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้ลมไหลเวียนได้สะดวกขึ้น ส่วนเรื่องเสียงก็จัดเต็ม เพราะนอกจากลำโพงคู่ที่วางไว้ซ้าย-ขวาใต้เครื่องแล้ว ยังมีลำโพงเสริมด้านบนอีก 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัวรอบเครื่องจาก Polystudio ให้มิติและความดังที่ใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือประชุมออนไลน์ได้สบาย ๆ คุณภาพถือว่าดีกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปพอสมควรเลยทีเดียว

HP ZBook Ultra G1a 14 มาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 140W ผ่าน USB-C PD ซึ่งถือว่ากำลังไฟแรงพอตัวสำหรับโน้ตบุ๊กสายทำงานสเปกสูง แต่ในแง่ขนาดต้องบอกว่าค่อนข้างใหญ่กว่าที่เห็นกับโน้ตบุ๊กทั่วไป พอ ๆ กับอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับเริ่มต้นเลยทีเดียว ทำให้เวลาใส่กระเป๋าพกพาอาจจะรู้สึกเทอะทะไปบ้าง แม้ตัวเครื่องเองจะบางเบา แต่สายชาร์จและอะแดปเตอร์ก็ยังคงเป็นภาระเล็ก ๆ ที่ต้องแบกไปด้วย แนะนำว่าถ้าจะพกพาจริง ๆ ให้หาหัวชาร์จ PD 65W หรือ 100W พกไปด้วยน่าจะดีกว่า

HP ZBook Ultra G1a 14 มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.59 กิโลกรัม แม้จะมากกว่าโน้ตบุ๊กบางเบาหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปในปี 2025 อยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์พกพาสะดวกเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา

ตัวเครื่องผลิตจาก อะลูมิเนียมทั้งบอดี้ ให้สัมผัสที่แข็งแรงและพรีเมียมกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปแบบรู้สึกได้ทันทีเวลาจับ ถือหรือวางบนโต๊ะทำงาน ส่วนงานประกอบก็ทำออกมาได้อย่างประณีต เนี้ยบสมกับชื่อชั้นของ HP ดูภูมิฐานและน่าเชื่อถือ เหมาะกับการใช้งานในระดับองค์กรหรือสายงานที่ต้องการภาพลักษณ์มืออาชีพ

หน้าจอสัมผัส OLED คมชัด สีสด ลื่น 120Hz

HP ZBook Ultra G1a 14 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ OLED ขนาด 14 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800) รีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz เรียกได้ว่าเกินมาตรฐานโน้ตบุ๊กสายทำงานทั่วไปไปไกล การแสดงผลสีจัดเต็มเพราะใช้พาเนล OLED ครอบคลุม DCI-P3 100% (ทดสอบได้จริง ~96%) ความสว่างสูงสุดปกติ 400 nits และดันได้สูงสุดถึง 600 nits เมื่อเปิด HDR ทำให้ได้ภาพที่สดใส มีมิติ รายละเอียดคมสมราคา

ตัวจอเป็นแบบ กระจก (Glossy Display) ให้ภาพคมชัดสุด ๆ แต่ก็มีเงาสะท้อนตามสไตล์จอกระจก ข้อดีคือเวลาใช้ทำงานด้านกราฟิกหรือดูหนัง สีจะสวยสดและสมจริง ส่วนการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเล่นเกม ท่องเน็ต หรือไถฟีดโซเชียล ก็ดูลื่นตาและน่าประทับใจ ส่วนองศาการกางหน้าจอทำได้ประมาณ 150 องศา เสียดายที่ไม่ใช่ 180 องศา สิ่งที่เสียหายนิดหน่อยคือไม่มีเซ็นเซอร์ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติมาให้ถ้ามีมาให้จะให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับ MacBook เลย

ด้านบนของจอยังติดตั้ง กล้อง 5MP พร้อมกล้อง IR และไมค์ตัดเสียง 2 ตัว รองรับการสแกนใบหน้าผ่าน Windows Hello คุณภาพถือว่าใช้งานได้ดีสำหรับประชุมออนไลน์ แม้จะยังไม่ถึงขั้นคมเท่ากล้องมือถือเรือธง แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับงานจริง

