อีกหนึ่งมือถือที่อัดสเปคมาแบบจัดเต็มในราคาที่ถูกมากๆ สำหรับ Redmi Note 8 Pro ใส่ชิปเซ็ตมาให้เป็น MediaTek Helio G90T ที่ประสิทธิภาพบอกเลยว่าใช้งานทั่วไปหรือแม้กระทั่งการเล่นเกมกราฟฟิกโหดๆ ได้แบบลื่นไหลสุดๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ในราคาสุดคุ้ม 7,999 บาทเท่านั้น ผมได้ลองเล่นมาสักพักแล้ว จะมารีวิวให้ฟังครับว่าการใช้งานจริง จะเป็นยังไงบ้าง จะทำได้ดีเหมือนในสเปคกระดาษหรือเปล่า
แกะกล่องเช็คของ
ใครที่สั่งซื้อ Redmi Note 8 Pro นี่น่าจะได้ของแถมกันเพียบไปหมดตามสไตล์ Xiaomi ซึ่งแต่ละเจ้าที่ขายก็จะแถมแตกต่างกัน ส่วนอุปกรณ์ในกล่องที่เหมือนๆ กันก็จะมีตัวเครื่อง, หม้อแปลงชาร์จเร็ว 18 วัตต์, สาย USB C (หัวอีกข้างเป็น USB A) และเคสใส ไม่มีหูฟังมาให้ตามเคย
ดีไซน์ตัวเครื่อง Redmi Note 8 Pro
สีที่ผมได้มารีวิวครั้งนี้คือสีขาว Pearl White ครับ แว๊บแรกที่เห็นคือสีมันพรีเมียมมากๆ สัมผัสจับถือดูดีกว่ามือถือเรือธงที่ใช้ส่วนตัวอีก ฮ่าๆ มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้
หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีรอยบากสำหรับใส่กล้องเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ค่าความสว่างสูงสุดดันไปได้มากถึง 500 nits ใช้งานกลางแจ้งสู้แสงแดดประเทศไทยได้แบบสบายๆ
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะเป็นลักษณะโล่งๆ เลย มีเพียงแค่ถาดใส่ซิมเท่านั้นครับที่อยู่ฝั่งนี้
ส่วนด้านขวาก็เป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงและปุ่มพาวเวอร์ การจัดวางของปุ่มถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กดได้พอดีเลยล่ะ
ข่าวดีก็คือ Redmi Note 8 Pro ยังไม่ตัดช่องรูหูฟัง 3.5 มม. ออกไปครับ แถมพอร์ตที่ให้มายังเป็นแบบ USB Type-C อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องพกสายชาร์จอะไรให้ยุ่งยาก สามารถยืมเพื่อนที่ใช้ Type C เหมือนกันได้เลย ข้างๆ พอร์ตเป็นลำโพง อย่างไรก็ดี เสียงที่ได้มาก็ถือว่าดังใช้ได้อยู่เหมือนกัน
ส่วนด้านบนตัวเครื่องก็มีไมค์ และ IR Blaster สำหรับควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
ข้างๆ กล้องหน้า จะมีไฟ Notification LED หรือว่าไฟแจ้งเตือนซ่อนอยู่ด้วย ซึ่งหากมีการแจ้งเตือนมาหรือเรายังไม่ได้เปิดดูมันก็จะกระพริบช้าๆ และไฟก็จะติดขึ้นมาตอนเสียบสายชาร์จด้วย
ประสิทธิภาพและการการใช้งาน
Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10 ที่ตอนเปิดเครื่องครั้งแรก ผมแทบตกใจเลยนึกว่าโทรศัพท์รุ่นนี้มาเป็น Android 10 รุ่นล่าสุดเลย ชิปเซ็ตใส่มาเป็น Helio G90T ที่ทาง MediaTek ชูโรงมาว่าเป็นชิปสายเกมมิ่ง ซึ่งพอเอาไปทดสอบคะแนน Benchmark กับ AnTuTu ก็พบว่ากวาดคะแนนไปถึง 226,680 เรียกได้ว่าชนกับชิป Snapdragon 730 ได้แบบสบายๆ เลย
หน่วยความจำ Redmi Note 8 Pro เลือกใช้เป็นแบบ UFS 2.1 ซึ่งผมได้ลองเอาไปทอดสอบกับแอป AndroBench การอ่านการเขียนข้อมูลก็ได้คะแนนมาดังนี้ การอ่านอยู่ที่ 510.65 MB ต่อวินาที และการเขียนอยู่ที่ 192.91 MB ต่อวินาที
เครื่องที่ได้มารีวิวเป็นตัว RAM 6GB และความจุ 128GB ใส่เมมเพิ่มได้ โหลดแอปพื้นฐานอย่าง Facebook, Messenger, LINE, Twitter หรือ IG มาลองเล่น สลับแอปไปมา ก็ไม่มีอาการค้างให้เห็นนะ เปิดแอปทิ้งไว้หลายๆ แอป ไม่เคลียร์ทิ้ง เครื่องก็ไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด
Redmi Note 8 Pro รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้ง 2.4G และ 5G เลย
การเล่นเกม
ชิป Helio G90T นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ตอนแรกก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะโดยปกติชิปใหม่ๆ ค่ายเกมมักจะยังไม่ค่อยรองรับ แต่ปรากฏวง่าทั้ง PUBG และ ROV นั้นพร้อมใช้งานเปิดกราฟิคสุดๆ ได้ แถมเฟรมเรตยังนิ่งมากจนเซอร์ไพรส์
ชิปไม่เรือธง แต่เปิดมาได้กราฟิคสูงสุดเลยจ้า
ลองไปปรับเพิ่มในเกมอีกนิดหน่อย ภาพ HDR ก็มา ได้เฟรมเรต Ultra ของ PUBG ด้วยเด้อ ส่วนของ ROV เปิดสุดได้ทุกค่า ดันขวาสุดไปเลย เฟรมเรตนิ่งเนียนจนแปลกใจ
แต่หลังจากลองเล่นไปสักพัก… เครื่องอุ่นครับ แม้ นี่ขนาดใส่เคสอยู่ คาดว่าถ้าถอดออกน่าจะมีความร้อนพอสมควรเลย แม้ภายในจะมีระบบระบายความร้อนมาให้แต่ก็เหมือนจะคุมได้แค่ระดับนึงเท่านั้น ยังไงลองไปดูรายละเอียดเต็มๆ ในคลิปรีวิวท้ายบทความนะครับ
ระบบนำทาง
ประสิทธิภาพ GPS ของรุ่นนี้ก็มีความแม่นยำพอสมควรเลยนะ ผมเอามาลองใช้นำทางไปโน้นนี่สถานที่ที่ไม่เคยไป เดินตามต้อยๆ ตามลูกศร ก็พบว่าไม่หลง พาไปถึงจุดหมาย ไม่เจออาการหลุดระหว่างทาง
กล้องถ่ายรูป
กล้องหลัง 4 ตัวที่ถือว่าเป็นจุดขายของ Redmi Note 8 Pro ทั้งเซนเซอร์ Samsung GW1 ที่ทาง Xiaomi ได้จับมือพัฒนาร่วมกับ Samsung ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ใช้ถ่ายรูปทำภาพโปสเตอร์ได้แบบสบายๆ เลย ส่วนกล้องที่เหลือประกอบไปด้วยกล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล, กล้อง depth sensor 2 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวัตถุได้ใกล้สุดเพียง 2 เซนติเมตร
จะให้บรรยายสพรรณคุณของกล้องเป็นตัวหนังสือก็จะดูประหลาดๆ เอาเป็นว่าลองดูภาพตัวอย่างด้านล่างเอาเลยละกันนะครับ ส่วนตัวผมว่าโอเคกับราคามากๆ เลย ภาพแต่ละภาพที่ได้คือคมชัด สีสันดูเป็นธรรมชาติ ถ้าอยากให้ได้สีที่สดหรืออิ่มขึ้นมาอีกหน่อยก็สามารถเปิด AI เพิ่มได้
ภาพจากกล้อง Ultra Wide
ภาพจากกล้องมาโคร
ภาพถ่ายคน
ภาพจาก Night Mode
จากการทดสอบ Night Mode นั้นโดยรวมมีการจัดการนอยส์ในภาพได้ดีขึ้น แต่ยังดีง dynamic range มาไม่ได้มากนัก ซึ่งหากเทียบกับตระกูล Xiaomi ที่ใช้ชิป Snapdragon แล้วยังแพ้อยู่นิดหน่อย คาดว่าอาจจะมีส่วนของ ISP ที่ใช้ประมวลผลภาพมาเกี่ยวข้องด้วย
กล้องเซลฟี่
กล้องเซลฟี่ของ Redmi Note 8 Pro นั้นมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
ภาพจากกล้องเซลฟี่
ภาพจากกล้องเซลฟี่ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทั้งในเรื่องของความคมชัด การเบลอฉากหลัง แถมยังมีลูกเล่น Portrait Lighting ให้เลือกเล่นมากมาย หากแสงมาเต็มนี่คมชัดสีสวย แต่ถ้าแสงเริ่มลดลงก็จะเริ่มเห็นว่าภาพจะเริ่มเบลอๆ พิกเซลจะไม่คมและเริ่มเป็นวุ้นๆ อย่าง 2 ภาพสุดท้าย
ส่วนโหมดการถ่ายวิดีโอนั้นอยู่ในคลิปรีวิวท้ายบทความนะครับ
ดูหนังฟังเพลง
