หลังจากได้ลองเล่นเจ้าเคนมา 2 วันเต็มๆ วันนี้ก็ได้เวลาปล่อย รีวิว i-mobile IQ X Ken แล้วครับ ซึ่งในรอบแรกนี้ขอพูดถึงเรื่องของตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่างๆ และตัวอย่างภาพถ่ายก่อน ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเนื่องจากเจ้าเคนนั้น Made in Japan ผลิตโดย Kyocera เพราะฉะนั้นอะไรที่เคยเห็นเคยคุ้นตาใน i-mobile รุ่นก่อนๆ นั้นไม่มีให้เห็นนะครับ
นั่นก็เพราะว่าตัว ROM หรือซอฟต์แวร์ของเครื่องนั้นทาง Kyocera เป็นคน OEM มาให้ รวมถึง Hardware และทุกสิ่งอย่างนั้นขอบอกว่าดีขึ้นกว่าเดิมมาก เพื่อนๆ อาจจะได้เห็นว่ากล้องของ IQ X Ken ที่ความละเอียด 13MP นั้นถ่ายรูปได้สวยกว่า IQ X รุ่นอื่นๆ ที่โม้ว่าเป็นกล้อง 18MP ซะด้วยซ้ำ มามะมาดูกันว่ามันสมราคา 16,900 บาท หรือเปล่า
หน้าตากล่องของ IQ X Ken นั้นก็เป็นสไตล์ญี่ปุ่นเลย ใครที่เคยซื้อมือถือญี่ปุ่นมาเล่นนั้นน่าจะคุ้นตากันดี กล่องทำจากกระดาษลูกฟูก ส่วนตัวเครื่องนั้นก็ดีไซน์ญี่ปุ่นเลยครับ เพราะทาง i-mobile นั้นเลือกเอารุ่น DIGNO M ของ Kyeocera มาปั้มยี่ห้อ ในส่วนสเปคนั้นมาพร้อม
- Android 4.2 Jelly Bean
- CPU Qualcomm MSM8974 (Snapdragon 800) 2.2GHz Quad-Core
- หน้าจอ 5 นิ้ว Full HD
- กล้องความละเอียด 13MP
- กล้องหน้าความละเอียด 1.2MP
- ROM 32 GB ใส่ micro SD เพิ่มได้ถึง 64GB
- RAM 2 GB
- แบตเตอรี่ 2,600 มิลลิแอมป์
- ราคา 16,900 บาท
- ใช้ nano SIM
- ทนน้ำทนฝุ่น มาตรฐาน IP58
แกะลงไปอีกชั้นนึงก็จะเจอพวกฟิล์มกันรอย, ชุดหูฟัง, สาย micro USB, หม้อแปลง
ตัวเครืองด้านหน้าไม่มีปุ่มแล้วนะครับ ย้ายไปใช้ปุ่มบนหน้าจอตามมาตรฐานจาก Google เป็นปุ่ม back, home , recent apps 3 ปุ่มหลัก หน้าจอนั้นไม่ใช่จอฟ้าหรือจอขาวที่หลายๆ คนชอบกันนะครับ แต่เป็นจอสีเหลืองนวล ซึ่งอันนี้ทาง i-mobile บอกมาเลยว่าจอเป็นสีโทนนี้ทั้งหมด
หลายคนอาจจะตกใจ “เอ้ย! ทำไมมันไม่มีช่องลำโพงสนทนา แล้วแบบนี้จะคุยกันยังไง?” สำหรับ IQ X Ken นั้นใช้เทคโนโลยี Smart Sonic Receiver ซึ่ง Kyocera เป็นคนคิดค้นขึ้นมาครับ คือจะใช้การส่งคลื่นเสียงออกมาจากตัวเครื่องแล้วเข้าไปที่หูของเราโดยตรง ลองไปอ่านข่าวเก่าดูได้ที่ Kyocera เปิดตัว Urbano Progresso มือถือรุ่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยี Smart Sonic Receiver ไม่ต้องมีลำโพงสนทนา ส่วนรูอืนๆ นั้นก็มีทั้งกล้องหน้า (ความละเอียด 1.3MP) แล้วก็พวก light sensor, proximity sensor ประมาณนั้น