โดยรวมแล้ว หน้าจอของ ZBook Ultra G1a คือหนึ่งในจุดเด่นที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ใช้งาน ให้ทั้งความสวยงามของภาพ ความลื่นไหล และความแม่นยำของสีในระดับที่มืออาชีพไว้ใจได้

คีย์บอร์ดและทัชแพด

คีย์บอร์ดของ HP ZBook Ultra G1a 14 ใช้เลย์เอาต์แบบ 75% ตามสไตล์โน้ตบุ๊กหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไป ทำให้การจัดวางปุ่มอาจดูแปลกตาเล็กน้อย โดยเฉพาะปุ่ม Power ที่อยู่รวมกับแผงคีย์บอร์ดหลัก ซึ่งบางครั้งอาจเผลอกดผิดไปโดนได้ ต่างจากโน้ตบุ๊ก HP รุ่นอื่นที่สลับตำแหน่งปุ่ม Power กับปุ่ม Delete เพื่อเลี่ยงปัญหานี้

ส่วนปุ่มลูกศรถูกทำให้มีขนาดเล็กทั้งหมด แม้จะเท่ากันทุกปุ่ม แต่ถูกวางใกล้กับปุ่ม Page Up และ Page Down มากไปหน่อย จึงมีโอกาสกดพลาดบ้าง ข้อดีคือมีปุ่ม Copilot มาให้ กดเพื่อเรียกใช้ AI ได้ทันที เหมาะกับคนที่ทำงานร่วมกับ AI อยู่เป็นประจำ

จุดที่ถือว่าน่าสนใจคือ คีย์บอร์ดชุดนี้มีร่องระบายน้ำซ่อนอยู่ด้วย เผื่อกรณีมีน้ำหกใส่แบบอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ จะช่วยป้องกันความเสียหายได้ แต่ก็ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานหนักหรือโดนน้ำตรง ๆ อย่างกลางฝนอยู่แล้ว ดังนั้นยังคงต้องใช้งานด้วยความระมัดระวังอยู่ดี

ในด้านการพิมพ์ถือว่าทำได้ดี ตัวเครื่องแม้จะบาง แต่ปุ่มมีระยะกดและความลึกกำลังเหมาะ ให้สัมผัสแน่นและไม่สะท้านนิ้ว เหมาะกับคนที่ชอบพิมพ์แรง ๆ ส่วนทัชแพดให้ขนาดใหญ่ ใช้งานแล้วลื่น ตอบสนองแม่นยำ และให้ความรู้สึกพรีเมียมกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป เพียงแต่ยังไม่ใช่แบบ Haptic ซึ่งถ้าได้ใส่มาด้วยจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

แรงแบบไม่ง้อการ์ดจอแยก

HP ZBook Ultra G1a 14 ขับเคลื่อนด้วย AMD Ryzen AI Max Pro 390 ซีพียู 12 คอร์ 24 เธรด สถาปัตยกรรม Zen 5 บนเทคโนโลยี 4nm รุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2025 แม้จะไม่มีการ์ดจอแยก แต่ก็จัดเต็มมาพร้อม iGPU ขนาด 32 Compute Units ที่ประสิทธิภาพสูงจนสามารถรองรับทั้งงาน 3D, งานตัดต่อวิดีโอ รวมถึงการทำงานด้าน AI ได้สบาย ๆ ตัวชิปนี้มี TDP รวมสูงสุดถึง 120W ให้กำลังประมวลผล AI รวมกว่า 110 TOPS เรียกได้ว่าแรงระดับ Workstation แบบไม่ต้องพึ่ง GPU แยกเลยทีเดียว

หน่วยความจำให้มาแบบจัดหนักด้วย RAM LPDDR5x 64GB บัส 8000 ซึ่งฝังมากับบอร์ด ไม่สามารถอัปเกรดเพิ่มได้ แต่ปริมาณที่ให้มาก็ถือว่าเหลือเฟือสำหรับงานระดับโปร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไปหรืองานที่ต้องใช้กราฟิก เนื่องจากระบบตั้งค่าแชร์ VRAM ไว้เริ่มต้น 16GB ทำให้เหลือ RAM ให้ใช้งานอีก 48GB แบบสบาย ๆ และถ้าใครอยากปรับแต่งก็สามารถลดการแชร์ VRAM ลงเพื่อเอา RAM กลับมาใช้มากขึ้นได้

