แค่เปิดตัวมาก็สร้างกระแสได้เลยสำหรับแบรนด์น้องใหม่อย่าง Nubia ตั้งแต่ตระกูล Z11 ทั้ง 3 ที่หงายสเปคเทียบแล้วไม่แพ้ใคร มาจนถึงน้องเล็กสุดในตระกูลอย่าง Nubia N1 ที่ว่ากันว่าเป็นรุ่นคุ้มค่า ในราคาครึ่งหมื่นที่อัดสเปคมาแน่นสุดๆ ถ้าเทียบกับค่ายอื่นๆ แถมแบตมหึมา 5000 มิลลิปแอมป์ เหลือกินเหลือใช้ ว่าแต่รวมๆ แล้วมือถือจากค่ายน้องใหม่จะน่าใช้แค่ไหน ชื่อแบรนด์การันตีได้แค่ไหน ประสบการใช้งานที่สุดแล้วจะเป็นยังไง มาชมรีวิวไปพร้อมๆ กันได้เลย
หงายไพ่กันตรงๆ Nubia N1 รุ่นนี้เป็นการเดินหมากในรูปแบบแบรนด์ออนไลน์เหมือนในประเทศจีนคือเน้นการขายสินค้าแบบไม่มีหน้าร้าน เพื่อลดต้นทุนและทำให้ราคาสินค้านั้นถูกลง ซึ่งด้วยสเปคตามด้านล่างนี้บอกได้เลยว่ากับราคา 5,490 บาทนั้นหารุ่นมาเทียบยาก
สเปค nubia N1
- จอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 Full-HD
- CPU MediaTek Helio P10
- RAM 3GB
- ROM 32GB, รองรับ Micro SD Card สูงสุด 128GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh
- รองรับ 3G/4G
- Android 6.0.1 ครอบด้วย nubia UI 4.0
- ราคาเปิดตัว 5,490 บาท
โดยทาง Nubia เองยังจะนำเอารุ่น ROM 64 GB เข้ามาวางจำหน่ายอีกรุ่นในราคา 5,990 บาท เป็นทางเลือกให้คนที่อยากได้ความจุเยอะๆ
ในกล่องของ Nubia N1 นั้นก็ให้อุปกรณ์มาตรฐานมาเกือบครบ คือมีแค่สาย USB Type C หม้อแปลง (แอบสงสัยว่าทำไมให้แบบ Quick Charge มา) ขาดไปก็แค่หูฟังไม่ได้แถมมาให้ด้วย
อันนี้ไม่แน่ใจว่าถ้าสั่ง online จะแถมมาให้พร้อมกับฟิล์มหรือเคสไหม ใครได้ของแล้วฝากมาบอกกันหน่อยนะครับ
ด้านตัวเครื่อง Nubia N1 นั้นมีทั้งความหนาและหนัก ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5000 มิลลิแอมป์ บวกกับฝาหลังที่เป็นโลหะ อันนี้เป็นจุดสังเกตุแรกเลยสำหรับคนที่สนใจและคิดจะาสอยต้องเจอกับมันแน่ๆ งานประกอบจากที่ได้ลองจับๆ นั้นก็ถือว่าดี แต่ตัววัสดุและรายละเอียดในการเก็บงานนั้นยังสู้ตระกูล Z11 ไม่ได้ ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่ามันเป็นรุ่นประหยัด เรียกว่าให้อารมณ์จับขึ้นมาแล้วมันคือเครื่องจีนเลย (ก็มันจีนจริงๆ อะนะ ไม่ได้ผิดอะไรตรงไหน)
หน้าจอ Super LCD 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080p สีจัดจ้าน คือทั้งตระกูล Nubia นี่เน้นจอสีสดในแทบทุกรุ่น อันนี้ถ้าใครดูแล้วสดไปก็ปรับลดโทนความเข้มของสีลงได้ ส่วนของทัชสกรีนและการตอบสนองนั้นทำได้ดี UI ติดนิ้ว ตำแหน่งทัชแม่น
