ผมแอบเห็นหลายคนผิดหวังกับราคาเปิดตัวของมือถือเรือธงป้ายแดงอย่าง realme X2 Pro กันไปตามๆ กัน เนื่องจากเคาะราคามาแอบแรงนิดๆ ที่ 19,999 บาท วันนี้ผมก็เลยจะมาเล่าประสบการณ์การใช้งานให้ฟังว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายหรือไม่เพราะงานนี้ทาง realme ก็จับเอาตัวท็อปสุดที่มาพร้อมกับ RAM 12GB และหน่วยความจำ 256GB แบบ UFS3.0 มาให้แบบเต็มๆ คือถ้าค่ายอื่นต้องจ่ายกันเหยียบ 3 หมื่นแน่ๆ
แกะกล่องกันก่อน
แน่นอนว่า ก่อนจะเอาโทรศัพท์มารีวิวสักเครื่อง เราต้องทำการแกะกล่องกันก่อน โดยในกล่องของ realme X2 Pro จะมีตัวเครื่อง, เคสใสที่จะมีลักษณะขุ่นๆ หน่อย, เอกสารคู่มือต่างๆ, เข็มจิ้มซิม และที่ชาร์จแบต Super VOOC 50 วัตต์ที่บอกไว้ก่อนเลยว่าชาร์จไวสุดๆ หายใจยังไม่ทั่วท้อง ได้แบตมาเล่นหลายเปอร์เซนต์แล้ว
ดีไซน์ตัวเครื่อง
โดยเครื่องที่ผมได้มารีวิวครั้งนี้เป็นสีขาว Pearl White ครับ สัมผัสจับถือบอกเลยว่าโอเค งานประกอบแน่นมือครับ ฝาหลังเป็นกระจกแบบด้านๆ รอยนิ้วมือติดไม่ง่ายครับ อันนี้ผมชอบมากๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนมือมันง่าย พอได้มาลองใช้ realme X2 Pro ก็หลงรักไปตามระเบียบ แต่ถึงแม้งานประกอบและวัสดุจะดีงามมากๆ แต่ความรู้สึกตอนจับน่าจะพรีเมี่ยมกว่านี้ คือโดยรวมดีไซน์ยังธรรมดาๆ ไปนิด
หน้าจอ realme X2 Pro ใช้เป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ และที่สำคัญยังมีค่ารีเฟรชเรทอยู่ที่ 90Hz อีกด้วย โดยจะมีติ่งอยู่บริเวณกลางหน้าจอไว้ใส่กล้องเซลฟี่ การใช้งานกลางแจ้งบอกเลยว่าทำออกมาได้ดีงามครับ สู้แสงแดดจ้าๆ ของประเทศไทยได้แบบสบายหายห่วง
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะมีเพียงแค่ปุ่มเพิ่มลดเสียงเท่านั้น
สำหรับฝั่งขวา จะมีปุ่มพาวเวอร์และถามซิมครับ
ถาดซิมของ realme X2 Pro จะมียางกันน้ำสีน้ำเงินเล็กๆ ไว้ครับ ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นมารองรับ แต่จากถาดซิม ก็เป็นการยืนยันได้แบบเล็กๆ แล้วว่า realme X2 Pro สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ผมก็ไม่แนะนำให้เอาโทรศัพท์ไปจุ่มน้ำอยู่ดีนะ
ขณะที่ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมีรูหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม., ไมค์, พอร์ต USB Type-C และลำโพง โดยลำโพงของ realme X2 Pro จะให้มาเป็นแบบสเตอริโอครับ เสียงกระหึ่มใช้ได้เลยล่ะ
ส่วนด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงแค่ไมค์ตัวที่สอง เอาไว้ตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาสนทนาโทรศัพท์ครับ
UI และการใช้งาน
realme X2 Pro มาพร้อมกับ ColorOS 6.1 ครับ โดยต้องบอกก่อนเลยว่าเป็น UI ที่มีพัฒนาการขึ้นเยอะมากๆ ลักษณะไม่จีนเหมือนแต่ก่อนแล้ว สำหรับใครที่เคยเล่น realme มาเป็นประจำ คิดว่าก็น่าจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเยอะแยะ เล่นได้เพลินๆ ฟีเจอร์สามัญประจำเครื่องอย่างตัดแสงสีฟ้า (Night Shield) หรือ Dark Mode ก็มีติดเครื่องมาให้ครับ
การสั่งงานด้วยท่าทางอะไรต่างๆ realme X2 Pro ก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยมเลยครับ ทั้งลากสามนิ้วเท่ากับการแคปหน้าจอ หรือหน้าจอติดเองทันทีที่เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ไหนจะยังมี Screen-off Gestures ให้เราวาดตัวอักษรต่างๆ แล้วแอปจะเปิดขึ้นเองตามที่ตั้งค่าไว้อีกด้วย แค่วาดๆ ตอนหน้าจอปิด ง่ายนิดเดียว