ผลทดสอบประสิทธิภาพ

  • Cinebench R23 Multi Core: 24,322 คะแนน และ Single Core: 1,963 คะแนน
  • Cinebench 2024 Multi Core: 1,279 คะแนน และ Single Core: 106 คะแนน
  • VRAY : 26,683 คะแนน
  • Specview Perf 2020
    • 3dsmax-07 : 113.20 คะแนน
    • catia-06 : 90.36 คะแนน
    • creo-03 : 130.81 คะแนน
    • energy : 70.42 คะแนน
    • maya-06 : 423.33 คะแนน
    • medical-03 : 156.28 คะแนน
    • snx-04 : 314.95 คะแนน
    • solidworks-07 : 224.26 คะแนน
  • 3DMark Fire Strike Ultra : 5,959 คะแนน
  • 3DMark Steel Nomad: 1,839 คะแนน
  • 3DMark Time Spy: 9,406 คะแนน
  • Geekbench Multi Core: 15,908 คะแนน และ Single Core: 2,766 คะแนน
  • Geekbench OpenCL : 72,081 คะแนน
  • PCMark
  • Blender Monster : 153.21 คะแนน
  • Blender Junkshop : 105.59 คะแนน
  • Blender Classroom : 84.29 คะแนน

HP ZBook Ultra G1a 14 ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Radeon 8050S ที่มาพร้อม 32 Compute Units ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับ iGPU ในโน้ตบุ๊ก รุ่นนี้เป็นรองเพียง Radeon 8060S 40CU ตัวท็อปเท่านั้น ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมพุ่งขึ้นไปใกล้เคียงการ์ดจอแยกอย่าง RTX 5060 เลยทีเดียว

จากการใช้งานจริง สามารถเล่นเกมส่วนใหญ่ที่ความละเอียด 2.8K ได้อย่างลื่นไหล เพียงแต่กับเกมที่กินสเปกหนัก ๆ อาจต้องปรับกราฟิกลงมาระดับกลาง หรือใช้เทคนิคอย่าง FSR และ Frame Generation ช่วยเสริม ก็จะได้ประสบการณ์การเล่นที่ดีขึ้นแบบแทบไม่ต่างจากการ์ดจอแยก

ทดสอบการเล่นเกมความละเอียด 2.8K

  • Cyberpunk 2077 (Ray Tracing Ultra, FSR 3 : Performance + Frame Gen) ได้ไป 45.21 FPS
  • Cyberpunk 2077 (Ray Tracing Low, FSR 3 : Performance + Frame Gen) ได้ไป 85.68 FPS
  • Valorant (High) ประมาณ 250-350 FPS
  • MONSTER HUNTER WILDS (2K Ultra + Ray Tracing High + FSR : Performance) ได้ไป 11441 คะแนน เฟรมเฉลี่ย 67.43 FPS
  • Black Myth: Wukong (High, FSR) 73 FPS
  • GTA V Enhanced (Maximum RT + FSR 3 Performance) ประมาณ 50-70 FPS
  • Genshin Impact (Highest) 60 FPS
  • Zneless Zone Zero (High) 70-120 FPS

บอกเลยว่าผลทดสอบเฟรมเรตของ HP ZBook Ultra G1a 14 ทำได้สูงกว่า ROG Flow Z13 ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 เสียอีก ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุหลักมาจาก Driver ที่ถูก Optimize มาดีกว่า เพราะเวลาผ่านมานานขึ้น และตัวนี้เป็นรุ่น Pro ที่เน้นเรื่องความเสถียรโดยตรง

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลข FPS จะออกมาดูดี แต่เมื่อลองเล่นจริงกลับเจอปัญหาเฟรมดรอปจนถึงขั้นหน้าจอค้างบ่อยกว่าบน ROG Flow Z13 พอสมควร โดยเฉพาะกับเกมที่กินสเปกและ Open World อย่าง GTA V ซึ่งอาการเหล่านี้กระทบประสบการณ์เล่นเกมจริงพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ยังต้องอาศัยการแก้ไขผ่าน Driver เวอร์ชันใหม่ ๆ ต่อไป