ปุ่มต่างๆ รอบตัวเครื่องลองกดๆ แล้วแน่นหนาดี ช่องปุ่มไม่หลวม
ฝาหลังโลหะที่นี่หนาใช้ได้ โดยส่วนที่เป็นโลหะคือส่วนที่อยู่ด้านหลังแผ่นเดียวโดดๆ ส่วนสองชื้นที่ประกบหัวและท้ายเครื่องเป็นพลาสติก ช่องหูฟัง 3.5 มม อยู่ด้านบนของตัวเครื่อง ติดๆ กันมีช่องไมค์ตัดเสียง
กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2 มีไฟ LED แฟลขมาด้วยหนึ่งดวง
กล้องหน้าความละเอียดเท่ากล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/2.2 เช่นกัน แต่ได้เลนส์ Wide เพื่อให้ได้ภาพที่กว้างขึ้น
ส่วนด้านล่าง Nubia N1 ใช้ USB Type C เป็นพอร์ทในการชาร์จแบตและโอนถ่ายข้อมูล ลำโพงอยู่ในช่องด้านขวา เสียงดังเอาการ คิดจะเปิดสุดๆ ให้ระวังเพราะมีแตกเบาๆ
เซนเซอร์ภายในให้มาเยอะมากกว่ามือถือในช่วงราคาเดียวกัน มีตั้งแต่ Acceleromete, Gyroscope, Magnmetometer, Step Counter, Game Rotation Vector
UI และการใช้งาน
เริ่มกันตั้งแต่ใส่ซิม ระบบ 2 ซิมของ Nubia N1 ช่องซิมเป็น hybrid slot ต้องเลือกระหว่าง Micro SD หรือซิมที่ 2 โดยซิมรองนั้นจะจับสัญญาณได้เฉพาะ 2G เท่านั้นหากซิมหลักใช้งาน 4G/3G อยู่
ปุ่มด้านล่างข้างๆ ปุ่มโฮมนั้นเห็นเป็นแค่ไฟกลมๆ เพราะเราสามารถเข้าไปเปลี่ยนหรือตั้งค่าได้ โดยจะเลือกสลับปุ่มซ้ายขวาให้ปุ่มไหนเป็นปุ่มย้อนกลับ (back) หรือแอปที่เปิดอยู่ (overview) ก็ได้
ส่วน Nubia UI 4.0 บน Android Marshmallow ตอบสนองได้เร็ว จะแตะ จิ้ม ลาก จูง ไปทางไหนก็ว่าง่าย การแสดงผล animation ก็รวดเร็ว แต่ในบางที่จิ้มเร็วๆ ปัดๆ ถูๆ ไวๆ ก็มีแอบฉุกคิดหยุดไปนิดนึง
ระบบสัมผัสนั้นถึงแม้จะทดสอบแล้วรองรับได้เกือบ 10 จุดก็จริง แต่พอลองหนักๆ แค่ 3 นิ้วก็เต็มที่แล้วที่ Nubia N1 จะรับไหว มากกว่านั้นมีเอ๋อ แต่จากที่ลองเล่นพวกเกมอย่าง O2JAM ที่ต้องสัมผัสเร็วๆ ลากถูนิ้วไปมาตลอดก็ถือว่าระบบทัชในการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมไม่น่าจะติดปัญหาอะไร
ส่วนการตั้งค่าต่างๆ เช่นพวก toggle switch ปิดเปิดเร็วๆ นี่ อยู่ที่ด้านบนเหมือน android ทั่วไป มีสวิชอันนึงที่ชอบคือมีปุ่มสลับใช้งาน data ของซิม 1 หรือซิม 2 ได้เลย
ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Nubia N1
