หลังจาก Huawei P9 เปิดตัวออกมาปูพรมแดงให้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน สร้างความประทับใจและสร้างชื่อให้หลายๆ คนได้รู้จักมากขึ้น Huawei เองก็ได้เสริมรุ่นสินค้าเพื่้อเจาะตลาดกลุ่มของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบในดีไซน์ตัวเครื่องและการถ่ายภาพ นั่นก็คือ Huawei Nova Plus ที่เราได้มารีวิวกันในวันนี้

แกะกล่องดูอุปกรณ์ภายใน

ในชุดขายของ Huawei Nova Plus นั้นให้ทุกอย่างมาครบครับ ไม่ต้องไปหาซื้ออะไรมาเพิ่มเติม เรียกว่าจบในกล่องเดียวครับ

ภายในกล่องมีกล่องซ้อนกล่องอีกที แบ่งแยกอุปกรณ์ต่างๆ เป็นระเบียบเรียบร้อย 

มีเคสพลาสติกกรอบแข็งแต่มีความยืดหยุ่น แถมมาให้พร้อมใส่ป้องกันตัวเครื่อง ปิดมุมเจาะช่องต่างๆ เอาไว้เรียบร้อย

สาย USB Type C และหูฟัง

หม้อแปลงจ่ายไฟ 5V 2A 

 

สเปคและดีไซน์

ดีไซน์ของ Huawei Nova Plus นั้นถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ถึงแม้หน้าตาเผินๆ ด้านหลังอาจจะดูคล้ายตระกูล GR แต่ในเรื่องของงานประกอบและวัสดุนั้นดีขึ้นมาอีกขึ้น 

ขอบรอบตัวเครื่องและฝาหลังโลหะลบขอบคมขึ้นเงาสะท้อนสวยงาม

ตัวเครื่องโค้งมนดูเป็นชิ้นเดียวกัน มีหน้าจอกระจก 2.5D ครอบด้านหน้าตัวเครื่องทั้งหมด 

หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD รอยต่อระหว่างหน้าจอกับเครื่องนั้นเนียนไปกับขอบด้านข้าง เวลาใช้งานนิ้วไม่สะดุด 

เห็นสเปคแบตเตอรี่ 3340 มิลลิแอมป์แล้วตอนแรกก็คิดว่ามันจะหนัก แต่พอได้ลองถือแล้วพบว่าเบากว่าที่คิด สัดส่วนความโค้งของตัวเครื่องก็เข้ามือกำลังดี

กรอบรอบตัวเครื่องและฝาหลังเป็นโลหะ เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้กล้องนั้นทำงานได้แม่นยำรวดเร็วโดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยที่นอกจากลายนิ้วมือจะต้องตรงแล้วระบบของ Huawei ยังมีการบันทึกความลึกตื้นของลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย

ส่วนกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลนั้นนอกจากจะถูกออกแบบมาให้รับแสงได้ดีมากขึ้นในทึกสภาพแสงแล้ว ยังมาพร้อมกันสั่น OIS 3 แกน พร้อมกับระบบ PDAF และ CAF ทำงานร่วมกัน ทำให้โฟกัสได้เร็วขึ้น แถมยังนรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K เป็นรุ่นแรกๆ ของค่ายอีกด้วย

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Beauty Skin 3.0 และ Beauty Makeup 2.0 เรียกว่าออกมาพร้อมท้าชนโหมดแต่งหน้าของหลายๆ ค่าย 

ด้านสเปคของ Huawei Nova Plus นั้นมีรายละเอียดตามนี้ครับ

  • Android 6.0 Marshmallow + EMUI 4.1
  • หน้าจอ IPS 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625
  • ชิปกราฟิค Adreno 506
  • ROM 32GB (เหลือให้ใช้งานราวๆ 22GB)
  • RAM 3GB
  • รองรับ micro SD สูงสุด 128GB
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (nano SIM + nano SIM)
  • กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล OIS กันสั่น 3 แกน ระบบ Hybrid Autofocus (PDAF + CAF)
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 
  • แบตเตอรี่ 3340 mAh

 

