Samsung Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G สองมือถือตระกูล A ที่หลายๆ คนรอคอย รอบนี้มาพร้อมราคาโดนใจในสเปกแบบคุ้มๆ เหมือนเช่นเคย ได้จอ Super AMOLED ลื่นไหล 120Hz กล้องหลัก 50MP มีกันสั่น OIS มาให้ รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ส่วนดีไซน์ก็อัปเกรดมาใหม่น่าใช้กว่าเดิม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 11,999 บาท
ดีไซน์สวย พร้อมลุยทุกสถานการณ์
มาดูที่รุ่นแรกอย่าง Galaxy A35 5G ก่อน ซึ่งเครื่องที่เราได้มาเป็นสีม่วง Awesome Lilac มาในดีไซน์เอกลักษณ์ของปี 2024 คือมุมเครื่องโค้งมนในขณะที่ขอบเครื่องออกเหลี่ยม แต่ว่าได้อัปเกรดฝาหลังใช้เป็นกระจก Gorilla Glass 7 (จากเดิมเป็นพลาสติก) ดูพรีเมียมน่าใช้มากขึ้น กรอบของตัวเครื่องมาในสีเดียวกันกลมกลืนไปกับตัวเครื่อง
ส่วน Galaxy A55 5G ที่เราได้มาจะเป็นสีฟ้า Awesome Iceblue เป็นฟ้าแบบพาสเทล ละมุนๆ มองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าทั้งสองเครื่องนี้มีดีไซน์แบบเดียวกันเลย แต่พอมาได้สัมผัสจะรู้ถึงความต่างอย่างชัดเจน ตรงที่เหลี่ยมของตัวเครื่อง Galaxy A55 5G จะมีความคมกว่า ฝาหลังจะเป็นกระจกแบบเดียวกัน แต่กรอบเครื่องจะใช้เป็นวัสดุโลหะ จะทำให้ดูพรีเมียมและแข็งแรงขึ้นอีกขั้น
ทั้งคู่ให้กล้องหลังให้มาทั้งหมด 3 ตัว เป็นเลนส์กล้องเพียวๆ นูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย ด้านขวาของตัวเครื่องมี Key Island ดีไซน์ให้นูนกว่าตัวเครื่องเล็กน้อย เพื่อวางปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ทำให้กดได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังทำให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวกมากขึ้นด้วย ส่วนด้านล่างของเครื่องจะเป็นไมโครโฟน, ลำโพง และพอร์ตชาร์จ
จอใหญ่ สว่างสู้แดดได้
ทั้งสองรุ่นนี้ใช้เป็นพาเนลแบบเดียวกัน คือ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340) รีเฟรชเรตแบบลื่นๆ 120Hz แต่ปรับได้แค่ระหว่าง Standard 60Hz และแบบ Adaptive ที่จะปรับรีเฟรชเรตให้อัตโนมัติ
หน้าจอให้ความสว่างสูงสุด 1,000 nits ใช้งานกลางแจ้งก็ยังเห็นได้ชัด ไม่ต้องเพ่งตา หรือว่าเอามือบังหน้าจอ มาในดีไซน์แบบรูเจาะ (Punch Hole Display) เช่นเดียวกัน
ลำโพงคู่ ชมคอนเทนต์แบบสะใจ
อีกสิ่งเหมือนกันของสองรุ่นนี้ก็คือ ให้ลำโพงคู่ รองรับ Dolby Atmos จะดูซีรีส์ หรือเล่นเกมก็ไม่ติด เสียงดังฟังชัด ซึ่งเราได้ทำการทดสอบเปิดลำโพง 50% เสียงที่ได้คือดังกังวาน ได้ยินเสียงแบบรอบด้าน ซึ่งในการใช้งานดูหนัง/ฟังเพลงทั่วไปบนมือถือราคานี้ถือว่าคุ้มใช้ได้เลยล่ะ
กันน้ำ IP67
ทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ได้ถูกออกแบบมาให้ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 ก็คือสามารถทนน้ำจืดได้ที่ความลึก 1 เมตร เป็นเวลาครึ่ง ชม. ใช้งานโดนฝนหรือโดนน้ำสาดก็ไม่ต้องกังวล แต่ไม่แนะนำให้เอาไปถ่ายรูปเล่นใต้น้ำนะคะ ส่วนความต่างของทั้ง 2 รุ่น จะเป็นอย่างไร ก็เลื่อนลงมาอ่านที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ
Samsung Galaxy A55 5G
กล้องหลัก SONY IMX906 มีกันสั่น OIS รองรับวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหลัก และ Ultrawide
สำหรับกล้องของ Galaxy A55 5G ใช้เป็น SONY IMX906 ความละเอียด 50MP ขอบอกเลยว่าถ่ายภาพนิ่งได้สวยฉ่ำ คมชัดและเก็บรายละเอียดเล็กๆ ได้ดี ถ่ายภาพย้อนแสงได้สวยจึ้งแบบหน้าไม่มืดไม่หมอง และแน่นอนว่ารุ่นนี้ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ไม่มีสั่นไหว เพราะว่าเค้าให้กันสั่น OIS มาให้ด้วย
หากเราอยากจะได้ช็อตภาพสวยๆ จากวิดีโอก็สามารถแคปได้จากวิดีโอในแกลเลอรีได้เลย เค้ามีปุ่มให้กด สะดวกมากๆ ภาพที่ได้คมชัด ไม่เบลอ
ภาพด้านล่าง คือภาพที่เราแคปจากวิดีโอ 4K ออกมา คือประทับใจมาก สีสด คมชัด เหมือนไฟล์วิดีโอ 4K ต้นฉบับที่ถ่ายไว้เลย สามารถนำไปโพสต์ลงโซเชียลได้โดยไม่ต้องแต่งเพิ่ม สะดวกสุดๆ
ส่วนนี่คือวิดีโอที่ครอปออกมาจากวิดีโอ 4K ต้นฉบับ ครอปสัดส่วนให้แคบลง เพื่อโฟกัสตัวนางแบบ คุณภาพก็ยังคมชัด
มาต่อกันที่กล้อง Ultrawide รุ่นนี้ให้ความละเอียดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12MP และเก็บภาพได้กว้างกว่า Galaxy A35 5G และสีของภาพที่ได้จะมีความคมเข้มกว่าเล็กน้อย ส่วนการเก็บรายละเอียดของกล้องทำออกมาได้ดี เก็บได้ครบถ้วน สีไม่มีเพี้ยนโดด แถมกล้อง Ultrawide ยังรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ได้ด้วย ถูกใจสาวๆ ที่ชอบทำคอนเทนต์แน่นอน
พาร์ทของภาพถ่ายบุคคล ต้องบอกว่ารุ่นนี้เก็บขอบได้ดีและละมุนอยู่เหมือนกับ Galaxy A35 5G เลย และที่น่าทึ่งกว่าคือถ่ายภาพย้อนแสงออกมาได้ดีมาก ไม่ต้องปรับเบลอเยอะก็ถ่ายออกมาสวย
ส่วนกล้อง Macro ให้มาที่เท่ากันอยู่ที่ 5MP เก็บภาพระยะใกล้ได้ชัดๆ เช่นเดียวกัน ภาพที่ได้ก็จะประมาณนี้ ซึ่งจะมีสีและความคมของรายละเอียดภาพที่ต่างจากรุ่น Galaxy A35 5G เล็กน้อย
สำหรับการถ่ายภาพในโหมดกลางคืน จะเห็นความต่างของภาพในโหมดนี้อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับรุ่น Galaxy A35 5G เพราะว่ารุ่นนี้ถ่ายภาพกลางคืนออกมาได้ชัดแจ๋วทั้งสีและรายละเอียดของภาพเลย ไม่ว่าพื้นที่ที่นำมือถือไปถ่ายจะมีแสงน้อยหรือเกือบมืด
กล้องหน้า 32MP จะถ่าย 4K หรือเซลฟี่ก็ออกมาได้สวยจึ้ง
รุ่นนี้ได้ให้ความละเอียดของกล้องหน้ามาที่ 32MP เซลฟี่ออกมาได้สวยชัดทุกรายละเอียด แต่ถ้ายังจึ้งไม่พอ เค้าก็มีโหมด Beauty มาให้ปรับแต่งกันเพิ่ม พร้อมทั้งรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดแบบ 4K และมี Auto framing มาให้ด้วย
ชิป Exynos 1480 พร้อมระบบระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