ถึงแม้ Nubia N1 จะเป็นน้องเล็กของยี่ห้อแต่ทาง Nubia ก็ยังใส่ฟีเจอร์มาให้ครบหมด และหนึ่งในฟีเจอร์สุดคุ้มที่หลายๆ คนเห็นแล้วชอบกันแน่นอนก็คือการแบ่งหน้าจอกันทำงานหรือเล่นเกมที่เรียกว่า Mini Launcher
Mini Launcher จุดเด่นที่ทำให้ Mini Launcher นั้นดูดีกว่าระบบ Multi Windows หรือการแบ่งจอของค่ายอื่นๆ คือมันไม่สนใจว่าจะแอปไหนยอมให้แบ่งหน้าจอหรือเปล่า เพราะมันทำงานด้วยการจำลองหน้าจอขึ้นมาเพื่อใช้งานเพิ่ม พูดง่ายๆ ว่าเหมือนมี 2 หน้าจอในเครื่องเดียว เลยสามารถเปิดใช้งานได้ทุกแอป
จะเปิดเกมพร้อมกัน 2 จอก็ไม่ใช่ปัญหา (ถ้าคุณมือเร็วพอ) หรือจะเลือกเปิดหน้าเวบไป เล่นเกมหรือฟังเพลงไปก็สบาย เช่นเปิด YouTube ฟังเพลงไปด้วย แต่ย่อให้จอเล็กๆ เพลงจะได้ไม่หยุด แล้วก็เล่นเวบไปเพลินๆ
Edger Gestures โหมด FIT หรือ EDGE Gesture ไถๆ ขอบหน้าจอนั้น Nubia N1 ก็มีมาด้วย แต่ในบางครั้งก็เหมือนยังตอบสนองไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่ แต่ก็สามารถใช้งานได้ครับ นี่พยายามลองใช้เป็นเครื่องที่ 2 แล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่
ซึ่งคำสั่งทั้งหมดใน Edge Gestures ก็มีตามนี้ครับ
- แตะที่ขอบจอค้าง แล้วไถเข้ามาภายในเพื่อเลือกหน้าจอทำงาน
- ถูนิ้วขึ้นหรือลงจากขอบเพื่อสลับไปแอพล่าสุด อารมณ์เหมือนปัดหน้ากระดาษหนังสือ
- ถูนิ้วที่ขอบขึ้นลงซ้ำๆ เพื่อล้างแอพ เคลียร์ RAM
- ถูขอบจอทั้ง 2 ข้างพร้อมกันเพื่อปรับระดับเสียงหรือความสว่างหน้าจอ
- เคาะที่ขอบจอ 2 ครั้งแทนการกดปุ่มย้อนกลับ
วิธีที่จะเรียกออกมาง่ายๆ คือพยายามแตะที่ขอบจอเอาไว้สักวินึงก่อน แล้วค่อยไถนิ้วเรียกมาใช้งาน
Dual Instance หรือการโคลนแอปออกมาเป็น 2 นั้นถูกจำกัดให้ใช้งานแค่ไม่กี่แอพ เท่าที่พยายามลองพวกแอปฮิตๆ พวกโซเชียลก็เหมือนจะได้แค่ Facebookม Whatsapp Wechat ส่วน LINE นั้นแยกร่างไม่ได้
Screen shot หรือการจับภาพหน้าจอของ Nubia นี่หลายๆ คนที่ใช้ android รุ่นอื่นๆ มาก่อนอาจจะงงๆ เพราะปกติต้องกด ปุ่มลดเสียง+เปิดเครื่อง ค้างเอาไว้แป้บนึง แต่สำหรับ Nubia N1 และรุ่นอื่นๆ ของ Nubia นั้นให้กดแล้วปล่อยเลยทันทีก็สามารถจับภาพหน้าจอได้แล้ว แต่ถ้ากดค้างเอาไว้จะเป็น Super Screenshot ซึ่งสามารถเลือกจับภาพหน้าจอยาวๆ, เฉพาะส่วน หรือบันทึกหน้าจอเป็นวิดีโอไปเลยก็ได้
กล้องถ่ายภาพ Nubia N1
