เนื่องจากการมาของ Uber ที่มา Disrupt รูปแบบการคมนาคมสาธารณะแบบที่เคยมีอยู่ และที่เชียงใหม่ก็มี Uber แล้วเช่นกัน นั่นก็หมายความว่าการมาของ Uber ก็จะมาขัดกับรถแดงของเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน จนล่าสุดผมก็ได้ข่าวคราวของแอพตัวหนึ่งที่ใช้กับรถแดงที่เชียงใหม่ที่มีชื่อว่า Ubar Rod Dang (ตั้งชื่อได้คล้ายคลึงกับ Uber มากๆ…) รวมไปถึงเสียงร่ำลือของแอพตัวนี้ บวกกับมีโอกาสได้แวะมาที่เชียงใหม่ ดังนั้นก็ไม่พลาดโอกาสที่จะลองใช้แอพตัวนี้จริงๆ ซะเลย

เมื่อผมเปิดแอพขึ้นมาใช้งาน

ตัวแอพใช้งานง่ายมาก เพราะแทบจะไม่มีระบบอะไรที่ซับซ้อนเลย (น่าจะใช้วิธีเขียนขึ้นมาแบบง่ายๆ) ตัวแอพมีอยู่ 3 หน้าด้วยกัน ย้ำว่ามีทั้งหมดแค่ 3 หน้าจริงๆ ครับ โดยจะมี

  • หน้าแรกเป็นหน้าสำหรับผู้โดยสาร เพื่อให้กดเรียกรถแดง
  • หน้าที่สองเป็นหน้าสำหรับรถแดง เพื่อดูตำแหน่งของผู้โดยสารที่กดเรียกจากในแอพ
  • หน้าที่สามเป็นหน้าวิธีการใช้งาน เพื่อแสดงวิธีการใช้งานและอธิบายการทำงานของตัวแอพ

เป็นแอพที่เรียบง่ายมาก บอกเลยว่าถ้าใครมาใช้แอพตัวนี้ ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เชื่อผมเถอะ

เมื่อผมอยากจะเรียกรถแดง

คือไม่ได้กดเล่นๆ นะ แต่ผมมีของชิ้นใหญ่อยู่สองชิ้นที่ต้องส่งไปอีกที ดังนั้นก็เลยตัดสินใจลองใช้แอพตัวนี้ดูครับ เพราะน่าจะสะดวกดี จะได้ไม่ต้องแบกของชิ้นใหญ่ออกไปริมถนนเพื่อโบกรถแดง

โอเค มาลองกดเรียกรถแดงจากแอพกันดีกว่า!!

ความเจ๋งอย่างแรกที่สุดก็คือ เวลาอยากจะไปที่ไหนให้พิมพ์ใส่ชื่อสถานที่ครับ ไม่มีให้เลือกพิกัดจาก Google Maps หรือ Suggest สถานที่อะไรขึ้นมาเลย ก็เลยทำให้ผมใช้งานง่ายมากๆครับ ผมสามารถกรอกสถานที่ปลายทางเป็น “ไปบ้านไอ้ต้น” ได้เลย สะดวกสุดๆ เพราะเคยลองใช้ Uber หรือ Grab Taxi ก็เจอปัญหาต้องหาพิกัดของบ้านไอ้ต้นทุกครั้ง แต่สำหรับแอพนี้ไม่จำเป็น

สรุปก็คือแอพนี้ไม่มีระบบนำทางครับ ผู้โดยสารแค่ใส่ข้อความว่าจะไปที่ไหน สุดท้ายแล้วถ้าเป็นสถานที่ที่คนขับรถแดงไม่รู้จัก เราก็ต้องบอกทางเองอยู่ดีครับ > < และพอผมกรอกสถานที่เรียบร้อยแล้วกดเรียกรถแดง ก็จะไปอีกหน้าซึ่งเป็นหน้าบอกให้เรารู้ว่ากำลังเรียกรถแดงแล้วนะ

ความเจ๋งขั้นที่สองก็คือข้อความที่ว่า “….กรุณาเปิดหน้านี้ค้างไว้จนกว่าจะมีรถแดงโดยสารมารับท่าน เมื่อท่านปิดหน้านี้ ระบบจะหยุดส่งข้อมูล GPS ท่านทันที”