เมื่อลองเล่นเกมแบบไม่เสียบปลั๊ก พบว่ายังพอเล่นได้ในบางเกม โดยเฉพาะเกมที่ไม่กินสเปกมากอย่าง Genshin Impact หรือ Zenless Zone Zero ยังลื่นไหลสบาย ๆ แต่ถ้าเป็นเกม AAA ระดับกราฟิกจัดเต็มจะเริ่มเห็นข้อจำกัด ทำให้การเล่นต่อเนื่องไม่ค่อยเหมาะนัก ผลลัพธ์นี้ไปในทิศทางเดียวกับที่เคยเจอกับ ROG Flow Z13 เลย

ข้อดีสำคัญคือ มันช่วยแก้จุดอ่อนหลักของโน้ตบุ๊กเกมมิ่งทั่วไปที่มักแบตหมดไว ทำให้ ZBook Ultra G1a สามารถพกไปเล่นเกมที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องนั่งผูกติดกับปลั๊กไฟ อีกทั้งตัวเครื่องก็บางเบากว่าโน้ตบุ๊กเกมมิ่งหนา ๆ หนัก ๆ ที่คุ้นเคย จึงเหมาะมากสำหรับคนที่อยากได้เครื่องทำงานที่เอาไว้เล่นเกมได้บ้างแบบพกง่ายจริง ๆ

น่าสนใจว่าถ้าในอนาคตมีโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสายบางเบาที่ใช้ชิปตระกูล Ryzen AI Max แต่จับคู่กับหน้าจอความละเอียดไม่สูงมากอย่าง Full HD น่าจะกลายเป็นตัวเลือกที่สมดุลสุด ๆ เพราะเชื่อว่าการ์ดจอออนบอร์ดแรงพอจะเล่นเกมได้แทบทุกเกมในระดับกราฟิกสูงสุด เพียงแต่กับ ZBook Ultra G1a รุ่นนี้ที่ให้หน้าจอความละเอียดสูงระดับ 2.8K อาจทำให้ยังไม่เหมาะกับเกม AAA เท่าไรนัก

HP ZBook Ultra G1a 14 ให้ SSD ขนาด 1TB แบบ NVMe PCIe 4.0 มาในตัว ไม่ต้องอัปเกรดเพิ่มก็ใช้งานได้สบาย ๆ ทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 พบว่าความเร็วการอ่านอยู่ที่ราว 6,900 MB/s และการเขียนประมาณ 5,200 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วแรงในระดับสูง เพียงพอสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร การตัดต่อไฟล์ใหญ่ ๆ หรือแม้แต่การเล่นเกมที่ต้องโหลดฉากไว ๆ ก็ทำได้แบบไม่ติดขัด แต่เสียดายที่ให้ช่องใส่ SSD มาแค่ 1 ช่องเท่านั้น ถ้าจะอัปเกรดต้องถอดของเดิมออกเท่านั้น

จากการทดสอบพบว่า ซีพียูของ HP ZBook Ultra G1a 14 ทำอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 83°C ในห้องแอร์อุณหภูมิ 26°C ซึ่งถือว่าควบคุมได้ดีมากสำหรับโน้ตบุ๊กขนาดบางเบา ไม่แตะ 100°C เหมือนบางรุ่น ระบบระบายความร้อนที่ใช้ Vapor Chamber ร่วมกับพัดลมคู่ ทำงานได้มีประสิทธิภาพจริง ๆ ทำให้ถึงแม้เครื่องจะร้อน แต่ก็ไม่เจออาการเฟรมเรตดรอปหรือความเร็วซีพียูตก ประสิทธิภาพยังคงที่ตลอดการใช้งาน