ด้วยความที่ realme X2 Pro รุ่นที่ขายในประเทศไทย อัด RAM มาให้แบบจัดเต็มถึง 12GB เปิดแอปทิ้งไว้ 15 – 20 แอป ก็ไม่แสดงอาการงอแงออกมา เนื่องจากส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเคลียร์แอป บางทีลืมว่าเคยเปิดแอปนี้ไว้แล้วเมื่อสองวันก่อน กลับมาเปิดใหม่อีกรอบ แอปยังอยู่ที่เดิมอยู่เลยครับ ไม่โหลดใหม่ ระบบไม่ kill apps ทิ้ง ทั้งนี้ก็คาดว่าน่าจะมาจากการที่ RAM เยอะนี่แหละ
การแบ่งหน้าจอใน realme X2 Pro ทำง่ายมากๆ ครับ เพียงแค่กด recent apps ขึ้นมา > กดที่จุด 3 ขีด > split screen > เลือกแอปที่ต้องการ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ ผมชอบประโยชน์ของฟีเจอร์แบ่งหน้าจอมากๆ เพราะสะดวกเวลาคิดเงิน ไม่ต้องสลับแอปไปมา ฮ่าๆ
การรับสัญญาณ WiFi จุดนี้ realme X2 Pro ก็สามารถรับได้ทั้งคลื่นความถี่ 2.4G และ 5G เลยครับ ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนปัจจุบัน
ทดสอบจากแอป Widevine มีรหัส L1 แบบนี้เท่ากับว่า realme X2 Pro สามารถรับชม Netflix แบบ HD ได้ครับ
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ realme X2 Pro ใช้เป็นแบบ Optical ครับ สแกนสิบรอบ ผ่านทุกรอบ ไม่มีปัญหาอะไร และเสียงลำโพงที่ได้จาก realme X2 Pro บอกเลยว่าทำออกมาได้ดี กระหึ่มมากๆ ครับ เพราะเป็นแบบสเตอริโอ + Dolby Atmos วัดความดังของเสียงได้อยู่ที่ประมาณ 80 – 110 เดซิเบลเลยทีเดียว อันนี้ในกรณีเปิดสุดนะ รับรองว่าสู้กับโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ ได้แบบสบายๆ เผลอๆ ชนะอีกต่างหาก
การนำทาง GPS
การใช้งาน GPS ก็ทำออกมาโอเคในระดับหนึ่งเลยครับ นำไปใช้งานติดหน้ามอเตอร์ไซค์ขับรถ นำทางได้แบบไม่พาหลง เซนเซอร์อะไรต่างๆ ที่จำเป็นต่อตัวแอปแผนที่ Google Maps มีมาให้ครบ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Samsung GW1) ค่ารูรับแสง f/1.8, กล้อง Telephoto 13 ล้านพิกเซล ซูมได้สูงสุด 20x, กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 115 องศา และกล้อง depth sensor 2 ล้านพิกเซล แม้ว่าเรื่องถ่ายภาพจะไม่ใช่จุดขายของ realme X2 Pro แต่ภาพออกมา ส่วนตัวผมมองว่าใช้ได้เลยครับ แถมมีโหมด Chromatic Boost เพิ่มสีสันของรูปเข้ามาด้วย
ตัวอย่างภาพจาก realme X2 Pro
ภาพตัวอย่างกล้อง Telephoto (1x, 2x, 5x, 10x, 20x)
เปรียบเทียบเปิด Night Mode vs ปิด
ถ่ายคน
ประสิทธิภาพความแรง & การเล่นเกม
ประสิทธิภาพชิปเซ็ต Snapdragon 855+ ของ realme X2 Pro นั้นก็ถือว่าแรงตามสเปคกระดาษเลย กวาดคะแนนจากแอป AnTuTu Benchmark ไปทั้งหมด 472,306 คะแนน คะแนนเท่านี้บอกเลยว่าเล่นเกมเหลือๆ การใช้งานไม่ต้องพูดถึง ลื่นหัวแตก
หน่วยความจำใช้เป็น UFS 3.0 ครับ ความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1,427 MB/s และการเขียน 396.76 MB/s ใครบอกไม่ต่างกับ UFS 2.1 ผมเถียงขาดใจเลยนะ ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย
RoV ก็ปรับได้สุดแบบสุดจริงๆ ครับ เอาไปเล่นจริง เฟรมเรทแทบไม่มีแกว่ง
PUBG กับ Call of Duty ก็ปรับได้สุดไปเลยจ้า
แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ
realme X2 Pro ใส่แบตเตอรี่มาให้ 4,000 มิลลิแอมป์ โดยตอนแรกผมคิดว่าน่าจะไม่อึดอะไรนักหนา เพราะแบตก็ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้น แต่พอมาใช้งานจริงๆ พบว่ากลับอยู่ทนกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ตัวเลข Screen on Time กวาดไป 5 ชั่วโมง 14 นาที กับแบตเตอรี่ที่เหลืออีก 10% ส่วนนี้ต้องบอกก่อนเลยนะว่าผมเปิดหมดทุกอย่าง ไม่มีกั๊ก ดูจากข้อมูลได้เลยว่าใช้กล้องถ่ายไปแทบทั้งวัน กว่า 30% เลยทีเดียว แถมยังเปิดทั้ง YouTube และ Netflix ด้วย
การชาร์จไฟเข้า อันนี้ผมประทับใจสุดๆ เสียบชาร์จทิ้งไว้แล้วไปอาบน้ำประมาณ 30 นาที กลับมาแบตเต็มแล้ว!