ใครที่เป็นสาย Netflix อันนี้มีเฮครับ เพราะ Redmi Note 8 Pro รองรับ Widevine แบบ L1 สามารถดูหนังและซีรีส์ในความละเอียด HD และอย่างที่บอกไปข้างต้นครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใส่ลำโพงสเตอริโอคู่มาให้ แต่เสียงที่ออกมาจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่โอเคในระดับหนึ่งเลย แต่ถ้าใครยังไม่พอใจก็สามารถเสียบรูหูฟังได้นะ อันนี้มิติและเนื้อเสียงก็จะดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนตัวผมชอบมากๆ ที่รุ่นนี้ยังไม่ตัดหูฟังออก
แบตเตอรี่และระบบชาร์จไว
Redmi Note 8 Pro อัดแบตเตอรี่มาแบบจัดเต็ม 4,500 มิลลิแอมป์ ทำให้สามารถเล่นได้แบบเพลินๆ เลย 1 วันไม่ต้องถามหาที่ชาร์จแบต เปิดกล้องถ่ายรูป, เล่นโซเชียล หรือฟังเพลงทั้งวัน กลับบ้านไปพบว่าแบตยังเหลืออยู่ราวๆ 54% ขณะที่ Screen On Time ผ่านไป 3 ชั่วโมง ถือว่ามีระบบจัดการพลังงานที่ดีใช้ได้เลยสำหรับรุ่นนี้
ส่วนเรื่องระบบชาร์จไว Redmi Note 8 Pro ก็มีหม้อแปลง 18 วัตต์แถมมาในกล่องเลย ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มจากข้างนอก ไปทำธุระแปปเดียว 30 นาที ชาร์จทิ้งไว้ ก็ได้แบตมาเล่นเกือบๆ 40 – 50% แล้วล่ะ
จุดที่ประทับใจ
- ดีไซน์และงานประกอบถือว่าโอเค สัมผัสแล้วรู้สึกพรีเมียม
- ประสิทธิภาพการใช้งานสู้มือถือระดับหมื่นต้นๆ ไปจนถึงหมื่นปลายๆ ได้แบบสบายๆ ด้วยความสามารถของชิปเซ็ต Helio G90T
- กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64MP
- แบตเตอรี่ 4,500 มิลลิแอมป์ อึด ใช้งานได้เกินวัน
- รองรับชาร์จไว 18 วัตต์ แถมมาให้ในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่ม
- มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- IR Blaster
จุดที่ต้องพิจารณา
- เล่นเกมไปสักพักตัวเครื่องจะอุ่นขึ้นแบบรู้สึกได้ แม้จะใส่เคสและนั่งอยู่ในห้องแอร์
สเปค REDMI NOTE 8 PRO
- หน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) อัตราส่วน 19.5 : 9
- CPU : Helio G90T
- GPU : Mali-G76
- RAM : 6GB
- ความจุ : 64GB / 128GB
- กล้องหลัง : 64MP + 8MP + 2MP + 2MP
- กล้องหน้า : 20MP
- สแกนนิ้วมือด้านหลัง
- USB-C
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- รองรับ NFC
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับชาร์จไว 18W
- ระบบ Android 9 ครอบด้วย MIUI 10
- ราคาเปิดตัว
- 6GB/64GB ราคา 7,999 บาท
- 6GB/128GB ราคา 8,999 บาท
Redmi Note 8 Pro ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในมือถือราคาไม่เกินหมื่นที่สเปคจัดเต็มแบบสุดๆ ทั้งชิป Helio G90T ที่ประสิทธิภาพแรงไม่แพ้ Snapdragon 730 (ผลคะแนนสูสีกับ Snap 8xx ด้วยซ้ำ) ไหนจะกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพไปทำเป็นโปสเตอร์ยังได้ พอร์ตก็เป็น USB Type-C และรูหูฟัง 3.5 มม. ที่ยังไม่ตัดออกไปอีก นอกจากนี้แบตเตอรี่ก็อึดใช้ได้เลย เรียกได้ว่าสเปคเท่านี้กับเงินที่เสียไป 7,999 บาท คุ้มสุดๆ ไปเลย
ตัวนี้เป็น L1 ก็จริงแต่ว่าเหมือนยังดู Netflix แบบ HD ไม่ได้นะครับ มีกระทู้รีวิวในพันทิปนะ เช่นเดียวกับมือถือรุ่นก่อนๆเช่น Galaxy A9 Pro (2016), Zenfone 3 5.5" ที่ผมเคยใช้และเป็น L1 เหมือนกันแต่ดู Netflix HD ไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าตัว Note 8 Pro จะมีอัพเดตหรือเปล่า
สเป็คกับราคาน่าคบแหะ 🙂 🙂
ไปจับตัวจริงมา งานตัวเครื่องสู้ Mi 9 Lite กับ 9T ไม่ได้เลย ทั้งๆที่ราคาพอกัน