UI และการใช้งานทั่วไป

Emotion UI 4.1 บน Huawei Nova Plus นั้นทำงานได้ลื่นไหล ไม่มีอาการค้างหรือหน่วงให้เห็น และดูเหมือนว่าทาง Huawei เองก็ได้มีการปรับ Animation ต่างๆ ของตัว EMUI ให้ตอบสนองเร็วขึ้นด้วย เลยดูเนียนตามากขึ้น

ระบบสัมผัสในการใช้งานก็ติดนิ้วดี ว่านอนสอนง่าย ลากไปทางไหนก็ตามติดนิ้วไปทางนั้น

แถบแจ้งเตือนด้านบนนั้นทาง Huawei ยึดรูปแบบการแยกออกเป็น 2 แท็บซ้ายขวามาแต่ไหนแต่ไร ใครที่คุ้นเคยอยู่แล้วก็จะชินมือ โดยแถบหลักหลังจากเราทำการลากลงมานั้นจะเป็นการแจ้งเตือนข้อความต่างๆ ส่วนอีกแท็บนั้นเป็นสวิชหรือ shortcut สำหรับเปิด/ปิด การใช้งานแบบเร็วๆ ของ WiFi, Bluetooth, Airplane Mode, ไฟฉาย และอื่นๆ 

Huawei Nova Plus นั้นยังมีแอพที่ช่วยตรวจาสอบสภาพและการทำงานของตัวเครื่องอย่าง Phone Manager ที่ช่วยกำจัดไฟล์ขยะต่างๆ ในเครื่อง, ตรวจสอบข้อมูลการใช้งาน Internet, ระบบจัดการพลังงาน เรียกว่ามีเครื่องมือช่วยในการจัดการเครื่องมาครบแล้ว ไม่ต้องลงแอพเสริมอื่นๆ

 

ฟีเจอร์ของ Huawei Nova Plus

Fingerprint ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของ Huawei Nova Plus นั้นทำงานได้เร็วและมีความแม่นยำไม่แพ้รุ่นท็อปๆ อย่างตระกูล Mate หรือ P เลยทีเดียว แถมยังมาพร้อมกับลูกเล่นในการควบคุมตัวเครื่อง ทั้งใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพ เลื่อนหน้าจอไปมา รูดลงเพื่อดูแถบแจ้งเตือน คือใช้งานได้เยอะ

Smart screenshot การใช้งานข้อนิ้่วหรือ knuckle เป็นเทคโนโลยีที่ตอนนี้มีแค่ Huawei เพียงรายเดียวที่มีและใช้งานอย่างจริงจัง ใครที่ไม่เคยลองอาจจะคิดว่ามันประหลาดๆ ทำไมต้องเอาข้อนิ้่วไปเคาะไปลากหน้าจอ

แต่ถ้าชินแล้วบอกเลยว่ามันช่วยเราได้เยอะเลยทีเดียวครับ ทั้งการเคาะหน้าจอเพื่อจับภาพหรือ screenshot นอกจากนั้นยังลากข้อนิ้วเลือกจับเฉพาะส่วนของหน้าจอได้ด้วย

 

Knuckle dual windows ลากเส้นแบ่งกลางหน้าจอเพื่อทำ multi-tasking ทำงานได้พร้อมกัน 2 แอพในคราวเดียว หรือจะดู YouTube ไป เล่น Facebook ไปพร้อมกันก็ได้

 

 

App Lock เพิ่มความปลอดภัยเป็น 2 ชั้น นอกจากจะล็อคเครื่องด้วยการสแกนลายนิ้วมือแล้ว เรายังสามารถ Lock app สำคัญหรือเป็นส่วนตัวไว้ได้อีกชั้นนึง เรียกว่าใครก็มาแอบดูไม่ได้ อิอิ

รองรับการใช้งาน 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม แน่นอนว่าตอนนี้หลายๆ คนอาจจะมีบริการอินเตอร์เน็ต ทั้ง 4G/3G จากหลายๆ เครือข่าย

ซึ่ง Huawei Nova Plus เองก็รองรับการเกาะสัญญาณทั้ง 4G และ 3G ไปพร้อมๆ กันทั้ง ซิม 1 และซิม 2 การสลับเปลี่ยนเน็ตก็สามารถทำได้ง่ายและไม่ต้องรอเวลานาน