สเปค realme X2 Pro
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ค่ารีเฟรชเรท 90Hz
- ชิปเซ็ต Snapdragon 855+
- GPU: Adreno 640
- RAM: 12GB
- ความจุ: 256GB (UFS 3.0)
- กล้องหลัง 4 ตัว
- เซนเซอร์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
- กล้อง Telephoto 13 ล้านพิกเซล Zoom 20x
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 115 องศา
- กล้อง depth sensor 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล + AI
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber
- ระบบเสียง: รูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงสเตอรีโอคู่, Dolby Atmos, Hi-Res Audio
- แบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จไว SuperVOOC 50W
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1
จุดที่ประทับใจ
- สเปคจัดเต็มในราคาไม่ถึง 2 หมื่น (RAM 12GB หาไม่มีแล้วราคานี้)
- หน้าจอ 90Hz
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh อึดกว่าที่คิด
- Super VOOC Flash Charge 50 วัตต์ ชาร์จไวจริงๆ 30 นาทีเต็ม
- มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- กล้องหลัง 64MP ถ่ายภาพความละเอียดสูงมากๆ ได้
- กล้อง 4 ตัวครบทุกระยะ
ข้อสังเกต
- สัมผัสการจับถือตัวเครื่องยังไม่รู้สึกพรีเมียมเท่าไหร่
- ไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแบบเรือธงรุ่นอื่นๆ
สำหรับใครที่มีงบจำกัด อยากได้มือถือสเปคแรงๆ ทุกอย่างจัดเต็มสักเครื่อง ชิป Snapdragon 855+, RAM 12GB, หน่วยความจำ UFS 3.0 ผมมองว่า realme X2 Pro เป็นตัวเลือกที่ดีรุ่นหนึ่งเลยครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปสวยที่สุด เล่นเกมลื่นที่สุด หรือว่ามี UI ที่ Clean และเร็ว แต่การใช้งานทั่วไปสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็แทบจะยืนอยู่ตำแหน่งท็อปๆ ของตลาดตอนนี้เลย ในราคาเพียงแค่ 19,999 บาท เพราะปกติสเปคแบบนี้ในตลาดปัจจุบัน ราคามันเหยียบสามหมื่นไปจนถึงสี่หมื่นต้นๆ เลย
ผมว่ามันก็แพงอยู่ดี กล้องก็ดีแค่ตัวเดียว ราคานี้ ควรจะ tele 16 mp, wide 20 mp, dep 2 mp เอามาทำไม ควรเป็น tof และควรจะมี Laser focus
หลังๆ มาผมว่าเริ่มแพงละ ราคาพอๆ กับ oppo แล้ว
ตั้งราคาแรงไป๊
12g/256g เมืองนอกขาย(รวมภาษีแล้ว)ไม่ถึง15k
เทียบกับเสป็คที่ได้จัดเต็มไม่แพง แต่ที่คนไม่พอใจเพราะตั้งราคาขูดเลือดขูดเนื้อกับคนไทยมากไป ราคาบวกไปจากจีนและอินเดียเยอะมากๆ คนคาดหวังที่ราคาหมื่นกลางๆไม่ใช่สองหมื่น ถ้าเอาแค่ RAM 8, ROM 128 เข้ามา(ด้วย)และราคาหมื่นกลาง จะได้ใจมากกว่านี้ ไม่แน่ใจว่ากลัวราคาไปชนกับ OnePlus 7T หรือเปล่าถึงต้องเอาแต่ตัวท็อปมาและตั้งราคานี้
แรงไปสำหรับราคา เอาตัว 8 / 128 มา สัก หมื่นสามถึงหมื่นห้าก็น่าสนมากกว่านะ
สุดยอดดีครับ สเป็คแรงดีครับ แต่ราคาน่าจะเบาลงอีกหน่อย 🙂 🙂
ผ่าน ไม่ใช่ราคานะ
ผมขอผ่าน
ซื้อตอนพรี ก็ถือว่าคุ้มอยู่ลดไปสองพัน ได้ประกันจอแตก 1 ปี และประกัน 2 ปี บวกหูฟังของแถม