Samsung เพิ่งจะเปิดตัว Samsung Galaxy A5 และ Galaxy A3 ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โดยเป็นมือถือตระกูลใหม่ที่ผลิตโดยการใช้โลหะแบบ Unibody ทั้งตัวเพื่อความพรีเมียม และยังเป็นมือถือที่บางและเบาที่สุดเท่าที่ Samsung เคยทำมา แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้ เมื่อ Samsung ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการผลิตมือถือที่เป็นโลหะ Unibody มาก่อน ทำให้ผลิตได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุน่าจะมาจากเครื่องจักรยังมีกำลังผลิตไม่พอหรืออาจจะมีปัญหาที่ Supplier ของ Samsung เองไม่สามารถส่งของได้ทันตามกำหนด ดังนั้น Galaxy A5 และ A3 ล็อตแรกจะมีจำนวนจำกัดและเริ่มวางจำหน่ายในเอเชียไปก่อน จนกว่า Samsung จะหาทางแก้ปัญหาได้

จริงๆแล้วมีการคาดการณ์ไว้ด้วยว่า เมื่อ Samsung สามารถทำมือถือที่เป็นโลหะแบบ Unibody ได้แล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่เรือธงตัวต่อไปอย่าง Samsung Galaxy S6 จะใช้วัสดุเป็นโลหะแบบ Unibody เหมือนกัน แต่ถ้า Samsung ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการผลิตมือถือแบบโลหะได้ เราก็อาจจะไม่ได้เห็น Samsung Galaxy S6 ที่เป็นโลหะก็ได้ 

นอกจากปัญหาการผลิตได้ช้า Galaxy A5 และ A3 ยังพบปัญหาความแรงของสัญญาณโทรศัพท์น้อยกว่าปกติ จากการทดสอบเทียบกับ Samsung Galaxy S5 ที่เป็นพลาสติกทั้งตัว ซึ่งปัญหานี้จะคล้ายๆกับ ปัญหาสัญญาณอ่อนของ iPhone 4 หรือ Antennagate ที่หลายๆคนอาจจะคุ้นหูกันอยู่ สาเหตุมาจากการนำเสาอากาศมาไว้นอกเครื่อง เพราะวัสดุที่เป็นโลหะนั้นรบกวนการจับสัญญาณ แต่พอคนใช้ถือมือถือในมือกลับทำให้สัญญาณอ่อนลง ซึ่ง Galaxy A5 และ A3 ก็อาจจะเจอปัญหาแบบเดียวกัน ตามรูปการทดสอบเปรียบเทียบด้านล่าง

จากรูปเรียงจากซ้ายไปขวาจะเป็น Galaxy A3, Galaxy A5 และ Galaxy S5 ตามลำดับ เราจะเห็นว่าความแรงสัญญาณของ Galaxy S5 นั้นอยู่ที่ -82dBm ซึ่งแรงกว่า Galaxy A3 และ A5 ที่ระดับ -92 dBm และ -93 dBm ถ้าดูที่ขีดสัญญาณก็ต่างกัน 1 ขีด ซึ่งอาจจะดูไม่ใช่เรื่องซีเรียสมากมายนัก แต่ก็ยืนยันได้ว่า วัสดุที่เป็นโลหะนั้นมีผลต่อการจับสัญญาณของเสาอากาศจริงๆ อย่างไรก็ตามต้องรอดูว่าเครื่องที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทย(ถ้ามี) จะพบปัญหานี้มากน้อยแค่ไหนนะครับ

 

ที่มา: PhoneArena