วิศวกรอาวุโสจากทีม System LSI ของซัมซุง ให้สัมภาษณ์กับโชซุนอิลโบ สื่อยักษ์ใหญ่ในประเทศบ้านเกิด เล่าว่าพนักงานในแผนกที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก ในการพัฒนาชิปให้เสร็จตามกำหนด ด้วยข้อจำกัดใหญ่คือ ‘กฎหมายจำกัดเวลาการทำงาน’ ของเกาหลีใต้ ซึ่งเจ้าตัวมองว่าข้อจำกัดนี้ ส่งผลให้ซัมซุงแข่งขันกับคู่แข่งได้ยาก
เกาหลีใต้มีกฎหมายจำกัดเวลาการทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากนับรวมการทำงานล่วงเวลา และซัมซุงเอง ก็มีนโยบายบังคับให้พนักงานในแผนก System LSI ทำงานครบตามกรอบเวลานี้อยู่แล้ว
การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เริ่มทวีความเข้มขึ้นในช่วงหลัง จากการมาของยุค AI ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงหรือ HBM จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด โดยซัมซุงมีคู่แข่งที่สำคัญคือ SK Hynix จากชาติเดียวกัน
ทั้งนี้ อาจมีคำโต้แย้งว่า SK Hynix สามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ภายใต้เงื่อนไขด้านเวลาแบบเดียวกับซัมซุง แต่โชซุนอิลโบชี้ให้เห็นว่า 2 กรณีนี้มีความแตกต่างกันอยู่ เหตุผลคือ ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงมีหลายสาขา เทียบไม่ได้เลยกับ SK Hynix ที่โฟกัสเฉพาะชิปหน่วยความจำ
หรือหากหันมาดูที่ธุรกิจชิปสำหรับมือถือและธุรกิจโรงหล่อ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน เพราะซัมซุงมีจำนวนพนักงานน้อยกว่า Qualcomm, MediaTek และ TSMC ราว 10 ถึง 20 เท่า ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้ มีวิศวกรเก่งอย่างเดียวไม่พอ จำนวนพนักงานที่เพียงพอก็สำคัญไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่พนักงานทุกคนจะเห็นด้วยกับความเห็นของวิศวกรที่ให้สัมภาษณ์กับโชซุนอิลโบรายนี้เสมอไป เพราะบางส่วนก็มองว่านโยบายบังคับทำงานเต็มโควตา 52 ชั่วโมงเพียงอย่างเดียวไม่อาจส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จได้
อีกทั้งแรงกดดันจากเบื้องบนยังทำให้พนักงานบางคนถึงขั้นยอมทำงานเกินเวลาแม้จะไม่ได้รับค่าจ้าง ด้วยความกังวลว่าหากงานเสร็จไม่ทันอาจนำไปสู่ปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง เช่นถูกลงโทษหรือไล่ออก
ที่มา : The Chosun Daily
Comment