 

กล้อง Huawei Nova Plus

ตระกูล Nova นั้นเป็นตระกูลใหม่ของ Huawei ที่ออกมาเน้นเรื่องการถ่ายภาพโดยเฉพาะทั้งในเรื่องของการเก็บแสง และระบบกันสั่น ซึ่งจากที่ได้ไปทดลองถ่ายภาพมาก็พบว่าทำได้ดีมาก ไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง Huawei P9 สักเท่าไหร่

โหมดถ่ายภาพของ Huawei Nova Plus นั้นโหมด Auto ก็ถือว่าใช้งานได้สะดวกมาก หยิบขึ้นมาก็พร้อมถ่ายได้ทันที และยังมีปุ่มลัด กดลดเสียง 2 ครั้งติดกันก็เข้าโหมดกล้องได้ในพริบตา

ส่วนใครที่ชอบถ่ายภาพในรูปแบบอื่นๆ Nova Plus เองก็มีโหมดมาให้ครบเช่นกัน Panorama, Super Night, HDR, หรือโหมดโปร ปรับตั้งค่าต่างๆ เองก็ได้

หรือจะเป็นโหมด All Focus เลือกหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะเบลอหน้าหลังชัด ก็ไม่ใช่ปัญหา

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ก็ทำได้ดีขึ้นเยอะ และมีการปรับแต่งเติมสีสันแต่งหน้าได้หลากหลายสไตล์ เรียกว่าถ้ากลัวจะหน้าสดเกินไป ก็เปิด Beauty ช่วยได้เนียนๆ ว่าแล้วก็ลองมาดูภาพบางส่วนกันเลย

ตัวอย่างภาพถ่าย Huawei Nova Plus

หรือใครอยากเห็นแบบ Full Resolution ลองไปดูได้ที่ IMGUR Huawei Nova Plus

 

วิดีโอรีวิว Review Huawei Nova Plus

Play video

 

 

สรุปการใช้งานโดยรวม

จากที่ได้ลองใช้งาน Huawei Nova Plus มาหลายวันก็ประทับใจในหลายๆ เรื่อง ทั้งน้ำหนักตัวเครื่องที่กำลังดี ระบบใช้งานได้ลื่นไหลไม่สะดุด ยังไม่เจออาการค้างหรือ restart เลยครับ การทำงานโดยรวมถือว่าสอบผ่าน ส่วนแบตเตอรี่ 3340 มิลลิแอมป์นั้นการใช้งาน 1 วันไม่ใช่ปัญหา คือตั้งแต่ลองมาคือถ้าไม่ใช้ยาวๆ หรือหนักจริงๆ เที่ยงคืนก็ไม่หมดครับ คือลากต่อไปได้สบายๆ

ส่วนที่ประทับใจเลยก็คงเป็นกล้องที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ภาพถ่ายเก็บสีได้สวย รายละเอียดของภาพดี มี contrast กว้าง และกล้องหน้าก็เกลี่ยภาพได้เนียนใส เลือกปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ

สำหรับ Huawei Nova Plus ตอนนี้ในบ้านเราก็มีวางจำหน่ายทั้งสีดำแล้วก็สีทอง โดยมีราคาอยู่ที่ 12,990 บาท ส่วนใครที่่อยากได้เครื่องราคาพิเศษตอนนี้ Truemove H ก็มีโปรส่วนลดอยู่ด้วย

  • โปรโมชั่นแรกคือส่วนลด 5,000 บาท เหลือค่าเครื่องแค่ 7,990 บาท พร้อมสมัครโปร 4G+ Super Smart 599 ขึ้นไป (สัญญา 12 เดือน ชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท) พร้อม IOT SIM ได้ Car WiFi 4G เอาไปใช้ด้วย
  • โปรโมชั่นที่สองรับส่วนลดค่าเครื่องไปเลย 50% เหลือแค่ 6,495 บาท พร้อมสมัครโปร 4G+ Super Smart 499 บาทขึ้นไป (สัญญา 12 เดือน ชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท)