ใครที่คุ้นเคยกับแบรนด์ Infinix น่าจะรู้กันดีว่าเค้าเน้นมือถือเกมมิ่งราคาเป็นมิตรที่มีสเปครวม ๆ อยู่ในระดับเริ่มต้นแต่ยังสามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้แบบไม่มีปัญหา และล่าสุดกับ Infinix note 30 VIP บอกเลยว่าเป็นมือถือเกมมิ่งที่จัดสเปคมาให้แน่นกว่าที่ผ่าน ๆ มา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรทสูง, สเปคแรงลื่น, ลำโพงคู่ JBL, ชาร์จไว 68W รองรับชาร์จไร้สาย แถมรองรับ 5G อีกต่างหาก…ทั้งหมดนี้จัดมาให้ในราคาแค่ 10,999 บาทเท่านั้นเอง
ของแถมอย่างครบ
ก่อนจะไปดูตัวเครื่อง ขออวดของแถมในกล่องกันก่อนเลยว่าให้มาแบบไม่หวงจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเคสใส, กระจกกันรอย (เน้นว่ากระจกนะ ไม่ใช่แค่ฟิล์ม), สายชาร์จ, หัวชาร์จ 68W และยังให้แท่นชาร์จไร้สาย 15W มาอีกต่างหาก…คือจะใจป้ำไปถึงไหน ให้มาแบบไม่ต้องไปซื้ออะไรมาเพิ่มอีกแล้ว
แถมมาครบซะขนาดนี้ แล้วจะไปซื้ออะไรมาเพิ่มได้ล่ะเนี่ย…
ดีไซน์ตัวเครื่อง
Infinix note 30 VIP มีตัวเครื่องที่มาในสไตล์ออกเหลี่ยม ๆ แต่มุมเครื่องโค้งมน ทั้งขอบเครื่องและฝาหลังเครื่องมีพื้นผิวแบบเงาวิบวับ ซึ่งจะติดรอยนิ้วมือง่ายมาก ๆ แต่ก็แก้ได้ด้วยการใส่เคสเอา โมดูลกล้องหลังเป็นสี่เหลี่ยมขนาดค่อนข้างใหญ่ กินเนื้อที่ด้านข้างมาเกินครึ่งซะอีก…ส่วนบนโมดูลก็มีกล้องอยู่ทั้งหมด 3 ตัว และแฟลชอีก 1 ตัว
หน้าจอ
หน้าจอของ Infinix note 30 VIP ใช้พาเนลแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ช่วยเพิ่มความไหลลื่นให้กับการไถฟีด หรือเข้าเว็บต่าง ๆ โดยสามารถเลือกปรับได้ทั้ง 60Hz / 90Hz / 120Hz และออโต้
หน้าจอดีไซน์แบนราบจับเล่นถนัดมือ และเจาะรูกล้องเซลฟี่ด้านบน ไม่เกะกะสายตาเวลาเล่นด้วย แถมยังมีเซนเซอร์สแกนนิ้วฝังไว้ใต้จอด้วยนะ ส่วนใครที่เป็นสายหนัง สายซีรีส์ ก็หายห่วงเลย เพราะรองรับ Widevine L1 ดูหนังจาก Netflix ที่ความคมชัดระดับ HD ได้
ลำโพงคู่ JBL
นอกจากจอภาพจะเด็ดดวงแล้ว ระบบเสียงก็ไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ เพราะได้ลำโพงสเตอรีโอที่ปรับแต่งโดย JBL แถมยังมากับระบบเสียง DTS Sound ให้เลือกเปิดเพิ่มความตึ้บได้อีกต่าง สามารถปรับได้ว่าจะใช้ระบบเสียงที่เน้นการฟังเพลง ดูวิดีโอ เล่นเกม หรือแบบ Smart ที่จะเลือกปรับระบบเสียงให้ตามการใช้งาน นอกจากนี้ ใครที่ยังใช้หูฟังแบบมีสายอยู่ Inifnix note 30 VIP ก็มีรูหูฟัง 3.5 มม. ให้มาด้วยนะ
สเปคแรง เล่นเกมลื่น
สเปค INFINIX NOTE 30 VIP
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Dimensity 8050
- RAM : 12GB รองรับ MemFusion รวมสูงสุด 21GB
- ความจุ : 256GB รองรับ microSD Card
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 108MP
– กล้อง Depth 2MP
– กล้อง AI QVGA - กล้องหน้า : 32MP
- การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 5, BT 5.1, NFC, USB-C 2.0
- เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), G-sensor / E-compass/ L-sensor /Proximity sensor / soft-gyroscope
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอริโอ จูนเสียงโดย JBL, DTS Sound, รูหูฟัง 3.5 มม.
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP53
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 68W / ไร้สาย 50W / Bypass Charging
- ระบบ: Android 13 ครอบด้วย XOS 13
- ขนาด / น้ำหนัก : 162.7 x 75.9 x 8.2 มม. / 190 กรัม
- สีที่วางจำหน่าย : สีขาว Glacier White, สีดำ Magic Black
Inifinix note 30 VIP มากับชิป Dimensity 8050 ที่แรงพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Snapdragon 870 แต่จัดการเรื่องพลังงานได้ดีกว่า และมากับ RAM ถึง 12GB พร้อมเทคโนโลยี MemFusion เติมได้อีก 9GB รวมเป็น 21GB จะใช้งานอะไรก็ลื่นปื๊ด สลับแอปไปมาได้รวดเร็วทันใจ และแน่นอนว่าเอามาเล่นเกมก็หายห่วง ส่วนความจุก็ให้มาเยอะจุใจที่ 256GB รองรับ microSD Card พร้อมระบบ Android 13 ด้วย
ทดสอบด้วยเกมพื้นฐานอย่าง ROV ปรับกราฟิกสูงสุดได้เลย และเฟรมเรทก็อยู่ระหว่าง 59-61fps ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลย
PUBG ค่ากราฟิกแบบ Default ตั้งไว้ให้ที่ระดับ High อยู่แล้ว ก็เล่นได้แบบลื่น ๆ เหมือนกันครับ
ต่อด้วยเกมกราฟิกจัดจ้าน Genshin Impact ค่า Default ตั้งไว้ที่ระดับกลาง แต่สามารถปรับเฟรมเรทขึ้นไปได้อีกที่ 60fps อาจมีกระตุกบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ เวลาเจอศัตรูเป็นฝูง แต่โดยรวมถือว่าเล่นได้ลื่นเลย ส่วนเรื่องความร้อนอันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเล่นไปได้ประมาณ 15-20 นาที ความร้อนเริ่มทะลุเคสมาถึงมือให้อุ่น ๆ แล้ว
อีกเกมคือ Hongkai Star rail ก็ปรับกราฟิกได้ระดับ High เหมือนกัน เล่นได้ลื่น ไม่เจออาการกระตุกอะไรให้หงุดหงิดเลย และสำหรับการเล่นเกมทั้งหมด ไม่พบปัญหาหน้าจอใด ๆ ไม่มีทัชเพี้ยนทัชหลอน หน้าจอสัมผัสมีความแม่นยำดี
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จ
แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ใช้งานทั่วไปได้แบบเหลือ ๆ ทั้งวัน ลองจับเวลาตอนเล่น PUBG ประมาณ 45 นาที แบตหายไปราว ๆ 15% เท่านั้นเอง ทดสอบแบบจัดเต็ม ดู YouTube ความละเอียด 1080p ความสว่าง + ระดับเสียง 60% เชื่อมต่อผ่าน WiFi ทิ้งไว้ 8 ชม. ยังเหลือแบตเตอรี่อีกตั้ง 54% ใช้ได้อีกยาว ๆ เหลือเฟือ
ระบบชาร์จของมือถือรุ่นนี้ก็เรียกว่าจัดเต็มแบบที่มือถือในราคาระดับเดียวกันไม่กล้าให้ เพราะมาทั้งระบบชาร์จไวมีสาย 68W (PD 3.0) ที่ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในเวลาไม่ถึง ชม. และยังรองรับระบบชาร์จไร้สายสูงสุดถึง 50W อีกต่างหาก แต่แท่นชาร์จไร้สายที่แถมมาเป็น 15W นะครับ
Bypass Charging เสียบสายจ่ายไฟเข้าเครื่องโดยตรง ไม่ผ่านแบต
นอกจากนี้ Infinix note 30 VIP ยังมากับฟีเจอร์สุดเด็ดเอาใจสายเกม ด้วย Bypass Charging ที่สามารถเสียบสายชาร์จเล่นได้โดยที่เครื่องไม่ร้อน และยังเป็นการถนอมแบตเตอรี่ด้วย เพราะระบบนี้จะจ่ายไฟจากหัวชาร์จเข้าไปที่เครื่องโดยตรงแบบไม่ผ่านแบตเตอรี่นั่นเองครับ
ลาก Game Assistant Panel จากแถบขวาของจอ แล้วเปิด Bypass Charging ระหว่างเสียบสายได้
กล้องหลัง 108MP ถ่าย 4K
กล้องหลังของ Infinix note 30 VIP มีทั้งหมด 3 ตัว คือกล้องหลัก 108MP กล้องจับความลึก และกล้อง AI
ถ่ายโหมด Bokeh หน้าชัดหลังเบลอก็ตัดขอบได้เนียน ๆ พอใช้ได้อยู่นะ ร่องแขนร่องขาแยกจากฉากหลังได้แบบคมกริ๊บ
สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ระดับ 4K 30fps มีระบบกันสั่นดิจิทัลสำหรับการถ่ายวิดีโอ 1080p 30fps เพิ่มความนิ่งความเนียนได้แบบไม่ต้องใช้ไม้กันสั่นเพิ่ม
มีโหมด Film ให้เลือกเล่นหลายแบบ โดยโหมดนี้จะให้เราถ่ายวิดีโอตามปกตินี่แหละ แต่พอบันทึกแล้วมันจะเอาไปตัดต่อเองพร้อมกับเพิ่มเอฟเฟ็คท์ต่าง ๆ เข้ามาให้เหมาะกับรูปแบบคลิปที่เราเลือกไว้
ส่วนกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP สามารถถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้สูงสุดที่ระดับ 2K 30fps ถ้าหากอยากได้แบบนิ่ง ๆ ต้องถ่ายระดับ 1080p 30fps
สรุป
ข้อดี
- จอ AMOLED สีสวยสดใสสู้แดด รีเฟรชเรทสูง 120Hz
- สเปคแรงเล่นเกมสบายทุกเกม ใช้งานทั่วไปได้อีกยาว ๆ
- ความจุเยอะ แถมเพิ่ม microSD ได้
- ลำโพงคู่ JBL เสียงดัง เสียงดี
- มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- ดู Netflix HD ได้
- รองรับ 5G
- กล้องหลังประสิทธิภาพอยู่ในระดับดีสำหรับมือถือราคาระดับนี้
- ถ่ายวิดีโอ 4K 30fps
- โหมดกันสั่นเวลาถ่ายวิดีโอ FHD 30fps นิ่งพอใช้ได้
- กล้องหน้าถ่ายวิดีโอ 2K 30fps ได้
- กล้องหน้ามีกันสั่น EIS ถ่ายวิดีโอ FHD 30fps
- แบตเตอรี่อึดดี
- ระบบชาร์จไว 68W
- ระบบชาร์จไร้สาย 50W
- แถมหัวชาร์จ 68W และแท่นชาร์จไร้สาย 15W มาในกล่องเลย
- มีระบบ Bypass Charging จ่ายไฟตรงเข้าเครื่อง ไม่ผ่านแบตเตอรี่
- ในกล่องแถมกระจกกันรอยและเคสใสมาด้วย
- ทนน้ำทนฝุ่น IP53
- ราคาดี
ข้อสังเกต
- ไม่มีกล้อง Ultrawide
- โหมดกันสั่นใช้ได้เฉพาะตอนถ่าย 1080p 30fps
- กระจกกันรอยที่แถมมาในกล่อง ต้องติดเอง
- อาจไม่ได้อัปเกรด Android ข้ามเวอร์ชั่น
บอกเลยว่า Infinix note 30 VIP เป็นมือถือราคาหมื่นเดียวที่จัดสเปคมาให้แบ่บ…แน่นสุด ๆ คุ้มค่าตัว 10,999 บาท จนแทบไม่มีอะไรให้บ่นเลย ยกเว้นอย่างเดียวคืออาจจะไม่ได้รับการอัปเกรด Android ข้ามเวอร์ชั่นนะครับ คาดว่าน่าจะติดอยู่ที่ Android 13 เท่านั้น (แต่พวกแพทช์ความปลอดภัยยังได้อยู่เรื่อย ๆ นะ)
รุ่นนี้คุ้มจริงจัง ไม่แปลกใจในช็อปปี้ 9,999.-
วางขาย 2 รอบหมดเร็วทั้ง 2 รอบ 😆😆