Samsung Galaxy A15 Series มือถือราคาต่ำกว่าหมื่น ที่รอบนี้อัปเกรดสเปคมาให้น่าใช้ยิ่งกว่าเดิมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งจอ SuperAMOLED ความสว่างหน้าจอสูงสุด 800 nits เพิ่ม RAM มาให้เป็น 8GB รุ่น 4G ใช้ชิป Helio G99 ส่วนรุ่น 5G ใช้เป็น Dimensity 6100+ ใช้งานทั่วไปได้คุ้มเกินราคา เริ่มต้นมาเพียง 6,999 บาท เท่านั้น 

ดีไซน์สวยเทียบรุ่นเรือธง

ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy A15 Series จะอยู่ในหมวดมือถือราคาประหยัด แต่บอกว่าว่าคุ้มราคาตั้งแต่ดีไซน์แล้ว เพราะว่าได้คงความเรียบหรูแบบระดับท็อปเอาไว้ได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีการเปลี่ยนแปลงให้แตกต่างจากรุ่น Galaxy A14 Series นิดหน่อย 

สำหรับ Galaxy A15 ที่เราได้มารีวิวนั้น จะเป็นสี Blue Black ก็จะมีความเข้ม ๆ เท่ ๆ ฝาหลังของสีนี้จะเป็นแบบกระจกเงาสะท้อน ดูเรียบหรู สุขุม ส่วน Galaxy A15 5G ที่ได้มารีวิวจะเป็นสี Blue จะมีความฟ้าหม่น ๆ และฝาหลังของสีนี้จะมีความต่างกัน โดย Galaxy A15 5G จะมาเป็นวัสดุฝาหลังพลาสติกเคลือบแมทท์ (Matte) ส่วนรุ่น Galaxy 15 วัสดุฝาหลังพลาสติกเคลือบเงา (Glasstic) ซึ่งข้อสังเกตคือจะทำให้เกิดรอยนิ้วมือชัด ต้องคอยเช็ดบ่อย ๆ 

Galaxy 15 5G (ซ้าย) / Galaxy 15 (ขวา)

ส่วนดีไซน์ที่ถูกปรับใหม่ของซีรีส์นี้ให้ดูแตกต่างจาก Galaxy A14 Series ก็คือ ขอบฝาหลังที่เหลี่ยมและคมกว่าเดิม ขอบมุมมีเส้นแบ่งมีความชัดเจนมากขึ้น โมดูลกล้อง 3 ตัว จะนูนขึ้นมานิดหน่อย และเมื่อพลิกกลับมาที่ด้านข้างของตัวเครื่องจะเห็นว่ามุมของเครื่องไม่โค้งมนเหมือนเดิม ข้างเครื่องฝั่งที่อยู่ของปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะเป็นเนื้อสัมผัสใหม่ และขอบจอบางกว่าเดิม

ส่วนการใส่เคสต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้เคสร่วมกันได้เหมือนเดิม เพราะว่าดีไซน์และขนาดเหมือนกันทุกจุดแบบ 1 ต่อ 1 เวลาสั่งซื้อไม่ต้องกลัวสั่งผิดว่าเป็นของรุ่นธรรมดาหรือว่ารุ่น 5G กันแน่ 

สเปค Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G

สเปคGalaxy A15Galaxy A15 5G
จอจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว (1080×2340 พิกเซล)จอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว (1080×2340 พิกเซล)
ชิปMediaTek Helio G99Dimensity 6100+
RAM/ROM8GB+128GB8GB+256GB
กล้องหลัง3 ตัว3 ตัว
กล้องหลัก50MP (f/1.8), Auto Focus50MP (f/1.8), Auto Focus
กล้อง Ultrawide5MP (f/2.2)5MP (f/2.2)
กล้อง Macro2MP (f/2.4)2MP (f/2.4)
กล้องหน้า13MP (f/2.0)13MP (f/2.0)
ลำโพง11
แบตเตอรี่5,000 mAh5,000 mAh
รองรับชาร์จไว25W25W

