ใครที่กำลังหาแท็บเล็ตที่ให้จอฟีลดีจัด ๆ วาดเขียนบนจอที่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้งานบนกระดาษฟิน ๆ ขอแนะนำ HUAWEI MatePad 11.5″S PaperMatte Edition เลย แต่ต้องบอกก่อนว่ารุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่จอ เพราะแอปวาดรูปใหม่อย่าง GoPaint มีลูกเล่นเยอะมาก หรือสายทำงานก็ใช้คู่กับคีย์บอร์ดได้สะดวก และราคาน่าโดนอยู่ที่ 17,990 บาท

รีวิว HUAWEI MatePad 11.5″S PaperMatte Edition

เซ็ต HUAWEI MatePad 11.5″S PaperMatte Edition  

สำหรับกล่องที่ได้มารีวิวคือมาเป็นเซ็ตใหญ่แบบนี้เลย คือจะมีกล่องแท็บเล็ต 1 กล่อง มาคู่กับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard 1 กล่อง ส่วนปากกา HUAWEI M Pencil จะแยกกันมาแบบนี้ 

สัมผัสแรกแท็บเล็ตจอกระดาษ

รุ่นนี้ที่ได้มาเป็นสีเทา Space Gray ดีไซน์แบบ Unibody ที่ให้ความเรียบหรู ตัวเครื่องทำจากโลหะ งานประกอบดี มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ ตัวเครื่องมีขนาดเพียง 6.2 มม. เท่านั้น ถือว่าบางเฉียบใช้ได้เลยล่ะ มีน้ำหนักอยู่ที่ 510 กรัม อันนี้รู้สึกว่าแอบหนักไปนิด ถือดูซีรีส์นาน ๆ นี่มีเมื่อยแขนเหมือนกัน 

จากที่หยิบจับและใช้งานครั้งแรกคือให้ฟีลดีเลยนะ หน้าจอขนาดใหญ่ ดูคอนเทนต์ได้สะใจ สีสดแต่ไม่แสบตา ด้านบนของเครื่องเป็นปุ่ม Power ด้านข้างเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ลำโพงมี 4 ตัว อยู่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง ส่วนกล้องหลังมาในดีไซน์วงแหวนเรียกว่า Cosmic Star Ring ทรงกลมกะทัดรัด

และเมื่อได้ลองสัมผัสหน้าจอคือรู้สึกถึงความแตกต่างจากแท็บเล็ตทั่วไปตรงที่จะมีความสาก ๆ กึ่ง ๆ เหมือนใช้งานบนกระดาษจริง ๆ ไม่ได้ลื่น ๆ เหมือนกระจก และหน้าจอคือไม่ได้ติดฟิล์มเพิ่มนะ แกะกล่องมาละได้แบบนั้นเลย ส่วนที่ชอบในการใช้จอแบบนี้คือจับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือด้วย

จอ PaperMatte ขนาดใหญ่ ลื่น144Hz สบายตา 

แท็บเล็ตใช้เป็นจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2800 × 1840 พิกเซล รองรับการปรับรีเฟรชเรท 30Hz- 144Hz ลื่นสุด ๆ ความละเอียดในการแสดงผลคมชัดระดับ 2.8K บนอัตราส่วน 3:2 ความหนาแน่นพิกเซล 291ppi ได้รับมาตรฐานจอถนอมสายตา ช่วยลดตาล้าได้ 34% ลด Brain Fatique ได้ 34% และที่สำคัญเลยรุ่นนี้เค้าเป็นจอแบบ PaperMatte รุ่นใหม่ที่ให้สีสดและใสขึ้นกว่าเดิมด้วย 

จากการทดลองใช้งานจอแบบจริงจังด้วยการดูซีรีส์และวาดเขียนภาพบนแอป GoPaint ตัวจอแสดงสีได้สดใสจริง ๆ แต่ตัวแสงสีไม่ได้พุ่งออกมาจนรู้สึกแยงตา ดูซีรีส์ไปนาน ๆ สัก 2 – 3 อีพี ก็ยังไม่ค่อยมีอาการตาล้ามากเท่าไหร่ (เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นก่อน ๆ ที่สว่างจ้า ๆ อะนะ) เป็นเพราะว่า HUAWEI มีเทคโนโลยีป้องกันแสงสะท้อนที่เป็นเอกลักษณ์ของ PaperMatte ใหม่มาให้ ส่วนเรื่องความสว่างได้ให้ความสว่างสุดมาที่ 500 นิต สว่างเพียงพอที่จะใช้งานในห้องทั่วไปได้สบาย ๆ 