อ้อ IQ X Ken นั้นมีสีเดียวคือสีขาวนะครับ ไม่ได้มีหลายๆ สีแบบที่ทางญี่ปุ่นผลิตออกมา
ผิวด้านหน้าเป็น glossy ขาวมันงาก็จริง แต่ด้านหลังเป็นดีไซน์โค้ง สีขาวเหลือบมุก เป็นผิวมัน ไม่ใช่ผิวด้านเพราะฉะนั้นไม่มีการเก็บริ้วรอยคราบแน่ๆ แล้วก็ไม่เก็บรอยนิ้วมือด้วย กล้องหลังความละเอียด 13MP ปุ่มกลมๆ ข้างๆ กล้องคือปุ่ม power ส่วนริมด้านโน้นเป็นปุ่มปรับเสียง ส่วนสามจุดสีทองด้านล่างที่เห็นนั่นคือจุดที่ใช้เชื่อม่อกับ docking ซึ่งจะชาร์จแบตได้ไวขึ้น i-mobile ไม่นำเข้ามาจำหน่ายนะครับ
เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมาชาร์จกับ micro USB ตามปกติ อันนี้หลายคนสงสัยว่าทำไมไม่มีจุกอุดหรือปิดช่อง micro USB ถ้ามันลงน้ำจุ๋มไปแล้วจะไม่เสียเหรอ ทาง i-mobile บอกว่าไม่เสียครับ เพราะมีการออกแบบมาอย่างดี ปัองกันน้ำได้เหมือนกับช่องหูฟัง 3.5 มม เลย ส่วนที่ต้องปิดเอาไว้ก็มีแต่ช่องใส่ nano SIM และช่อง micro SD เท่านั้น
ตอนเปิดกล่องมาครั้งแรก ผมก็เห็นว่าทำไมต้องมีแท่งพลาสติกเล็กๆ แถมมาด้วย เอาไว้ทำอะไรหนอ พอแกะช่องใส่ซิมแล้วถึงได้รู้ว่ามันเอาไว้เกี่ยวถาด nano SIM ออกมานั่นเอง จริงๆ ผมเอาเล็บเข้าไปเกี่ยวออกมามันก็พอได้นะ แต่มีไอ้แท่งนี่ก็สะดวกและถนัดกว่าเดิมเยอะ
เปิดเครื่องมาปั้บ โอ้ว นี่มันไม่ใช่ i-mobile ที่เคยรู้จัก! อย่างที่บอกครับว่า ROM IQ X Ken นั้นเป็นของ Kyocera เพราะฉะนั้นมันจะมาแบบญี่ปุ่นจ๋าสุดๆ หน้าจอ lock screen จะไปแตะตรงไหนของจอก็ได้ แล้วเลื่อนนิ้วไปตามลูกศร เลื่อนขึ้นปลดล็อก เลื่อนซ้ายเข้าโหมดการโทร เลื่อนลงเข้ากล้อง
ส่วนของ App Drawer นั้นจะมีตัวแบ่งหมวดหมู่ทางด้านขวามาด้วย พอไปแตะแล้วก็จะมีการกรองแอพให้เราเปิดหาได้ง่ายๆ แต่พอมีแถบนี้เข้ามาตัวแอพก็จะโดนบีบให้กระจุกอยู่ทางด้านซ้ายนิดนึง
IQ X Ken มาพร้อม Android 4.2 Jelly Bean แล้วจะได้อัพมั้ย อย่างที่บอกครับว่าขึ้นอยู่กะทาง i-mobile นั่นแหละ
แต่ถ้าถามประสบการณ์ตรงของผมเนี่ย มือถือฝั่งญี่ปุ่นปกติเค้าจะออกอัพเดทให้เรื่อยๆ นะครับ แต่จะช้าหน่อยถ้าเทียบกับการอัพเดทปกติจากค่าย Inter brand รายอื่นๆ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าทาง i-mobile ได้มีการคุยเรื่องนี้ไว้หรือเปล่า
Features : ลูกเล่นต่างๆ ของ IQ X Ken
คราวนี้มาดูลูกเล่นของ IQ X Ken กันบ้าง อันนี้เรียกว่า TonTo-On เป็นศัพท์จากทางญี่ปุ่น ฟังก์ชั่นเคาะแล้วจอติดนั่นแหละ แต่จะแปลกตรงที่การเคาะครั้งที่ 2 นั้นต้องแตะจอค้างเอาไว้ หน้าจอมันถึงจะติดขึ้นมา
นอกจากนั้นในเครื่องยังมี Pedometer หรืออุปกรณ์นับก้าวเดินติดมาด้วย ซึ่งเราก็ต้องเข้าไปตั้งค่าให้เสร็จก่อนถึงจะเปิดใช้งานได้ ส่วนที่เห็นด้านล่างนั่นคือ E-Saving Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานนั่นเอง
ลองมาดู E-Saving Mode กันก่อน อันนี้เราก็สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้โหมดประหยัดพลังงานเริ่มทำงานช่วงไหน อาจจะเปิดใช้งานเลยก็ได้ หรือให้มันเริ่มทำงานเองเมื่อแบตลดลงไปเหลือ 20-30% ก็ได้ซึ่งหลักการทำงานของโหมดนีก็จะมีการปรับลดความสว่างหน้าจอ ตัดการเชื่อมต่อเน็ตในตอนที่หน้าจอดับ และปิดการทำงานบางอย่างลงไปเพื่อให้มือถือของเราสามารถ standby ได้นานขึ้นนั่นเอง
ต่อมาคือตัว Pedometer ที่เอาไว้ใช้นับก้าวเดินของเราในแต่ละวัน แล้วก็จะมีการเอามาคำนวนเป็นแคลอรี่ที่เราได้เผาผลาญไปเรียกว่ามาตอบโจทย์เทรนด์เรื่องสุขภาพ โดยก่อนจะใช้งานเราต้องไปกำหนดเพศ อายุ ส่วนสุง น้ำหนักให้เรียบร้อยซะก่อน
โดยจะมีการเก็บสถิติให้ดูแบบละเอียดเป็นรายวันเลยทีเดียว ทั้งยังามารถจำแนกได้ว่าเราเดินหรือวิ่งไปเป็นระยะทางเท่าไหร่
ส่วนนี่เป็นโหมดเสริมของการสนทนาครับ บางทีเราคุยกับปลายสายแล้วฟังไม่ค่อยได้ยินก็สามารปรับ Heard effect ตัดเสียงรบกวนจากปลายสายออก ให้เหลือแต่เสียงพูดก็ได้ หรือปรับให้เสียงนุ่มลงหากบางทีเค้าตะโกนมาเสียงดัง นอกจากนั้นยังมี slow down ที่ช่วยยืดเสียงที่ปลายสายพูดมาเร็วจนเราฟังไม่รู้เรื่องให้ช้าลงได้ด้วย เออแปลกๆ ดี เหมือนกัน เท่าที่ลองมันก็ช้าลงนะครับ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่
Camera : โหมดกล้องของ IQ X Ken
อย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นครับ แฟนๆ i-mobile เปิดมาเจอกล้องของเคนอาจจะเกิดอาการงงเล็กน้อย เพราะหน้าตามันดูดีขึ้นมาก มีโหมดต่างๆ ให้เลือกเพียบ แุถมภาพในจอก็ดูดีสีสวยอีกต่างหาก
นั่นเป็นเพราะซอฟต์แวร์ที่ทาง Kyocera พัฒนาขึ้นมาใช้กับกับกล้องนั้นดีกว่าของ MTK เป็นไหนๆ แถมตัวเซนเซอร์กล้อง 13MP ที่ใช้ก็คุณภาพดีกว่ากล้อง 18MP ที่ i-mobile เคยใช้ในรุ่น IQ X ก่อนหน้านี้มากมาย
โหมดกล้องดูฉลาดมากขึ้น มีการปรับซีนให้อัตโนมัติ เช่นถ้าเราถ่่ายภาพวิว มันก็จะโชว์สัญลักษณ์ต้นไม้ว่าเป็น Lanscape ถ่ายมาโครระยะใกล้ ก็โชว์รูปดอกไม้ รวมถึงมีโหมด effect สีต่างๆ และสามารถถ่ายวิดีโอแบบ slow-motion ได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก IQ X Ken