ใช่ครับ ผมต้องเปิดหน้าจอมือถือทิ้งไว้ตลอดเวลา จนกว่ารถแดงจะมารับผมครับ ต่อให้แบตผมจะหมดให้ตายยังไงก็ต้องเปิดไว้ เพราะถ้าผมสลับไปเปิดแอพหรือหน้าจอดับ กลายเป็นว่ามันจะหยุดเรียกรถแดงทันทีครับ (ในเชิงเทคนิคคือส่ง GPS ไปที่เซิฟเวอร์ครับ) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เขียนให้ Location Tracking ทำงานเป็น Background กันนะ จะได้ย่อแอพหรือปิดหน้าจอได้

หมายเหตุ : ตอนที่เรียกรถแดงจริงๆ ผมใช้ชื่อที่อยู่จริงๆไม่ได้ใส่เล่นๆแบบนี้นะ “บ้านไอ้ต้น” ผมสมมติขึ้นมาใช้ประกอบบทความเฉยๆ

แล้วรถแดงจะรู้ได้ยังไงว่ามีผู้โดยสารกดเรียกอยู่ล่ะ? ผมก็เลยต้องใช้มือถืออีกเครื่องเปิดดูครับ เพราะจำได้ว่ามีหน้าสำหรับรถแดงอยู่ ก็จะเห็นว่าหน้านี้จะแสดงแผนที่ให้เห็นว่ามีใครกดเรียกอยู่

หมายเหตุ – ระหว่างที่ลองใช้แอพอยู่นั้นก็พบว่ามีแต่ผมคนเดียวที่กดเรียกอยู่ (กดตอนสิบเอ็ดโมง) 

ความเจ๋งขั้นที่สามคือตัว Marker ที่แสดงอยู่บนแผนที่จะเปลี่ยนสีด้วย เพื่อบอกให้รู้ว่าผู้โดยสารคนนั้นรอนานแค่ไหนแล้ว ซึ่งผมก็นั่งสังเกตอยู่พักนึงก็พบว่าสีของ Marker จะเปลี่ยนไปตามนี้

ก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าปกติแล้วการรอรถมากกว่า 3 นาทีนี่ถือว่านานมากๆแล้วหรือ หมายความว่าถ้าผมรอ 3 นาที หรือ 30 นาที สีของ Marker ของผมก็เป็นสีแดงเหมือนกันน่ะแหละ

และฝั่งคนขับ ถ้าอยากจะดูว่าคนๆนั้นไปที่ไหนก็ให้กดที่ Marker ครับ จะมีแสดงตามที่พิมพ์ไว้ขึ้นมา

ถ้าใส่จุดหมายปลายทางยืดยาวเกินไปก็จะแสดงผลเท่าที่แสดงในหน้าจอได้เท่านั้น

ปัญหาอย่างหนึ่งที่คนขับรถแดงน่าจะเจอกันจากแอพนี้ก็คือ Marker ไม่สามารถกดแสดงสถานที่ปลายทางค้างตลอดเวลาได้ เพราะดูเหมือนว่าตัวแอพจะอัพเดทตำแหน่ง Marker ของผู้ใช้คนนั้นๆเป็นระยะๆ ก็เลยทำให้ข้อความใน Marker ถูกซ่อนไปด้วย ก็ต้องกดใหม่ตลอดเวลา

ผลจากการกดเรียกรถเพื่อขนของ..

ผมก็ลองนั่งรออยู่ครึ่งชั่วโมงครับ ปรากฏว่าไม่มีรถแดงจากแอพตัวนี้มารับแต่อย่างใด… สุดท้ายผมก็ต้องขนของออกไปโบกรถแดงข้างนอกอยู่ดี

 

สิ่งที่เจออยู่บ่อยๆระหว่างใช้งานแอพตัวนี้

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้แอพ Ubar Rod Dang ก็จะพบกับภาพแบบนี้อยู่เป็นระยะๆครับ

ตอนเข้าไปดาวน์โหลดก็เห็นคอมเม้นจากผู้ใช้งานในหน้าดาวน์โหลดพูดถึงเรื่องแอพเด้งอยู่บ่อยๆ แต่ตัวแอพก็มีการอัพเดทอยู่เป็นระยะๆ (เวอร์ชันล่าสุดที่ผมลองใช้งานคือ 1.0.6) แต่ผมก็ยังเจอปัญหาแอพเด้งหลายครั้งอยู่ดี