eBook mode ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือมากสุด  

ใครที่เป็นสายอ่านต้องชอบแน่ ๆ เพราะว่าแท็บเล็ตเค้ามีโหมดอ่านหนังสือ eBook mode มาให้ เมื่อเปิดใช้งานหน้าจอก็จะเป็นสีขาวดำ ใช้งานควบคู่กับหน้าจอที่เป็น PaperMatte ทำให้รู้สึกฟินเหมือนอ่านการ์ตูนบนหนังสือเลย 

แอป GoPaint วาดสนุก ฟีเจอร์แน่น เหมือนใช้ procreate

แอป GoPaint แอปใหม่ที่เปิดตัวมาพร้อมกับแท็บเล็ต ซึ่ง HUAWEI เป็นผู้พัฒนาแอปนี้เอง ใช้งานคู่กับ HUAWEI M Pencil ที่วาดเพลินมากจริง ๆ ยิ่งวาดบนจอกระดาษแล้วคือให้ฟีลดีจริง มาดูที่ตัวปากกากันก่อน   

HUAWEI M Pencil มีขนาดพอเหมาะมือ รูปทรงรับกับนิ้วมือ ตัวปากกามีน้ำหนักที่จะถ่วงมือได้พอดี  เนื้อสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป รองรับแรงกดมากกว่า 10,000 ระดับ เมื่อไม่ได้ใช้งานก็แปะติดกับแท็บเล็ตเพื่อชาร์จแบตได้ ในการใช้งานจะเชื่อมต่อผ่าน Nearlink 

จากการทดลองใช้งานแอป GoPaint ขอบอกเลยว่า เป็นแอปวาดที่ครบเครื่องมาก ๆ เหมือนใช้ procreate เลยจริง ๆ เหมาะกับผู้ใช้งานในระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพที่เข้ามาลองใช้ก็ไม่ต้องปรับตัวเยอะเลย ซึ่งความสามารถและความน่าสนใจของแอปนี้ก็มีทั้ง 

  • มีหัวพู่กันให้เลือกเยอะมาก ๆ หรือจะกำหนดแปรงตามที่ตัวเองชอบก็ได้ 
  • เอฟเฟกต์ของพู่กันมีความสมจริง 
  • มีกระดาษพื้นหลังให้เลือกหลายแบบ แถมปรับความละเอียดหรือลวดลายของเนื้อกระดาษได้ 
  • มีคีย์ลัดสำหรับการใช้งานแอปหลายรูปแบบ
  • Export ผลงานได้หลายรูปแบบ จะแชร์เป็นไฟล์ PSD ก็ได้   
  • มีเอฟเฟกต์การวาดภาพมาให้ใช้เยอะ
  • มีเครื่องมือตัวช่วยในการวาดครบถ้วน จะภาพโค้ง หรือลายเส้นวงกลมก็ลากได้เลย 
  • มีฟีเจอร์ Time-Lapse มาให้ดูเบื้องหลังของการวาดภาพ

แอป HUAWEI Notes 

นอกจากวาดเขียนแล้ว ยังมีแอปสำหรับจดข้อมูลอย่าง HUAWEI Notes อีกด้วย เอาไว้เป็นตัวช่วยในการจดงานประชุม จด Lecture ตอนเรียน ตัวแอปให้ Tools มาครบ ลูกเล่นเยอะ รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจมีดังนี้ 

  • เปิดแอปมาก็จะเจอกับตัวเลือกลายกระดาษที่หลากหลาย เลือกได้ว่าจะเอาเส้นบรรทัดห่าง แคบ ไม่มีเส้น กระดาษสีอะไร หรือแบบถนอมสายตาก็มี 
  • ฟีเจอร์ Lasso ช่วยแก้ไข ย้าย คัดลอก หรือเปลี่ยนสีข้อความได้ 
  • รองรับ Quick gestures 10 ท่าทาง
  • Instant Shape วากรูปทรงเลขาคณิตได้อย่างแม่นยำ 
  • บันทึกไฟล์แบบ Hinote ทำให้สามารถแชร์ไฟล์ให้คนอื่นมาแก้ไขบันทึกได้
  • Note Replay ฟีเจอร์อัดเสียงภายในแอป ทำให้เสียงซิงค์กับเนื้อหาที่เขียนได้ เมื่อมาเปิดฟังย้อนหลังเนื้อหาที่เขียนไปก็จะแสดงไปพร้อมกับเสียงที่อัดแบบเป๊ะ ๆ 

