อย่างที่รู้กันว่าปีนี้เพียงปีเดียวค่ายมือถือสัญชาติเกาหลีอย่าง Samsung นั้นได้ปล่อยสมาร์ทโฟนตระกูลอักษรภาษาอังกฤษออกมายิบย่อยซอยรุ่นถี่เสียเหลือเกิน ซึ่งหนึ่งในรุ่นยอดนิยมขายดีแบบเทน้ำเทท่าจนของขาดตลาดไปช่วงนึงก็คือสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปของตระกูล J อย่าง Samsung Galaxy J7 และเราก็ได้มีโอกาสลองใช้ชีวตร่วมกับมันมาสักระยะ เมื่อมีโอกาสจึงนำประสบการณ์การใช้งานมาเล่าให้ฟังกัน ~

Play video

สเปค Samsung Galaxy J7

  • Android OS 5.1 (Lollipop)
  • หน้าจอ sAMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 พิกเซล (~267 ppi)
  • CPU: Exynos 7580 Octa-core 1.5 GHz
  • GPU: Mali-T720MP2
  • RAM: 1.5 GB
  • หน่วยความจำภายใน: 16 GB + รองรับ microSD สูงสูด 128 GB
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล + f/1.9 + LED Flash + Autofocus
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล +  f/1.9 + LED Flash
  • แบตเตอรี่ Li-Ion 3000 mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
  • 2 ซิม (microSIM)
  • รองรับ 2G, 3G, 4G LTE ทุกเครือข่าย
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, Bluetooth4.1, A2DP, microUSB 2.0
  • ซ็นเซอร์: Acceleromter, Proximity, Hall Sensor
  • GPS: A-GPS, GLONASS
  • สัดส่วน: 152.2 x 78.7 x 7.5 มม., 171 กรัม
  • สี: สีขาว, สีเงิน

ต้องบอกก่อนว่าอันนี้เป็นการเล่าประสบการณ์การใช้งานแบบคร่าวๆ ไม่ได้เจาะลึกลงรายละเอียดทางเทคนิคมากนะคะ ซึ่งหลังจากที่ลองใช้งาน Samsung Galaxy J7 ก็ถือว่าประทับใจพอสมควรเลย เพราะว่าครั้งนี้ทาง Samsung ได้ให้สเปคและฟีเจอร์ในการใช้งานมาค่อนข้างครบกับสมาร์ทโฟนรุ่นราคาไม่แพงมาก ทั้งๆ ที่ปกติของดีๆ มักจะกั๊ก เอ้ย เก็บไว้ให้รุ่นอื่นๆ ในตระกูลท๊อป อีกทั้งเรื่องแบตเตอรี่ที่อึดได้อย่างน่าประทับใจ ดังนั้นเพื่อให้อ่านได้ง่ายๆ เราจะสรุปให้เป็นข้อๆ ตามนี้เลย ~

วัสดุและดีไซน์ :

ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy J7 เป็นพลาสติกและมีความบาง 7.5 มม. จึงทำให้มีน้ำหนักเบา และส่วนตัวชอบที่ขอบเครื่องมันไม่คม มน กลม จับง่ายดี แต่ไม่ค่อยชอบที่ตัวเครื่องบางแต่ขนาดขยายใหญ่ออกข้าง รู้สึกถือลำบาก และจับไม่ค่อยถนัดมือเท่าไหร่

หน้าจอ :

หลายคนอาจจะชอบและประทับเพราะสำหรับสมาร์ทโฟนราคานี้ แต่ได้จอที่ใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว มาพร้อมกับความละเอียด HD ซึ่งก็ทำให้สะดวกสบายเวลาดูหนัง เล่นเกม แต่ข้อเสียอยู่ที่ไม่มี Light Sensor ค่ะ บางคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น จริงๆ เราว่าค่อนข้างจะจำเป็นนะคะ อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันสายตาของเราได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหน้าจอของเจ้า Samsung Galaxy J7 หากออกไปที่กลางแจ้งนี่ไม่มีปัญหาเลยค่ะ เพราะมีโหมด Outdoor ที่ช่วยเพิ่มความสว่างขึ้นไปอีก แต่เวลาใช้งานในที่แสงน้อย ปรับลดความสว่างต่ำสุดหน้าจอก็ยังสว่างอยู่ดี เล่นนานๆ ก็อาจจะมีตาล้ากันไปบ้างเลยค่ะ

ประสิทธิภาพการใช้งาน :

เรื่องประสิทธิภาพการใช้งานสำหรับ Samsung Galaxy J7 นั้นแม้ว่าสเปคจะดูเหมือนไม่แรง แต่พอได้ลองใช้งานจริงๆ แล้วก็ลื่นไหล ใช้งานได้ค่อนข้างโอเคเลยค่ะ ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูวิดีโอ หรือเล่นโซเชียลต่างๆ อย่างที่ลองเล่นเกมกินแบตฯอย่าง Minion Paradise ก็ได้ยาวๆ ไม่ร้อน ไม่กระตุก แถมแบตอึดลดไม่ไวเหมือนเครื่องที่ใช้อยู่ ตรงนี้เลยที่ทำให้ประทับใจ 😀    

หน่วยความจำภายใน :