ในส่วนของภาพขนาดเต็มเดี๋ยวผมจะคัดเอาบางส่วนไปอัพไว้ แล้วจะมาแปะ link ให้ไปดูกันอีกทีนะครับ
สรุปทิ้งท้ายรีวิว
ต้องบอกเลยว่างานประกอบ วัสดุ และฮาร์ดแวร์ที่ OEM มาจากญีุ่ปุ่นนั้นฉีกความเป็น i-mobile เดิมๆ ที่เราคุ้นกันมากมาย ตัวซอฟต์แวร์ไหลลื่นอย่างไม่เคยรู้สึกกับ i-mobile มาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ขนาด OCTO 8 หัวยังมีอาการสะอึกสะดุดให้เห็นบ้าง แต่เจ้า Ken เท่าที่เล่นมายังไม่เจอ ทัชสกรีนตอบสนองได้ดีไม่มีติดขัด เอาเป็นว่าถ้าถือไปให้ใครลองเล่นคงไม่เชื่อว่ามันคือ i-mobile แน่ๆ
เรื่องดีไซน์และหน้าตาของตัวเครื่องนั้นผมคงจะไม่ไปวิจารณ์มากนัก มันอยู่ที่ใครจะชอบสไตล์ไหนมากกว่า เพราะปกติมือถือญี่ปุ่นหน้าตามันก็แปลกๆ อยู่แล้วเหมือนจะล้ำ หรือบางทีก็เหมือนจะประหลาดๆ แล้วแต่คนมองครับ ส่วนตัวผมว่ามันถือกระชับมือดี
เรื่องราคา 16,900 บาท ผมว่ามีกลุ่มคนที่พร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว กับมือถือสเปคดีๆ Snapdragon 800, รองรับ 4G, ROM 32GB, ใส่เมมเพิ่มได้, แถมยังกันน้ำกันฝุ่นอีกต่างหาก แต่ปัญหาจะเกิดก็ไอ้ตอนที่เห็นว่ายี่ห้อเป็น i-mobile อาจมีการชักเงินกลับแบบเร็วที่สุดชีวิตหนะสิ
นั่นคือโจทย์ที่ i-mobile ต้องพยายามแก้ให้ได้ หากคิดจะขยับขึ้นมาขายสมาร์ทโฟนในตลาดพรีเมี่ยมครับ ทั้งเรื่องภาพลักษณ์ของตัวแบรนด์ และเรื่องของบริการหลังการขาย
ส่วนตัวไม่ชอบกับปุ่มด้านหลัง ดูรกและเกะกะจนเกินไป ขอดู iQ X slim ดีกว่า
ปล. กล้องสวย
ฮาร์ดแวร์อลังการมาก กล้องใช้ได้/กันน้ำได้แบบไม่ต้องปิด USB/Knock on/มีเพ้ดโด้มิเตอร์ด้วย ขนาดว่าถ้าแปะยี่ห้อ Inter brand รู้สึกว่าถูกไป พอแปะ I-mobile ก็รู้สึกว่าแพงไป รอราคาลงสัก 2000 คงดูคุ้มดี
ลำบาก4.2 ยาวๆกับราคานี้
Kyocera : DIGNO M นี่ราคาในญี่ปุ่นมันแพงมั้ย , ท่านใดพอจะมีข้อมูลราคาของ DIGNO M บ้างครับ
ราคาถูกกว่ามากครับ…แต่ติดสัญญาทาส ~3 ปี
ผมว่า I-mobile น่าจะสร้าง Spin-off จากแบรนด์ I-mobile นะ
จะได้สร้างภาพพจน์ความพรีเมี่ยม :3
เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยอีกเสียง เอาแบบใช้ชื่อดูอินเตอร์หน่อย เปิดศูนย์แยกจากของเดิม น่าจะขายได้ไม่ยาก
E mobile เข้าใจตรงกันนะ
เกือบๆละครับ ถ้าไม่ติดว่าได้อ่านวิสัยทัศน์และการตอบคำถามของผู้บริหารมาก่อนหน้านี้ -_- !!
น่าจะมีหลายๆสี
เพิ่งซื้อ X Octo มาลองตะกี๊เอง 5555
เจอ snap 800 อีกละ กำ 555
เครื่องดูหนาๆสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ – -b
App Drawer แบ่งเป็นหมวดๆเองหรือเราต้องมาแบ่งครับ (ติดใจ Feel UX ของ Sharp มาก 🙂 )
ดูดีทีเดียวครับ คิดว่าคงมีคนให้โอกาส imobile เยอะอยู่นะ
ชอบไม่มีลำโพงด้านหน้ากับกล้อง
ร้านอวกาศ
IQ Ken 14,970 บาท
โอ้วว ชักน่าสน สู้ต่อไปนะ i-mobile
ชอบกล้องสีสวยจริงๆ
ผมไม่ติดใจเรื่องใดมากไปกว่า งานนี้ซื้อมาขายไป หรือผูกสมัครรักใคร่กับ kyocera (ห่วงบริการหลังการขายนี่แหละ )
เอิ่ม ช่อง usb ไม่มีฝาปิด แล้ววันนึงเกิดลูกหลานเอาไปจุ่มน้ำเล่น (ลองของ) แล้วเราเผลอลืมเสียบสายชาร์จเพราะว่าแบตจะหมด (ลืมรอให้น้ำแห้ง) หยดน้ำที่คาอยู่ในร่องในรู มันไม่ชอตเอารึ ?ทำไมไม่ทำแบบ sony หรือรุ่นอื่นที่มีฝาปิดเนอะ หรือเทคโนโลยีก้าวล้ำไปแล้ว คริๆ
มือถือญี่ปุ่นหลายๆรุ่นก็เริ่มไม่มีจุกปิด usb แล้วครับ
ผมว่าแบบนี้ดีกว่านะ เพราะรู usb เป็นรูที่ใช้บ่อย (ตอนชาร์ต) ถ้าเป็นจุกปิด เปิด/ปิดบ่อยๆมันก็เสื่อมไว พอตกน้ำทีก็จบเลย
ผมว่าแบบนี้อะดีแล้ว อย่าง Z mี่ผมใช้มีจุดปิดรำคาญจะตาย แถบทำให้จุกเสื่อมเร็วด้วย หากเกอดกรณีที่คุณกล่าวหากตัวเครื่องและสายดาด้าที่คุณจับไม่เปียกน้ำก็ไม่ซ็อตหรอก
บริการหลังการขายไม่ดี นอกจากให้ฟรีก็ไม่น่าสนใจนะครับ
น้ำตาจะไหล นี่ i-Mobile ใช่มั้ยย
น่าใช้มากกก ถ้าราคาไม่แรงผมคงจะซื้อลองสักตัว(ตัวอื่นที่ผ่านมาขอผ่าน)
และติดคำว่า เคยใช้รุ่นก่อนๆ มันไม่ค่อยได้คุณภาพเท่าไร
ตำแหน่งของส่วนต่างของกล้องและปุ่มพาวเวอร์ มันทะแม่งๆ ไงก็ไม่รู้อ่า มันไม่อารตเลย แต่ว่าคุณสมบัติของเครื่อง ดูแข็งแรงดีนะ แต่ก็นะ บริการหลังการขาย คนขายบอกมาแบบนั้นแล้ว คงไม่น่าเสี่ยงมาซื้อ เพราะมันแพง เกินกว่าจะยอมเสี่ยง
ตอนไปจับตัวจริง ดีทุกอย่างแต่ไม่มีไมค์ตัวที่2 ที่ใช้ตัดเสียง = =
รอเหลือ 9,900 คงได้เจอกัน 555
คิดเหมือนกันเลยว่า น่าลองนะแบรนด์ไทย คนไทยรออุดหนุนอยู่แล้ว เหลือแค่คุณภาพ กับสะดุดคำสัมภาษณ์ผู้บริหารเนี่ยแหละ