เกมทั่วไปที่ทุกคนนิยมเล่นกันอย่าง ROV เราได้ลองทดสอบเล่นด้วยค่า Default ก็สามารถเล่นได้ลื่นไหล สบายๆ จนจบตาเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ได้ลองทดสอบด้วยเกม Genshin Impact กันต่อ ซึ่งเราก็ได้ทดสอบเล่นด้วยกราฟิก Default 30FPS เช่นเดียวกันก็คือสบายๆ แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องของความร้อน ด้วยความที่รุ่นนี้ได้รับการอัปเกรดขนาดของ Vapor Chamber แผงระบายความร้อนให้ใหญ่ขึ้นถึง 74% ทำให้ตอนเล่น Genshin Impact ได้ประมาณ 10 นาที ตัวเครื่องเริ่มอุ่นและอุณหภูมิคงที่จนจบเกมเลย ไม่ร้อนลวกมือ และอุณหภูมิตัวเครื่องถือว่าลดลงได้เร็วเลยทีเดียว
สเปก Samsung Galaxy A55 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- CPU : Exynos 1480
- RAM : 8GB / 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก เลนส์ SONY IMX906 50MP (f1.8) กันสั่น OIS
- กล้อง Ultrawide 12MP (f2.2)
- กล้อง Macro 5MP (f2.4)
- กล้องหน้า : 32MP (f2.2)
- เซนเซอร์ : Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing, สแกนนิ้วมือใต้จอ
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 25W
- ระบบ : Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6.1
- ขนาด/น้ำหนัก : 161.1 x 77.4 x 8.2 มม. / 213 กรัม
ข้อดี
- จอใหญ่เต็มตา
- ดีไซน์พรีเมียมและแข็งแรงขึ้น ด้วยเฟรมเครื่องวัสดุโลหะ
- จอสว่างสู้แดด
- ตัวเครื่องจับถนัดมือ
- ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ทั้งกล้องหลัก, กล้อง Ultrawide และกล้องหน้า
- กันน้ำกันฝุ่น IP67
- ลำโพงคู่
- กล้องหน้าความละเอียดสูง
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ใช้งานได้นาน
- ราคาคุ้มค่ากับสเปกที่ได้
ข้อสังเกต
- เครื่องไม่บาง
- ขอบจอหนา
Samsung Galaxy A35 5G
กล้องหลัก 50MP มีกันสั่น OIS รองรับวิดีโอ 4K
สำหรับกล้องของรุ่นนี้ใช้เป็น SONY IMX882 ความละเอียด 50MP ถ่ายวิดีโอ 4K ดี ไม่มีสั่น โดยเราได้ลองนำไปถ่ายวิดีโอระดับ 4K แล้วนำมาแคปเป็นรูปดู บอกเลยว่าคมชัดมากแม้ว่าวัตถุที่เราถ่ายจะเคลื่อนที่เร็วก็ตาม และยังช่วยให้ได้ภาพช่วงโมเมนต์ที่ปกติถ้ากดถ่ายแบบภาพนิ่งอาจจะเก็บภาพได้ไม่ทันด้วย
ตัวอย่างวิดีโอ 4K ด้านบนที่ถูกครอปสัดส่วนแล้ว
ในขณะเดียวกัน เราสามารถครอปสัดส่วนวิดีโอได้ตามต้องการ โดยที่วิดีโอของเราก็ยังคงคมชัดเช่นเดิม
ไม่ได้เก่งแค่งานวิดีโอ แต่ถ่ายภาพนิ่งก็สวย เรียกได้ว่าเอาอยู่ในทุกสภาพแสงเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพแสงจ้าทั่วไป หรือภาพย้อนแสง นอกจากนี้ยังสามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 2 เท่าด้วย ซึ่งภาพที่ได้ก็จะสวยสดประมาณนี้เลย
มาที่กล้อง Ultrawide รุ่นนี้ให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 8MP เมื่อได้ทดสอบถ่ายภาพออกมา พบว่ากล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้ดี ครบถ้วน สีไม่มีผิดเพี้ยนแต่ว่าจะดึงสีเหลืองออกมานิดหน่อย แต่ภาพโดยรวมคือเป็นธรรมชาติใช้ได้