และถ้าคุณใช้แอพตัวนี้บน iOS จะมี Ads แถมให้ฟรี ส่วนของ Android ก็เคยมีแต่เอาออกไปเรียบร้อยแล้ว

 

ข้อดีข้อเสียของแอพตัวนี้

จากการที่ลองใช้งานดูก็พอจะสรุปข้อดีข้อเสียของแอพตัวนี้ได้ดังนี้ครับ

ข้อเสีย

• ไม่มีผู้โดยสารใช้งานจริง

• ไม่มีคนขับรถแดงที่ใช้งานจริง

• ตอนที่เรียกรถแดงต้องเปิดหน้าจอทิ้งไว้ตลอดเวลา ปิดปุปคือหยุดเรียกทันที

• ผู้โดยสารที่กดเรียกไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะมีรถมารับหรือไม่

• คนขับรถแดงไม่รู้ว่ามีรถคันไหนอยู่ใกล้ผู้โดยสารมากกว่า ถ้าขับไปหาก็อาจจะเสียเวลาถ้ามีคนที่อยู่ใกล้กว่าตัดหน้า เพราะไม่มีระบบจัดคิวให้อย่าง Uber หรือ Grab Taxi

• ไม่มีระบบล็อกอิน ไม่สามารถยืนยันตัวอะไรได้เลย จะกดเรียกเล่นๆจากที่ไหนก็ได้

• มี Ads บน iOS, ของ Android เคยมี แต่เอาออกไปเรียบร้อยแล้ว

ข้อดี

• ใช้ง่าย แอพไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเรียนรู้วิธีใช้งานก็สามารถใช้งานได้เลย

 

สรุป

จากเดิมที่ผมได้ยินแอพตัวนี้จากเพื่อนๆและเว็ปข่าวสารต่างๆก็เลยลองหาข้อมูลดูนิดหน่อยก่อนจะมาลองใช้ เพราะไปสังเกตข้อความจากเว็ปข่าวหลายๆที่บอกกันไว้ว่า “ขณะนี้มีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานใน Android ไปแล้ว 1,400 คน” แต่ตอนที่ผมลองกดโหลดแล้วเข้าไปดูรายละเอียดในหน้าดาวน์โหลดบน Google Play ก็พบว่ามีแค่หลัก 100-500 เท่านั้น นั่นหมายความว่าจริงๆแล้วอาจจะมีการปล่อยให้ดาวน์โหลดตามที่ต่างๆนอกจาก Google Play ด้วยก็เป็นได้

และตอนแรกก็เข้าใจว่าเป็นแอพของคนขับรถแดงที่ทำมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Uber แต่ก็พบว่าจริงๆแล้วไม่ใช่แอพของกลุ่มคนขับรถแดงแต่อย่างใด เป็นแค่ของบริษัทๆหนึ่งในเชียงใหม่ที่ทำขึ้นมาเอง เพื่อให้นำไปใช้งานอีกที

แต่ระหว่างที่ผมได้ลองใช้และเก็บข้อมูลเพื่อนำมาเขียนเป็นรีวิวก็พบว่าแอพได้ถูกถอดออกจาก App Store และ Google Play เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงหน้า Facebook Page ที่ปิดไปแล้วเช่นกัน

แอบเสียใจอยู่พอสมควร เพราะเก็บข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว แต่ทางแอพได้ปิดไประหว่างที่ผมเขียนบทความนี้ซะงั้น T^T  ก็เลยไม่รู้จะแปะลิ้งเชิญชวนให้ไปลองกันได้ยังไง แต่ก็ขอแปะไว้ตามธรรมเนียมละกันครับ

 

อัพเดทเพิ่มเติมของการถอด/ซ่อนแอพจาก App Store และ Google Play

เนื่องจากผมไปเจอวีดีโอสัมภาษณ์กับทีมนักพัฒนาของแอพตัวนี้ ในวีดีโอได้แจ้งว่าที่ผ่านมาเป็นการทดสอบแอพเท่านั้น และล่าสุดได้เอาแอพลงจาก Store ก่อน เพื่อนำไปปรับปรุงและจะกลับมาใหม่พร้อมความสามารถและฟีเจอร์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ

ฟังกันได้ที่ช่วง 20 นาที 45 วินาที

Play video