ตัวนี้เครื่อง ญี่ปุ่น ดีไม่ดีอาจจะทนกว่าพวก samsung ด้วยซ่้ำนะครับ
ไปๆมาๆ ถ้าลดราคาลงเหลือซัก 13900 แล้วโปรโมทว่า OEM มาจากญี่ปุ่นนี่ก็พอขายไหวนะครับ ของญี่ปุ่นผมว่ายังไงก็ QC ดีกว่าของจีนแบบไอโมบายรุ่นอื่นๆเยอะแน่นอนและปัญหาก็น่าจะน้อยกว่ามากๆด้วย แต่ 16900 นี่ยืนยันว่ายังไงก็ขายยากมากครับ แปปเดียวเดี๋ยวเห็นราคาลงแน่นอน
ไม่มี 2 SIM…
แล้วเสียงสนธนาจากลำโพงล่องหนแบบนี้ทดสอบแล้วเป็นไงบ้างครับ
ชันเจนดีรึเปล่า แล้วเวลาอยู่ในที่เสียงดังๆนี่ยังสามารถได้ยินปลายสายได้ชัดเจนดีจริงจริงรึเปล่าครับ
จากการที่ไปอ่านบทความเก่าเรื่องนี้เค้าบอกว่าขนากใส่หูฟังแบบครอบหูที่สามารถตัดเสียงรบกวนยังได้ยินเลยคับ เพราะมันส่งความถี่เสียงตรงเเก้วหูโดยตรง ลองไปอ่านเพิ่มเติมดูที่พี่ภัทรแปะลิ้งไว้ก็ได้คับ ^^
อ่านแล้วครับกระทู้เก่า
แต่อยากรู้ถึงประสพการณ์การใช้งานจริงครับ
ดูจากรูปแล้ว หนาๆ แบบนี้ท่าทางจะ แอบหนักอยู่นะ.
สวยคับโอเคในระดับนึงติดตรงที่กลัวแถมแพลำใหญ่
จะหาเคสที่ไหนมาใส่ รบกวนรีวิวรูปถ่ายตอนกลงคืน ที่แสงน้อย และจากกล้องหน้าด้วครับ
กรรมๆ จุก Sim นึกว่าwalkman -_-
ถ้าราคานี้ สเปกนี้
Inter Brand รีบควักตังจ่ายไวๆ
Local Brand ของ ตปท อืม น่าซื้อนะ
House Brand แพงไปนะ
มันอยู่ที่ความน่าเชื่อถือและความดังของ Brand ล้วนๆ
ใครจะซื้อรุ่นนี้ตรวจดูดีๆก่อนจ่ายตังนะครับ qc ห่วยมาก
ผมซื้อเมื่อวาน มองผ่านๆภายนอกเหมือนไม่มีอะไร
ปรากฏว่า ขอบจอ มีช่องห่าง ด้านบนขวากับล่างซ้าย เหมือนประกอบจอเบี้ยว
วันนี้เลยพาไปเข้าศูนย์ พนักงานที่ศูนย์เปลี่ยนเครื่องให้
เอามาให้เลือกเกือบสิบเครื่อง มีแค่ สองเครื่อง ที่ไม่เบี้ยว
Made in japan จริงหรือเปล่าชักสงสัย
ถ้าจำผิดขออภัย
kyocera ทำสินค้าไม่ใช่เกรดสูงๆแบบพวก sharp , sony, panasonic
ตอนผมเคยอยู่ที่เมืองนอก สินค้าอิเล็คโทรนิค ยี่ห้อ kyocera จะเป็นพวก คุณภาพรองลงมา แต่นั่นก็ เกือบสิบปีมาแล้ว
ตอนนี้เขาอาจพัฒนาแล้วก็ได้
