Flex Mirror เป็นโปรเจกต์ระดมทุนใน Kickstarter โดยมีสินค้าเป็นจอมอนิเตอร์พกพาขนาดบางเฉียบที่ใช้พาเนลจาก Samsung OLED รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายทั้งบน Windows PC และ Android ซึ่งตัวโปรเจกต์ก็ได้ผ่านการระดมทุนสำเร็ว และกำลังจัดส่งสินค้าสำหรับผู้ร่วมระดมทุนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และล่าสุดเหมือน Samsung อาจจะสนใจอะไรบางอย่างใน FlexMirror เพราะได้จดลิขสิทธิ์ภาพทางการค้าของโปรเจกต์นี้ใน EU เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

FlexMirror อาจได้ขายภายใต้แบรนด์ Samsung

มีบุคคลตาดีไปพบข้อมูลว่า Samsung Display ได้ยื่นจดทะเบียนภาพคู่มือการใช้งาน FlexMirror กับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรป (EUIPO) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยภายในฐานข้อมูลก็ได้แนบคู่มือการเชื่อมต่อตัวจอ FlexMirror เข้ากับอุปกรณ์แบบไร้สาย ซึ่งนอกจากนี้ Samsung ยังได้ยื่นจดภาพโลโก้ของ FlexMirror ด้วย

แต่อย่างไรก็ตามจอมอนิเตอร์ FlexMirror ที่ผ่านการระดมทุนใน Kickstarter มีบริษัท SAMT เป็นเจ้าของโปรเจกต์ และมีฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีใต้เหมือนกัน แถมบนเว็บไซต์ของโปรเจกต์ยังใช้โลโก้เดียวกันกับที่ Samsung ยื่นจดทะเบียนที่ EUIPO นอกจากนี้ฟอนต์ต่าง ๆ ที่ใช้ในภาพโปรโมตสินค้ายังเป็นฟอนต์ซิกเนเจอร์ของ Samsung ด้วย จึงมีความเป็นไปได้ว่า SAMT อาจมีความเกี่ยวข้องกับ Samsung อยู่เนือง ๆ

การที่ Samsung เป็นผู้ยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา อาจเป็นการช่วยเปิดตลาดให้ตัว FlexMirror ผลิตและวางจำหน่ายจริงในวงกว้าง ภายใต้แบรนด์ของ Samsung ก็เป็นได้ เพราะ Flex Mirror เพิ่งเริ่มจัดส่งให้ผู้ร่วมระดมทุนเท่านั้น ยังไม่เปิดขายเพิ่มเติมแบบ Public ในตอนนี้

FlexMirror น่าสนใจอย่างไร

FlexMirror เป็นจอมอนิเตอร์ขนาดพกพา 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD บนอัตราส่วน 16:9  มาพร้อมบอดี้บางเฉียบเพียง 6.7 มิลลิเมตร มีน้ำหนักไม่ถึง 600 กรัม พกสะดวกใส่กระเป๋าได้ เพราะบางเบาพอ ๆ กับแท็บเล็ต ตัวพาเนลจอใช้ Samsung OLED ขอบเขตสี DCI-P3 ครอบคลุม 100% สว่างสูงสุด 390nits รองรับ Multi Touch 10 จุด ติดตั้งมาพร้อมกับลำโพง 4 ตัว มีแบตเตอรี่ในตัว 7,000 mAh ใช้ติดต่อกันได้นาน 5 ชั่วโมง

นอกจากนี้ตัวจอพกพายังรองรับการเชื่อมต่อกับ Windows PC และมือถือ Android แบบไร้สาย “อย่างแท้จริง” รองรับทั้งการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 5 และ Bluetooth 4.2 นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน DeX Mode เมื่อเชื่อมต่อกับมือถือ Samsung Galaxy ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ยังมีพอร์ต USB-C 2 ช่องให้อยู่ซึ่งจะรองรับทั้ง iPhone, iPad, Mac, Nintendo Switch รวมถึงยังรองรับการเชื่อมต่อกล้อง DSLR เพื่อใช้เป็นจอดูภาพด้วย

เบื้องต้น FlexMirror ที่วางจำหน่ายให้นักระดมทุน 300 เครื่องแรก มีราคาอยู่ที่ 359 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 12,500 บาท (ยังไม่รวมภาษี) ในอนาคตถ้าได้วางขายแบบวงกว้างจริง ๆ น่าจะมีการปรับราคาขายเป็นราคาเต็มที่ 600 เหรียญฯ หรือราว ๆ 20,914 บาทไม่รวมภาษี แฟน Samsung คนไหนที่อยากได้ไอเทมมาเสริม Ecosystem ต้องรอติดตามให้ดี

 

ที่มา:  TheGoAndroid, KickStarter, EUIPO (1) (2)