ได้จอสวย SuperAMOLED ทั้งคู่

ในรอบนี้ Samsung ได้มีการอัปเกรดจอใหม่ จากเดิมใช้เป็น PLS LCD มาใช้เป็น SuperAMOLED ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล ให้สีและรายละเอียดที่สวยมากขึ้นกว่าเดิม ขนาด 6.5 นิ้ว รีเฟรชเรทลื่น 90Hz สว่างสู้แสงแดด 800 นิต และดีไซน์กล้องหน้าแบบหยดน้ำทั้งคู่เลย แน่นอนว่ารับชมคอนเทนต์ได้แบบเต็มตา สีสวยสด คมชัดทุกรายละเอียดใช้ได้เลยล่ะ และเมื่อชมคลิปบน Youtube จะสามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดถึง 1440p@60fps  

กล้องหลัง 50MP ถ่ายชัด ถ่ายสนุกทุกองศา 

ทั้ง Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 3 ตัว กล้องหลักความละเอียดอยู่ที่ 50MP, กล้อง Ultrawide 5MP และ กล้อง Macro 2MP เก็บภาพได้ครบทุกแบบไม่ว่าจะใกล้ ไกล หรือมุมกว้าง ซึ่งภาพที่ได้จากกล้องหลักทั้ง 2 รุ่นก็จะมีประมาณนี้

ตัวอย่างภาพของ A15 5G

ตัวอย่างภาพของ A15

ถึงแม้ว่าทั้งสองรุ่นจะให้กล้องความละเอียดมาอยู่ที่เท่ากัน แต่ภาพที่ถ่ายออกมากลับไม่เหมือนกันซะทีเดียว ในเรื่องของสีสันภาพ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทั้งคู่ใช้ชิปประมวลผลที่แตกต่างกัน ส่วนวิดีโอที่ได้จากกล้องหลักก็จะประมาณนี้เลยจ้า 

ตัวอย่างวิดีโอของ A15 5G

ตัวอย่างวิดีโอของ A15

ส่วนภาพจากกล้อง Ultrawide ทั้งสองรุ่นถือว่าทำออกมาได้ดีตามที่ควรจะเป็นเลย คือ ได้ภาพมุมกว้างที่รายละเอียดมาครบ ไม่แตก ไม่หลุด ส่วนเฉดสีที่ได้จากกล้องนี้จะไม่ได้ต่างจากกล้องหลักมากนัก ส่วนกล้อง Macro ก็สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ออกมาได้เห็นรายละเอียดโอเคเลย

ตัวอย่างภาพมุมกว้างของ A15 5G

ตัวอย่างภาพมุมกว้างของ A15

ตัวอย่างภาพ Macro ของ A15 (ซ้าย) และ A15 5G (ขวา)

โหมด Protrait

สำหรับโหมด Protrait ก็ถ่ายออกมาได้ดีไม่แพ้กัน โดยตัวเครื่องจะมีให้เลือกปรับระดับความเบลอได้ตั้งแต่ 1 – 7 โดยเราได้ทำการทดสอบด้วยการถ่ายในระดับ 3, 5 และ 7 พื้นหลังของภาพที่ได้ก็จะมีความเบลอประมาณนี้เลย จากที่ดูรูปคือเบลอหลังมีความละลายอยู่นะ ส่วนตัวคือชอบตรงจุดนี้เลยล่ะ

ตัวอย่างภาพของ A15 5G

ตัวอย่างภาพของ A15

Night Mode

ทั้งคู่ได้มี Night Mode มาให้ ซึ่งจะไม่ได้อยู่ในหน้าหลักของแอปกล้อง จะต้องกดเข้าไปเลือกเพิ่มเติมอีกที ส่วนภาพที่ได้จากการถ่ายกลางคืนรู้สึกว่าเมื่อถ่ายในที่สว่าง ๆ ตัวมือถือสามารถดึงแสงออกมาได้ดี มีความฟุ้งจากแสงที่รบกวนเล็กน้อย