เวลา 10ปี อะไร อะไร ก็เปลี่ยนไปได้นิ ผมบนหัวผมยัง เกือบหมดหัวเลย อิอิ
เท่าที่รู้ที่ Office มีเครืองถ่านเอกสาร Ricoh กับ Kyocera คนที่ใช่บ่นว่า Kyocera ใช่ยาก
แล้วมันก็ไม่ค่อยฉลาดเท่าไร สั่งพิมพ์ไปแล้วต้องไปกดให้นมันพิมหน้าเครื่องอีก T_T
ของผมก็เป็นนะครับ แต่มันก็กันน้ำได้นะ คิดว่าเป็นที่ Design มากกว่า
ถ้า i-mobile จ้างเค้าทำนะ ไม่ว่าจะจีนหรือ ญี่ปุ่น
ถ้าเป็นรุ่นสูงๆระดับหมื่นนะ ผมว่า น่าจะอัพ รุ่น OS ให้ด้วยนะ ยิ่ง ซีพียู snapdragon 800 นี่ยิ่งมีโอกาสใหญ่ ขอแค่อย่าให้ kyocera ล๊อคเครื่องเป็นพอ. ให้คนไทยทำ custom rom โดยเอาของ cyanogen มาแปลง เข้ากับเครื่อง X Ken
ว่าแต่มันต้องใช้ source code สำหรับ compile kernel ด้วยรึเปล่านะ!
เห็นว่าอัพเป็น Kitkat ต้อง ใช้ source code ด้วย จึงจะทำได้ ไม่สามารถ port kernel ตรงๆจากยี่ห้อหนึ่งไปอีกยี่ห้อหนึ่งได้ ต่อให้เป็น ซีพียูรุ่นเดียวกัน.
ถึงทำได้ก็เห็นว่ายาก อันนี้ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แล้ว kyocera จะยอมให้ source code สำหรับเครื่อง X Ken กับทาง i-mobile หรือไม่ อันนี้ผมว่าคงไม่ให้ฟรีๆ แหง ต้องต้อง ซื้อเอา ถึงจะให้ทาง i-mobile เค้า อัพข้ามเวอร์ชันให้ได้.
แต่ก็ยังพอมีหนทางนี่นะ ถ้าเปิดมาราคาแพงขนาดนี้ ก็ขอหรือซื้อ source code ของเครื่อง X Ken มา อัพรอมเองเรย.
ถ้ามันอัพ version ได้เรื่อยๆ สัก 2-3 รุ่นจากนี้นะ ผมว่า IQ X Ken ขายดีแน่ อย่าแค่รอความหวัง จากทาง Kyocera เลย
i-mobile ใจกล้าๆ ลองขอหรือซื้อ kernel source code มาพัฒนา Kit Kat โดย ใช้ cyanogen 11 เองเลยดีกว่า
ไม่ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ.
สั่งซื้อวันนี้ แถมฟรีแพ !!
เอ่อ เจ้าอื่นที่ออกตอนนี้มาเป็น kitkat หมด
แต่ imobile ออกมาเป็น jelly bean แถมผู้บริหาร
ประกาศชัดเจน ว่าไม่รู้จะได้อัพ แม้แต่แค่ kitkat รึเปล่า
ต้องไปลุ้นที่บริษัทเคียวซิล่าเอาเอง สุดยอดไปเลย
ไปลองมาแล้ว น่าใช่พอตัวเลยล่ะ
อยู่ๆก็สงสัย
ว่าเอาภาพ Ken มาใช้ เค้าขออนุญาติ capcom แล้วหรือยัง??