สิ่งที่ต้องแลกมากับความแรงคือ เสียงพัดลมที่ดังพอสมควร โดยเฉพาะเวลาทำงานเต็มกำลัง อย่างไรก็ตาม ในการทดสอบเครื่องดึงไฟเพียงราว 80W เท่านั้น ทั้งที่ตัวชิปสามารถรองรับ TDP ได้สูงสุด 120W แสดงให้เห็นว่า HP น่าจะออกแบบเผื่อไว้แล้ว เพื่อความเสถียรและอายุการใช้งานในระยะยาว

HP ZBook Ultra G1a 14 มาพร้อมการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 จาก MediaTek ซึ่งเป็นมาตรฐานล่าสุด รองรับคลื่นความถี่ 6 GHz ที่มีสัญญาณสะอาดและแทบไม่มีคลื่นรบกวน เหมาะมากสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ เพราะได้ทั้งค่า Ping ที่ต่ำ ความเสถียรสูง และลดโอกาสเจอดีเลย์ระหว่างเล่น

นอกจากเกมแล้ว ใครที่ต้องโอนถ่ายไฟล์ใหญ่ ๆ ผ่านเครือข่ายไร้สายก็จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ ความเร็วสูงกว่า Wi-Fi 5 GHz ขึ้นมาอีกระดับ โดยเฉพาะถ้ามีเราท์เตอร์ที่รองรับ Wi-Fi 7 อยู่แล้ว ถือว่าใช้งานได้เต็มศักยภาพ เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐาน Wi-Fi ที่ดีที่สุดในเวลานี้ ความเร็วและความเสถียรใกล้เคียงการต่อสาย LAN เลยทีเดียว

แบตใหญ่ ทำงานได้ยาว ๆ

HP ZBook Ultra G1a 14 ให้แบตเตอรี่ความจุ 74.5Whr ซึ่งถือว่าเยอะสำหรับโน้ตบุ๊กสายทำงาน ทีมงานทดสอบเปิด YouTube ผ่าน Microsoft Edge ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง โดยปิดไฟคีย์บอร์ด เปิดความสว่างหน้าจอและเสียงลำโพงไว้ราว 30% พร้อมเปิดโหมดประหยัดพลังงาน พบว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องราว 8 ชั่วโมง ถือว่าอึดใช้ได้เลยเมื่อเทียบกับสเปกแรง ๆ ที่อยู่ในเครื่องนี้

แม้จะไม่ถึงขั้นอึดเวอร์เหมือนโน้ตบุ๊กบางรุ่นที่ใช้ชิป Ryzen AI ประหยัดพลังงานกว่า แต่สำหรับเครื่องระดับ Workstation ที่เน้นประสิทธิภาพ การใช้งานจริงอาจไม่ได้อึดจนใช้ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จ แต่ก็เพียงพอให้ยกเครื่องไปนั่งทำงานโซนอื่นในออฟฟิศ หรือเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งคาเฟ่สักพักได้ โดยไม่รู้สึกว่าต้องถูกล็อกให้นั่งติดปลั๊กตลอดเวลา แบตเตอรี่ขนาดนี้ถือว่าตอบโจทย์การทำงานนอกโต๊ะได้ดีเมื่อเทียบกับพลังประมวลผลที่เครื่องมี

สรุป

HP ZBook Ultra G1a 14 ถือเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กสายทำงานระดับโปรที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 จุดเด่นคือการยกพลังของชิป AMD Ryzen AI Max Pro 390 มาไว้ในบอดี้ที่บางเบากว่าที่คุ้นตากับโน้ตบุ๊ก Workstation แบบดั้งเดิม งานประกอบแข็งแรงพรีเมียม หน้าจอ OLED 2.8K/120Hz ให้สีสดคมกริบ การเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 7 และพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบพอตัว

ด้านประสิทธิภาพจัดว่าแรงเกินพอสำหรับงานมืออาชีพระดับหนัก ทั้งงานกราฟิก วิดีโอ 3D และการประมวลผล AI แม้จะไม่มีการ์ดจอแยก แต่ iGPU Radeon 8050S ก็แรงจนเล่นเกมได้จริงที่ความละเอียด 2.8K (ถ้าเป็นเกม AAA อาจต้องใช้ FSR และ Frame Generation ช่วย) ส่วนแรม 64GB LPDDR5 บัส 8000 ที่ให้มาก็เหลือเฟือ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องอัปเกรด