ตัวอย่างภาพของ A15 5G

ตัวอย่างภาพของ A15

กล้องหน้า 13MP ถ่ายแบบเปิด Beauty ได้เริ่ด

สำหรับสายเซลฟี่ก็ไม่มีผิดหวัง เพราะว่าในโหมด Beauty ของซีรีส์นี้เค้าปรับภาพได้ดีเอาเรื่อง ในการถ่ายภาพธรรมดาก็คือออกมาปกติ เห็นสิวและริ้วรอยความเหี่ยวของใต้ตาชัด และเมื่อเปิด Beauty ตามที่มือถือได้ตั้งไว้ ตอนที่ถ่ายรูปออกมาคือผิวเนียนกริบ หน้าเรียวยาว และแอบเห็นว่าเมื่อถ่ายภาพเสร็จตัวมือถือมีการเกลี่ยความสว่าง ปรับนู่นนี่นิดหน่อยให้ด้วย 

ตัวอย่างภาพของ A15 5G

ตัวอย่างภาพของ A15

ตัวอย่างวิดีโอของ A15 5G

ตัวอย่างวิดีโอของ A15

ส่วนการเซลฟี่ในที่มืดนั้น ออกมาเห็นรายละเอียดอยู่นะ แปลว่าเวลาไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนก็หยิบออกมาถ่ายรูปได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะมองไม่เห็นหน้า แต่…ถ้าอยู่ในที่มืดสนิทขอไม่แนะนำ เพราะแสงแฟลชจากหน้าจออาจจะสู้ความมืดไม่ไหว 

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืนของ A15 (ซ้าย) และ A15 5G (ขวา)

ชิปต่าง แต่เล่นเกมได้สบาย ๆ ทั้งคู่ 

ทดสอบเล่น Subway Surfers

Galaxy A15 5G จะใช้เป็นชิป MediaTek Dimensity 6100+ สำหรับการเล่นเกมที่ต้องใช้การตอบสนองไว ๆ อย่าง Subway Surfers บอกเลยว่าสบาย ลื่นไหลไม่มีสะดุด เล่นต่อไปเรื่อย ๆ 3 ตาติดกัน ก็ไม่ได้พบอาการกระตุกแต่อย่างใดค่ะ ส่วนการใช้ Galaxy A15 ที่ใช้ชิป MediaTek Helio G99 ในการเล่น Subway Surfers ก็ทำได้สบายเหมือนกัน กระโดดเก็บเหรียญหรือสไลด์ซ้ายขวาก็ไม่ติด

ทดสอบเล่น Genshin Impact 

ในการทดสอบความแรงก็ต้องมาทดสอบ Genshin Impact นี่แหละ ซึ่ง Galaxy A15 5G ในตอนที่เปิดเกมมาค่าเริ่มต้นอยู่ที่ Lowest จากนั้นได้ลองเล่นไปมาก็รู้สึกว่าลื่นไหล เลื่อนดูวิวไปมาภาพไม่กระตุก ไม่เบลอ ไม่แตก จากนั้นได้ลองปรับไปที่ Hight 30fps พบว่าตอนเล่นไปได้ประมาณ 5 นาที จะมีความหน่วงนิดหน่อย พอตีมอนส์ได้ จากนั้นได้ลองปรับเฟรมเรทไปที่สูงสุดเลยอยู่ที่ 60fps ซึ่งก็ทำให้ตอนวิ่งมีการกระตุกเล็กน้อย

ส่วนการใช้ Galaxy A15 ลองเล่น Genshin Impact ก็พบว่า ในตอนที่เปิดเกมมาค่าเริ่มต้นอยู่ที่ Lowest เช่นกัน หลังจากที่ลองเล่นสิ่งที่เห็นได้ชัดเลย คือในขณะที่วิ่งหน้าจอจะมีความหนืดกว่ารุ่น 5G เล็กน้อย จากนั้นได้ลองปรับไปที่ Hight 30fps และได้ลองเล่นไปแค่ไม่กี่นาทีก็เจอความหนืดที่เพิ่มขึ้นมาเป็นระยะ ๆ และยิ่งเล่นนานก็ยิ่งหน่วง แนะนำให้เล่นที่ค่าเริ่มต้นจะดีที่สุด