ทำงานง่ายด้วย ฟีเจอร์ Multi-Window

ในการใช้งานแท็บเล็ตจอใหญ่ ๆ อีกฟีเจอร์หนึ่งที่ต้องมีเลยก็คือการใช้งานแบบ Multi-Window นี่แหละ สำหรับรุ่นนี้หน้าต่างแบบลอยเลือกปรับได้สามอัตราส่วน ทั้ง 9:18, 3:4 หรือ 3:2 เวลาปรับขนาดก็จิ้มไปที่มุมของหน้าต่างและลากแนวทแยง และเปิดได้ 2 บานพร้อมกัน 

ส่วนการแบ่งหน้าจอ แท็บเล็ตสามารถแบ่งเป็น 2 จอพร้อมกันได้ (แต่จะรองรับบางแอปเท่านั้น) อีกทั้งยังเปิด Floating Window เพิ่มพร้อมกันอีก 2 จอ รวมทั้งหมดเป็น 4 จอได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ App Multiplier ที่เป็นฟีเจอร์สำหรับใช้งาน 1 แอป แต่แยกออกมาเป็น 2 หน้าต่างได้ด้วย แต่ว่าต้องเข้าไปเปิดการใช้งานในตั้งค่าก่อนนะ 

พูดถึงการทำงาน ตัวเครื่องมาพร้อมกับคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ที่ใช้งานเป็นเคสหรือคีย์บอร์ดเอาไว้พิมพ์งานได้ ยึดด้วยแม่เหล็กทำให้ถอดประกอบง่าย เชื่อมต่อผ่าน NearLink เช่นเดียวกับปากกา  ตัวเคสรองรับการปรับมุมตั้งแต่ 120 ถึง 165 องศา ตัวแป้นพิมพ์ขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่เทอะทะ พกพาไปไหนสะดวก

ชิป Kirin 9000WL เล่นเกมหนัก ๆ ได้ 

ก่อนที่จะทดสอบความแรงของเครื่องก็ต้องโหลดเกมสำหรับการทดสอบมาก่อน ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่า HUAWEI โหลดแอป Google หรือเกมอื่น ๆ มาใช้เหมือนอุปกรณ์ Android ทั่วไป อาจจะต้องมีการโหลดแอปและตั้งค่าเพิ่ม โดยวิธีก็มีดังนี้ 

วิธีโหลด Google Play Store มาใช้กับ HUAWEI MatePad 11.5″S 

  • โหลดแอป MicroG บน HUAWEI App Gallery 
  • ล็อกอินด้วย Google Account ของเราได้เลย 
  • เข้าไปที่ GBox 
  • กดเข้า PlayStore ล็อกอินแอคเคาท์ตามปกติ 
  • กดโหลดแอปที่ต้องการ 
ดูวิธีดาวน์โหลด Google Play Store บน HUAWEI

สำหรับการทดสอบ ROV อันนี้เล่นได้สบาย เฟรมเรทนิ่ง ๆ เลย ส่วนเกมกราฟิกโหด ๆ อย่าง Genshin Impact ได้ลองปรับกราฟิกแบบสูงสุดก็คือได้ลื่นมากจริง ๆ จ่อฉากท้องฟ้าแล้วเลื่อนไปมาไม่มีเบลอ ตีกับมอนสเตอร์ไม่กระตุก แต่ข้อสังเกตคือรายละเอียดของฉากยังมีความเป็นดินน้ำมันอยู่บ้างเมื่อตัวคนอยู่ไกลจากวัตถุเท่านั้น  