กล้อง Nubia N1 นั้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีความละเอียด 13 ล้านเท่ากันทั้งคู่ และให้ฟีเจอร์มาไม่แพ้รุ่นพี่ๆ เช่นเคย ใส่มาหมดรวมถึงโหมด camera family ด้วย
กล้องหลังนั้นสีสันจัดจ้าน รายละเอียดภาพก็ค่อนข้างดี แต่ปัญหาที่เจอคือมันสั่นง่ายไปหน่อย คือถ้าแสง outdoor หรือช่วงกลางวันนี่ไม่ค่อยมีปัญหา ชัดเป๊ะ แต่พอแสงเริ่มหดหายไปเมื่อไหร่อาการสั่นเริ่มจะมาทันที
ปกติผมสามารถถือมือเดียวกดชัตเตอร์ถ่ายรูปได้สบายๆ แต่ Nubia N1 นี่หลายๆ ครั้งพอลองมาดูแล้วภาพมันสั่น (อาจจะเพราะน้ำหนักตัวเครื่องด้วย) เลยทำให้ต้องจับ 2 มือตลอด
ส่วนในโหมด Camera Family หรือการถ่ายภาพแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟรถ Light trail, วาดภาพด้วยแสง Light Painting, Star Trail ไปล่าดวงดาว รวมถึงการถ่ายภาพ RAW หรือ DNG
แต่ก็เหมือนบางโหมด CPU อาจจะประมวลผลไม่ทัน เช่นโหมด Light Trail นั้นไม่สามารถบันทึกไฟรถเป็นเส้นต่อเนื่องได้ (เอ หรือเค้าตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้.. ไม่มั้ง)
ส่วนโหมด HDR นี่ไม่แนะนำให้เปิดเท่าไหร่ เพราะมันดันส่วนที่มืดขึ้นมาเยอะเกินไปจนดูหลอกๆ ขาวๆ ไม่รู้ว่าจะมี software ออกมาแก้ไขหรือเปล่า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Nubia N1
กล้องหน้ากับการเซลฟี่นั้นถ้าแสงดีๆ เปิดบิวตี้ก็เนียนได้ ในกรณีแสงหาย แสงน้อย รวมไปถึงย้อนแสงอันนี้ Nubia N1 ก็ดึงภาพและชดเชยแสงให้ ซึ่งอาจจะต้องเปิดโหมด Face detection ให้มันจับเห็นใบหน้า่เราก่อน จึงจะมีการปรับให้ครับ
ส่วนโหมดบิวตี้นั้นยังดูแปลกๆ ไม่ค่อยเนียน อาจจะเป็นเพราะ software พี่เล่นเบลอไปทั้งแถบ หรือจะเรียกว่าเบลอออกนอกหน้าก็ว่าได้ แนะนำให้ปรับกลางๆ แล้วก็ถ่ายในที่มีแสงพอ ภาพจะออกมาดีเลย แต่ถ้าแสงยิ่งน้อยแล้วไปดัน Pretty ระดับ 10 นี่หน้าและพื้นที่รอบๆ จะฟุ้งสุดๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Nubia N1
อายุแบตเตอรี่และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ
จุดแข็งของ Nubia N1 ก็คือแบตเตอรี่ขนาด 5,000 มิลลิแอมป์นี่แหละครับ จากที่เอาไปลองเปิดเล่น Pokemon Go รัวๆ ตั้งแต่ 11 โมงยันเที่ยงคืน แบตก็ยังเหลือ 30-40% (เปิดบ่อยแต่ไม่ได้เปิดค้าง) ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปยังไงก็น่าจะได้ 2 วันสบายๆ ส่วนเรื่องการชาร์จแบตนี่ เสียบลืมไปได้เลยเพราะถ้าแบตหมดจริงๆ มี 4-5 ชั่วโมงครับ กว่าจะเต็ม 100%
มาถึง GPS นั้นพอใช้ได้ครับ สามารถจับสัญญาณได้เร็ว และหลายดวง แต่ก็มีอาการหลุดๆ บ้างในบางที นอกจากนั้นก็มีหมุนๆ หลงทิศนิดหน่อย แต่ก็พอใช้นำทางได้ ขับรถไปด้วยได้อยู่
ใช้นานๆ แล้วมีอุ่นๆ หรือร้อนๆ ตรงไหนหรือไม่ อันนี้บอกได้ว่ามีความร้อนที่ฝาหลังในส่วนกลางค่อนบนครับ แถวๆ แนวสแกนลายนิ้วมือนี่รู้สึกได้เลย แล้วก็แอบมีอุ่นๆ บนหน้าจอด้วยหน่อยๆ
ส่วนคะแนน Antutu ที่ทดสอบออกมาได้ราวๆ 46,000 คะแนน เผื่อใครอยากทราบเอาไว้ไปเปรียบเทียบและช่วยในการตัดสินใจ
สรุปผลการใช้งานโดยรวม
ลองใช้มาครบเล่นจนแบตหมดแล้วหมดอีกพอที่จะการันตีได้ว่าถ้ามองหามือถือแบตอึดพร้อมกับสเปคครบๆ ในราคาครึ่งหมื่นนั้นคุณสามารถเลือก Nubia N1 ได้เลย จะเล่นเกมหรือทำงานมันพร้อมลุย จะแบ่งหน้าจอด้วย mini launcher ก็สะดวก
แต่ในบางทีถ้าเจอการประมวลผลหนักๆ หรือ RAM จะเต็มก็อาจจะมีการนิ่งๆ ค้างๆ ให้เห็นแป้บนึง เพราะ CPU มันก็ทำงานไม่ทัน ส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นก็ถือว่าใช้ได้ในเรื่องของสีและแสง ถ้าไมติดเรื่องโหมด HDR ที่ดูหลอกไปหน่อย และภาพสั่นง่ายถ้าแสงเริ่มน้อย เอาแค่แสง indoor ก็สุ่มเสี่ยงกับการสั่นแล้ว งานนี้ต้องมือนิ่งๆ หน่อยครับ ถ้ามองรวมๆ ทั้งสเปคและราคาอันนี้สรุปได้ว่า Nubia N1 คือหนึ่งในรุ่นคุ้มค่า เสปคดี แบตอึด ในราคาครึ่งหมื่นครับ
ส่วนเรื่องการสั่งซื้อ การจัดส่งสินค้า รวมถึงการรับประกันอันนี้ก็ต้องไปติดตามทางเพจของ Nubia Thailand กันอีกที เพราะมีคนบ่นเอาไว้เยอะเหมือนกัน
โคตรหลอนเรื่องการจัดส่ง
คิดจะบุกไทยต้องจริงใจกว่านี้ครับ
ผมเล่นหิ้วดีกว่า
ฟีเจอร์รูดขอบนี่ พอใช้จริงไม่ค่อยเวิรค์ ยิ่งตอนพิมพ์ๆ แป้นที่ติดขอบหน่อยเครื่องมันจะนึกว่าเราจะรูดขอบ จะหน่วงๆ รอๆ แทน
สั่งมาแล้ว จาก Nubia Storeไม่มีเคสกะฟิล์มแถมนะครับ แต่เคสมีขายในเว็ปเลยคับ 199 บาท โดยรวมก็ Happy กับราคา นะคับ เพราะสั่งมาให้พี่สาวใช้ ก็เห็นชอบนะ โดยเฉพาะแบตอึดดี
กดสั่งดู เพจตอบว่าจะส่งของให้วันนี้ พอมาวันนี้ก็บอกว่า เลื่อนเป็นวันจันทร์ ไม่รู้ว่าวันจันทร์จะเลื่อนอีกไหมให้ตายเถอะ ไม่มีสัจจะเลย บริการหลังการขายแย่มากเลย
สเปคเทียบราคาโดนใจเลย
สเปคกับราคานี้โหดแท้แถมถ่ายไฟล์ raw ได้อีก