ลำโพงเดี่ยวก็ให้เสียงกระหึ่มได้

ทั้งสองเครื่องได้ให้ลำโพงมาเพียง 1 ตัว แต่ก็เพียงพอที่จะรับชมคอนเทนต์ได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ จากที่ทดสอบเปิดเสียงทั้งเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง พบว่าเมื่ออยู่ในห้องคนเดียว เปิดเสียงเพียงแค่ 30% ก็ได้อรรถรสแล้ว และเมื่อลองเปิดเสียงไปที่ 100% ก็พบว่าเสียงดังกระหึ่มเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่เนื้อเสียงไม่ได้มีเบสแน่นสักเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วโอเคเลย

แบต 5000mAh ชาร์จไว 25W

Samsung Galaxy A15 Series ได้ให้แบตเตอรี่มาเท่ากันอยู่ที่ 5000mAh และรองรับชาร์จไวที่มากขึ้นกว่าเดิมเป็น 25W ซึ่งจากที่ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ปุ๊บก็ได้ถอดสายและออกไปลุยปั๊บ และได้ออกไปใช้งานนอกบ้าน ทั้งถ่ายรูปที่คาเฟ่, นั่งเปิดหนังดูเพลิน ๆ ระหว่างรอที่บ้านทำธุระ และกลับมาเล่นเกมต่อ

Galaxy A15 5G หลังจากที่แบตเต็ม 100% ก็ได้ใช้งานไปทั้งสิ้น 1 วัน 4 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดเหลือ 10% ส่วน Galaxy A15 หลังจากที่แบตเต็ม 100% ก็ได้ใช้งานไปทั้งสิ้น 1 วัน 3 ชั่วโมง (ห่างกันชั่วโมงเดียว) แบตเตอรี่ลดเหลือ 16%

สรุปการใช้งาน

หลังจากที่ลองใช้ 2 เครื่องพร้อมกันแบบตีคู่กันไปเลย พบว่าทั้งคู่มีความครบเครื่องอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่ารอบนี้ได้อัปเกรดสเปคหลาย ๆ อย่างให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งดีไซน์ จอ แบตเตอรี่ และอีกมากมาย ถือว่าเป็นมือถือที่คุ้มค่ากับราคาตัวนึงเลยล่ะ โดยสามารถสรุปเป็นข้อดีและข้อสังเกตของแต่ละรุ่นได้ ดังนี้

Galaxy A15 5G

ข้อดี

  • จอสวย ได้ SuperAMOLED
  • จอใหญ่ดูคอนเทนต์ได้เต็มตากว่าเดิม
  • แบตให้เยอะ ใช้งานได้ตลอดวัน
  • อัปเกรดดีไซน์ใหม่ ดูพรีเมี่ยม
  • ราคาประหยัด ไม่ถึงหมื่นแต่ใช้ได้ครบ

ข้อสังเกต

  • ลำโพงเดี่ยว
  • ไม่กันน้ำ
  • ตัวเครื่องหนาและหนักนิดหน่อย

Galaxy A15

ข้อดี

  • จอสวย ได้ SuperAMOLED เหมือนรุ่น 5G
  • แบตให้เยอะ ใช้งานได้ตลอดวัน
  • อัปเกรดดีไซน์ใหม่ ดูพรีเมี่ยม
  • เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ราคาประหยัด

ข้อสังเกต

  • ลำโพงเดี่ยว
  • ใช้งานได้สูงสุด 4G
  • วัสดุฝาหลังพลาสติกเคลือบเงา ทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
  • ไม่กันน้ำ
  • ตัวเครื่องหนาและหนักนิดหน่อย

ราคาจำหน่าย

Samsung Galaxy A15 4G, Galaxy A15 5G วางจำหน่ายในไทยแล้ววันนี้ โดยมีตัวเลือกสี Blue และ Blue Black และมีราคาความจุของแต่ละรุ่นต่างกัน ดังนี้

  • Samsung Galaxy A15 4G วางขายในความจุเดียว คือ 8GB + 128GB ราคา 6,999 บาท
  • Samsung Galaxy A15 5G วางขายในรุ่นความจุเดียว คือ 8GB + 256GB ราคา 8,999 บาท