ประเด็นนี้หลายคนอาจจะติดใจจากโฆษณาที่บอกว่า “มี Galaxy J7 เหมือนพกฮาร์ดดิสติดตัว” บางคนอาจจะเข้าใจว่าทุกเครื่องจะได้หน่วยความจำมา 48 GB แต่จริงๆ แล้วเจ้า Samsung Galaxy J7 นั้นมีหน่วยความจำภายใน 16 GB แต่อีก 32 GB นั้นเป็น MicroSd Card ที่แถมมาให้ค่ะ แต่ว่าก็จะได้เฉพาะเมื่อซื้อกับร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้นค่ะ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นจุดเด่น Android Phone ที่ Samsung ตัดทิ้งไปในรุ่นเรือธง (; w ; ) ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหน่วยความจำจะไม่เพียงพอสำหรับรุ่นนี้ค่ะ

GPS :

สำหรับ Samsung Galaxy J7 นั้นก็มี GPS เหมือนรุ่นอื่นทั่วๆ ไปค่ะ แต่ว่าเจ้านี่ดันไม่มี Compass Sensor หรือ เซนเซอร์เข็มทิศนั่นเอง กล่าวคือก็อาจจะงงๆ เวลาใช้งาน Map ให้ลองนึกภาพตามว่าเปิด Google Map ขึ้นมา เมื่อรถแล่นไปหัวลูกศรก็จะหมุนไปตามทิศที่รถมุ่งไปใช่มั๊ยคะ แต่อันนี้หัวลูกศรก็จะค้างอยู่ทิศเดิมสักพักใหญ่ๆ ถึงจะหมุนตามทิศที่รถมุ่งหน้าไปค่ะ (._. ^) นอกจากนี้ส่วนตัวรู้สึกว่าจับสัญญาณไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ ติดๆ หายๆ บ้างเป็นบางครั้ง

แบตเตอรี่ :

ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจและทำให้ติดใจการใช้งานของ Samsung Galaxy J7 เลยล่ะค่ะ โดยรุ่นนี้ให้ความจุของแบตเตอรี่มา 3,000 mAh ถือว่าเยอะพอสมควรเลย ซึ่งเมื่อใช้งานจริงๆ อยู่ได้เต็มวันแบบสบายๆ เลยค่ะ หรืออย่างเราพกเครื่องนี้เป็นเครื่องสำรอง ไม่ค่อยได้ใช้เยอะเท่าไหร่ แต่ก็เปิดพวก Notification ของ Facebook, Twitter และเกมไว้ แบตเตอรี่ก็สามารถอยู่ได้สูงสุดเกือบ 3 วันค่ะ  

กล้องหลัง :

เรียกได้ว่าสเปคของกล้อง Samsung Galaxy J7 นั้นค่อนข้างจะจัดเต็มอยู่พอสมควรเลย ซึ่งก็ให้ความละเอียดมาถึง 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง 1.9 และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เหมือนกับรุ่นเรือธงอย่าง Quick Launch Camera และ โหมด Pro ที่สามารปรับชดเชยแสง White Balance และ ISO ได้ระดับหนึ่ง ส่วนคุณภาพก็ค่อนข้างใช้ได้นะคะสำหรับถ่ายสภาพแสงตอนกลางวัน แต่หากลองซูมความละเอียดเยอะๆ หรือถ่ายในที่แสงน้อยก็นอยซ์กระจายไปตามระเบียบ

กล้องหน้า :

สำหรับกล้องหน้าของ Samsung Galaxy J7 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นเลยก็ว่าได้ เพราะว่าได้ทั้งฟีเจอร์เด่นๆ เหมือนกับรุ่นเรือธงของค่ายอย่าง Gesture Control หรือ Palm Selfie นั่นเอง ถึงแม้ว่าคุณภาพแน่นอนว่าสู้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ห่างชั้นจนขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ที่สำคัญเจ้า Samsung Galaxy J7 ยังพก LED Flash สำหรับกล้องหน้ามาด้วย แม้ว่าพอใช้งานจริงๆ แล้วจะไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นสักเท่าไหร่ เพราะแสงแฟลชค่อนข้างแรง แสบตามากๆ หากไม่ได้อู่ในที่แสงน้อยมากจริงๆ ก็ไม่ค่อยน่าใช้เลย

 

ตัวอย่างภาพภาพจากกล้องหน้าและกล้องหลังของ Samsung Galaxy J7 หรือสามารถดูเพิ่มเติมที่ Blind Test 

 

จุดเด่น

  • แบตเตอรี่อึด
  • ฟีเจอร์การใช้งานกล้องได้มาครบทั้ง Quick launch Camera , Palm Selfie และ Pro Mode
  • การใช้งานลื่นไหล สลับเปลี่ยนแอปได้สบายๆ

ปัญหาที่พบ

  • ไม่มี Light Sensor, Compass Sensor
  • ไม่มีไมค์ตัดเสียง
  • ติด BUG แอปพลิเคชั่น Twitter แต่ก็ยังเล่นได้ปกติ แม้ว่าจะขึ้น Report ตลอด

 

สรุป

Samsung Galaxy J7 เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่น่าสนใจเลยค่ะ แม้ว่าตัวเลขหรือสเปคโดยรวมอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยโอเค แต่พอลองใช้งานจริงๆ แล้วถือว่าเกินความคาดหวังเลยค่ะ ประทับใจความอึดของแบตเตอรี่จริงๆ ส่วนปัญหาที่พบก็คงเป็นเรื่องของการไม่มี Compass Sensor และ Light Sensor ค่ะ ยังไงหากเพื่อนๆ คนไหนใช้งานแล้วมีปัญหา หรืออยากแชร์ประสบการณ์การใช้งานของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ก็สามารถคอมเมนท์พูดคุยกันได้เลยค่ะ 😀