อย่างไรก็ตามยังมีข้อสังเกตอยู่บ้าง ทั้งอะแดปเตอร์ชาร์จ 140W ที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักตัวเครื่อง 1.59 กก. ที่มากกว่าโน้ตบุ๊กบางเบาทั่วไป แต่ก็ทำให้เวลาเล่นเกมต้องใช้พลังประมวลผลหนักกว่าเดิมมาก ถ้าใครหวังจะใช้เล่นเกม AAA ยาว ๆ อาจจะต้องปรับลดความละเอียดหรือตั้งค่าเพิ่มเติมให้สมดุลกับประสิทธิภาพ นอกจากนี้ราคาที่ขยับไปถึงหลักแสนบาทในบางคอนฟิก ก็ถือว่าแรงพอสมควร เหมาะกับผู้ใช้มืออาชีพหรือองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจริง ๆ

โดยรวมแล้ว ZBook Ultra G1a 14 คือ Workstation พกพาแบบบางเบาที่แรงจริง ใช้งานครอบคลุมทั้งงานและความบันเทิง เหมาะสำหรับผู้ใช้มืออาชีพที่ไม่อยากแบกโน้ตบุ๊กหนาและหนักแบบเดิม ๆ หากมีงบถึงรุ่นนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่มั่นใจได้ว่าจะตอบโจทย์ทั้งเรื่องความแรง ความพรีเมียม และความคล่องตัว ใช้งานได้เต็มศักยภาพแทบไม่รู้สึกถึงขีดจำกัดของเครื่องเลยทีเดียว

ข้อดี

  • ชิป AMD Ryzen AI Max Pro 390 โคตรแรง
  • iGPU Radeon 8050S แรงใกล้เคียง RTX 5060
  • RAM 64GB ให้มาเยอะ ใช้งานระดับโปรได้สบาย
  • หน้าจอ OLED สีสด คม สวย เหมาะทั้งงานและความบันเทิง
  • ระบบระบายความร้อนเอาอยู่ ไม่เจอ CPU ความเร็วตก
  • งานประกอบบอดี้อะลูมิเนียม แข็งแรง พรีเมียม
  • ลำโพงเสียงดี
  • พอร์ตให้มาเยอะ

ข้อสังเกต

  • ราคาค่อนข้างแรง
  • อะแดปเตอร์ 140W ขนาดใหญ่ พกพาแล้วรู้สึกเทอะทะ
  • น้ำหนัก 1.59 กก. หนักกว่าอัลตร้าบุ๊กทั่วไปขนาด 14 นิ้ว
  • พัดลมเสียงดังเมื่อใช้งานเต็มกำลัง
  • RAM เป็นแบบฝังบอร์ด บัดกรี ไม่สามารถอัปเกรดเพิ่มได้
  • ใส่ SSD ได้ 1 ช่อง ถ้าจะอัปเกรดต้องถอดของเดิมออก

สเปคของ HP ZBook Ultra G1a

  • ชื่อรุ่น : HP ZBook Ultra G1a 14 (BH8C8PT)
  • CPU : AMD Ryzen™ AI Max PRO 390 (up to 5.0 GHz max boost clock, 64 MB L3 cache, 12 cores, 24 threads)
  • GPU : AMD Radeon 8050S Graphics
  • RAM : 64GB LPDDR5x-8533 MT/s
  • SSD : 1TB M.2 NVME PCIe 4.0
  • หน้าจอ : 14 นิ้ว
    • ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800)
    • อัตราส่วน 16:10
    • Refresh Rate 120Hz
    • ขอบเขตสี DCI-P3 100%
    • ประเภท : OLED Touch Screen
    • ความสว่าง : 400nits
  • Wi-Fi 7 (802.11be) MediaTek Wi-Fi 7 MT7925, Bluetooth 5.4
  • Battery : 74.5 Wh
  • น้ำหนักตัวเครื่อง : 1.57 กิโลกรัม
  • OS : Windows 11 Pro
  • ประกัน : 3 ปี On-Site Service
  • ราคา : ประมาณ 100,000 บาท