ส่วนภาพถ่ายบุคคล เราได้ลองปรับการเบลอหลังไปที่ระยะ 4 และระยะ 7 พบว่าในระยะที่ 4 ภาพเบลอกำลังดี ตัดขอบได้โอเคเลย แต่ถ้าจะให้เบลอแบบชัดๆ แนะนำให้ปรับที่ระดับ 7 ก็จะได้ภาพเบลอสะใจแบบนี้เลย
กล้อง Macro 5MP มีไว้เก็บภาพระยะใกล้แบบชัดๆ เมื่อลองนำไปถ่ายภาพนางแบบประจำออฟฟิศใกล้ๆ ก็คือเห็นเป็นเส้นขนชัดๆ หรือจะลองถ่ายพื้นผิววัตถุทั่วไปก็เห็นรายละเอียดครบๆ
มาที่พาร์ทการถ่ายภาพในโหมดกลางคืนกันบ้าง ซึ่งเราได้นำ Samsung Galaxy A35 5G ออกไปถ่ายภาพกลางคืนในพื้นที่ที่มีแสงน้อย มีเพียงแค่ไฟทางทั่วไป ภาพที่ได้คือสว่างชัดเห็นวัตถุทุกอย่างในภาพ กล้องสามารถดึงแสงรอบข้างได้ดี แต่ว่าจะมีความฟุ้งๆ เล็กน้อย
กล้องหน้า 13MP รองรับวิดีโอ 4K ด้วย
รุ่นนี้ได้ให้กล้องเซลฟี่มาอยู่ที่ 13MP สามารถถ่ายภาพออกมาได้คมชัด สีของภาพเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดึงสีออกมาให้ดูเวอร์จนเกินไป มีโหมด Beauty ให้ครบครัน เอาไว้ปรับเบลอผิวเนียน ๆ และที่สำคัญกล้องหน้ายังรองรับวิดีโอความละเอียดแบบ 4K และมี Auto framing มาด้วย
ชิป Exynos 1380 เล่นเกมทั่วไปได้ลื่นไหล
Samsung Galaxy A35 5G ใช้ชิป Exynos 1380 ซึ่งเราได้ทำการทดสอบด้วยการเล่นเกมทั่วไปที่ทุกคนนิยมเล่นกันอย่าง ROV โดยได้ทดสอบด้วยการเล่นแบบค่าทั่วไปตามที่มือถือตั้งให้ ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลจนจบตา ไม่มีกระตุก ไม่มีเด้งออกกลางคัน และส่วนเกมถัดมาที่เล่น ก็คือเกมที่กราฟิกโหดๆ อย่าง Genshin Impact ซึ่งในตอนเล่นได้ปรับตามค่า Default 30FPS ก็สามารถเล่นได้ลื่นเช่นเดียวกัน หมุนฉากไปมาภาพไม่แตก วิ่งไปมาไม่มีหน่วง ตีมอนส์ได้ตามปกติ
สเปก Samsung Galaxy A35 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- CPU : Exynos 1380
- RAM : 8GB
- ความจุ : 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก SONY IMX882 50MP (f1.8) กันสั่น OIS
- กล้อง Ultrawide 8MP (f2.2)
- กล้อง Macro 5MP (f2.4)
- กล้องหน้า : 13MP (f2.2)
- เซนเซอร์ : Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing, สแกนนิ้วมือใต้จอ
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 25W
- ระบบ : Android 14 ครอบด้วย One UI 6.1
- ขนาด/น้ำหนัก : 161.7 x 78.0 x 8.2 มม. / 209 กรัม
ข้อดี
- จอใหญ่เต็มตา
- จอสว่างสู้แดด
- ตัวเครื่องจับถนัดมือ
- ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัก
- กันน้ำกันฝุ่น IP67
- ลำโพงคู่
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ใช้งานได้นาน
- ราคาคุ้มค่ากับสเปกที่ได้
ข้อสังเกต
- เครื่องไม่บาง
- ขอบจอหนา
แบตเยอะ ใช้งานนานทั้งวันแบบไม่ต้องกลัวหมด
ทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ให้แบตเตอรี่มาเท่ากันอยู่ที่ 5000 mAh คือสามารถใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวันเลย ซึ่งหลังจากที่ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% แล้วนั้น เราก็ได้นำทั้งคู่ออกไปถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ เล่นเกม ดูซีรีส์และมีช่วงพักเครื่องข้ามคืนบ้าง
โดย Galaxy A35 5G ใช้งานไปทั้งสิ้น 1 วัน 1 ชั่วโมง Screen On Time 4 ชั่วโมง 20 นาที แบตเตอรี่ลดเหลือ 19% ส่วน Galaxy A55 5G ใช้งานไปทั้งสิ้น 1 วัน 1 ชั่วโมง Screen On Time มากกว่า เป็น 5 ชั่วโมง 41 นาที แต่แบตเตอรี่ลดเหลือ 19% เท่ากันกับ Galaxy A35 5G
สรุปการใช้งาน
ทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ถือว่าเป็นสองมือถือพี่น้องรุ่นคุ้มค่าที่ทำเอาคนใช้งานเลือกยากเหมือนกันนะ เพราะว่าให้สเปกมาคุ้มค่าคุ้มราคาทั้งคู่เลยจริงๆ ในราคาหมื่นต้นๆ นี้คือใช้งานได้ตั้งแต่ชมคอนเทนต์ ทำงาน เล่นเกมเพลินๆ หรือสายทำคอนเทนต์ ชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ควรมีติดตัวไว้เลย เพราะวิดีโอ 4K ดีมาก จะแคปหรือครอป ก็สามารถนำไปใช้งานต่อได้เลยทันทีแถมตัวเครื่องยังกันน้ำกันฝุ่นด้วย จะทำคอนเทนต์เวลาไหน ที่ไหน ก็จัดเต็มได้เลย
และที่สำคัญเลยคือทั้งสองรุ่นได้มีการยกระดับความปลอดภัยด้วยแพลตฟอร์ม Knox Vault EAL5+ ที่จะป้องกันการโจมตีฮาร์ดแวร์, ข้อมูลสำคัญ, แจ้งเตือนและบล็อกทันทีเมื่อมีการโจมตีทางฮาร์ดแวร์ภายนอก โดย Samsung ดูแลให้อย่างต่อเนื่อง อัปเดตระบบปฏิบัติการ Android นาน 4 เวอร์ชั่น และแพทช์รักษาความปลอดภัยนาน 5 ปี ด้วย
ราคาจำหน่าย
Galaxy A35 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Awesome Iceblue, สีม่วง Awesome Lilac, สีกรม Awesome Navy วางขายในรุ่นความจุ 8GB + 128GB ราคา 11,999 บาท
ส่วน Galaxy A55 5G มีทั้งหมด 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีฟ้า Awesome Iceblue, สีม่วง Awesome Lilac, สีกรม Awesome Navy วางขายในราคาและความจุ ดังนี้
- 8GB + 128GB ราคา 13,999 บาท
- 12GB + 256GB ราคา 15,999 บาท
โปรโมชั่นช่วงเปิดตัว ตั้งแต่วันที่ 11 – 31 มีนาคม 2567
พิเศษ! เฉพาะ Galaxy A55 5G รับโปรโมชั่นแรง 2 ต่อ มูลค่ารวม 2,500 บาท
- ต่อที่ 1 : ฟรีทันที! RAM และ ROM อัปเกรดจาก 8/128GB เป็น 12/256GB
- ต่อที่ 2 : ส่วนลดเพิ่ม 500 บาท จ่ายเพียง 13,499 บาทเท่านั้น ก็รับเครื่องความจุ 12/256GB ไปเลย
สแกนนิ้วข้างเครื่องไม่ใช่เหรอครับ เห็นลง ใต้จอทั้งสองรุ่น
ไม่ยักก็มีช่องไหนพูดถึงสแกนเลยว่า บนจอหรือข้างจอ อีกช่องบอกข้าง มึนๆ
จากที่ทดสอบเครื่องเป็นสแกนนิ้วใต้จอทั้งสองรุ่นค่ะ
ดูเวบนอก ชัดเจน สแกนขอบเครื่อง
ขอบคุณครับ คือ แต่ละช่อง แทบไม่พูดถึงสแกนนิ้ว ช่องไทย ที่เจอ ก็มี ทั้งขอบข้างกับใต้หน้าจอ ช่องเมืองนอกก็ขอบเครื่องเลย งง
กล้องถ่าย 4K ดีกว่าเรือธงจีนอีก 😅