น่าพัดแกเอามาขึ้นหน้าจอเองนิครับ ไม่เกี่ยวกะอายโมะบัย
สเปกดีราคาดี แถม made in Japan แถมยั่งมีSmart Sonic Receiver อีกติดที่หน้าตาไม่ค่อยสวย กะ แปะยี้ห้อ imobile ท่ามไม่ฟร่ะ แปะ Kyocera ยั่งรู้สึกดีกกว่าอีก
ราคานี้ รอดยาก แถมต่างๆอีกหลานอย่าง แพ ผู้บริหารออกมาโชว์ทิศทาง ศูนย์บริการ
คนที่ซื้อมาใช้ รอล่องแพกันนะครัช
สเปคเทพแต่มากับ 4.2 แล้วคิดว่าไอโมบายเข้าจะต่อยอดให้ไปถึง 4.4 หรือเปล่าก็ต้องดูกัน เดี่ยวอีกสักเดือนเดือนกว่าๆก็มีรุ่นใหม่คลอดออกมาเป็นหางว่าว อาจจะเทพกว่านี้หรือกลางๆก็ดูกันว่าจริงไหม OCTO พึ่งคลอดไปยังไม่ถึงสองเดือนมั่ง X Ken มาเกทับละ แล้วคิดว่าไอโมบายเขาจะต่อยอดรอมให้ได้ใช้กันไหมละ ถึงจะ OEM มาจากญี่ปุ่นแท้ๆก็เถอะ ถ้าไอโมบายไม่อยากต่อเขาก็ไม่ทำ สู้เปิดตัวขายตัวใหม่ๆสบายใจดีกว่า แบรนนี้เป็นแบบนี้จริงๆ เหอะๆๆ
จากผู้ใช้จริงใช้มาทั้ง 5.1 และ X3 ขายทิ้งไปหมดละเข็ดกับแบรนนี้จริง Bye Bye
ราคาขนาดนี้
ผมซื้อ note3 4g LTE
imported
จาก web ของ lazada ดีกว่าครับ
เดือนที่แล้ว จัด Pro มา 17,990
ประกัน 2 ปี
เอ๋อ รู้สึกว่า pro ยังอยู่ด้วยแฮะ
http://www.lazada.co.th/imported-samsung-galaxy-note-3-lte-32gb-n9005-mobile-phone-unlocked-white-162621.html?wt_pc=th.PriceComparison.Priceza.Priceza.imported+samsung+galaxy+note+3+lte+32gb+n9005+mobile+phone+unlocked+white.&utm_source=Priceza&utm_medium=PriceComparison&utm_campaign=Priceza&utm_content=imported+samsung+galaxy+note+3+lte+32gb+n9005+mobile+phone+unlocked+white
เปลี่ยนฟอนต์iq6.3ยังไงครับ ช่วยตอบที
Snap 800 ถึงไม่ใช่Geek ที่ชอบอัพเดท ก็คงบ่นถ้าไม่ได้ไปต่อ
ราคานี้ผมเลือก z1 compact แม้ประกันจะห่วยพอกัน แต่ก็มั่นใจคุณภาพโซนี่มากกว่า และแน่นอนว่า sony อัพเดตให้ค่อนข้างไวมาก custom rom ก็เพียบ ราคาก็ไม่หนีกัน
เชื่อว่าไม่นานเค้าต้องลงราคาแน่ เพราะ oppo find7a ราคาถูกกว่าสเปคจัดเต็มกว่าเยอะ ภาพลักษณ์แบรนก็ดูดีกว่า งานนี้จะกลายเป็นสงคราม localbrand เมื่องไทยกับเมืองจีน
พึ่งไปถอยมาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาครับ…อารมย์ประมาณว่า NEXUS 5(ที่ไม่ได้อัพเดต) แต่เป็นโมเดล 32GB ครับนี่ถ้านำแท่นชาร์ตมาขายด้วยนี่แจ่มเลย //ภาพถ่ายโดยใช้ Xperia L