ลำโพงเสียงดี เก็บเสียงครบทุกมิติ 

แท็บเล็ตให้ลำโพงมาทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งเป็นลำโพงอาร์เรย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Huawei ที่จะปรับเสียงให้เข้ากับแอปที่เราเปิด อันนี้ตอนลองใช้ดูซีรีส์หรือเปิดเพลงฟังคือเสียงดีเลยนะ รายละเอียดเสียงมาครบ เบสแน่นใช้ได้ หรือทดลองเล่นเกมก็ให้เสียงที่สมจริงใช้ได้ อย่างพวกเสียงฝีเท้าหรือตอนวิ่งอันนี้รายละเอียดเสียงชัดแจ๋ว

กล้องหลัง 13MP เลือกโหมดต่าง ๆ ได้ด้วยมือเดียว 

แท็บเล็ตได้ให้กล้องหลังความละเอียด 13MP ซึ่งหน้าแอปได้รวมโหมดต่าง ๆ ไว้ในจุดเดียวกันอยู่ตรงมุมขวามือล่าง ทำให้เลือกโหมดต่าง ๆ ได้สะดวกมาก ๆ กล้องหน้าเป็นแบบแนวนอน แปะติดกับเคสแล้วใช้งานวิดีโอคอลได้สะดวก ส่วนภาพที่ได้ออกมาจากกล้องหลังของแท็บเล็ตก็จะประมาณนี้ 

แบตเตอรี่ 8,800mAh ใช้งานได้ยาว ๆ ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน 

HUAWEI MatePad 11.5″S PaperMatte Edition ได้ให้แบตเตอรี่ 8,800mAh ใช้งานได้ยาว ๆ ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน ซึ่งหลังจากที่ชาร์จแบตเต็ม 100% เราก็ได้เอาไปวาดรูปเล่น ดูซีรีส์ 3-4 อีพี สลับไปเล่นเกมบ้าง ใช้งานไปชาร์จปากกาไปบ้าง รวมทั้งหมดใช้งานยาว ๆ มีปล่อยข้ามคืนด้วย แบตเตอรี่ลดเหลือ 53 % เรียกได้ว่าใช้งานได้นาน ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน

สรุปการใช้งาน

หลังจากที่ลองใช้งาน HUAWEI MatePad 11.5″S PaperMatte Edition ขอชมเลยว่าให้ความรู้สึกดีมาก ๆ ประทับใจตั้งแต่จับไปที่หน้าจอเลย เนื้อสัมผัสแบบกระดาษ ใช้งานวาดเขียนได้ฟินสุด ๆ จอลื่นไหล 144Hz คือ ลื่นหัวแตกของจริง และถนอมสายตา ดูหนังนาน ๆ ตาไม่ล้าเท่าไหร่ แอปวาดรูปที่ให้มากับเครื่องอย่าง GoPaint ก็ให้ฟีเจอร์มาตอบโจทย์สายวาดรูปมาก หรือจะสายจดโน๊ตแอป HUAWEI Notes ก็ใส่ฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกมาให้จัดเต็ม ตลอดจนเล่นเกมกราฟิกหนักก็เอาอยู่ แทบไม่กระตุกเลย 

ข้อดี 

  • จอกระดาษให้ความรู้สึกเหมือนเขียนบนหนังสือ 
  • รีเฟรชเรทลื่น 144Hz 
  • ลำโพง 4 ตัว เสียงกระหึ่ม 
  • แอปวาดภาพ GoPaint ฟีเจอร์แน่น 
  • ชิปเล่นเกมกราฟิกได้สบาย ๆ 
  • มีโหมด eBook ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือการ์ตูน 

ข้อสังเกต 

  • ใช้ Google Service ค่อนข้างลำบาก (แต่มีวิธี) 

ราคาจำหน่าย

HUAWEI MatePad 11.5”S PaperMatte Edition จะวางจำหน่ายในไทยด้วยกัน 2 สี ได้แก่สีเทา Space Gray และสีเงิน Silver Frost และมีเพียงแค่รุ่นความจุเดียวคือ 8GB + 256GB ในราคา 17,990 บาท

ตัวเครื่องจะเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 6 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเมื่อสั่งจองในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับของแถมไปเลยฟรี ๆ 4 อย่าง ดังนี้

  • ปากกา HUAWEI-M Pencil รุ่นที่ 3 มูลค่า 4,490 บาท
  • เคสคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท
  • หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE 2 มูลค่า 1,499 บาท
  • เมาส์ไร้สาย HUAWEI Wireless Mouse มูลค่า 1,490 บาท