สวัสดีเพื่อนๆสมาชิก Droidsans ทุกท่าน พบกันอีกแล้วกับบทความรีวิวมือถือนะครับ วันนี้ขออนุญาตแนะนำหนึ่งในมือถือระดับกลางที่กำลัง hot สุดๆอย่าง Samsung Galaxy A7 (2016) ที่มีการอัพเกรดตัวเองจาก Galaxy A7 รุ่นเดิมของปีที่แล้วไปพอสมควรเลยทีเดียว โดยงานออกแบบจะหรูหรามากขึ้นใก้ลเคียงกับมือถือเรือธง พร้อมสเปกเครื่องและกล้องถ้ายรูปที่ดีขึ้นเช่นกัน ด้วยราคา 15,900 บาท ทำให้มือถือรุ่นนี้น่าสนใจสำหรับคนทั่วไปได้ไม่ยาก เรามาลองดูรายละเอียดกันครับ
Samsung Galaxy A7 (2016) เป็นมือถือในตระกูล A series ของปี 2016 ที่วางจำหน่ายในไทย 2 รุ่นด้วยกันคือ A7 (2016) หน้าจอ 5.5 นิ้วและ A5 (2016) หน้าจอ 5.2 นิ้ว สานต่อจากรุ่นพี่ A7 และ A5 ที่เคยสร้างยอดขายไว้ดีมากเมื่อปีที่แล้ว โดย A series ของปีนี้จะมาเติมช่องว่างมือถือระดับกลางราคาไม่สูงมาก แต่ได้งานออกแบบที่หรูหราดั่งเรือธง และสเปกที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โดยชื่อที่ใช้เรียกบนกล่องนั้นจะชื่อว่า “Samsung Galaxy A7(6)” เพื่อกันความสับสนกับรุ่นเดิมที่ชื่อว่า Galaxy A7 เหมือนกัน สำหรับ Galaxy A5(6) ก็ทำนองเดียวกัน ใครสนใจเวลาไปซื้อก็เช็คชื่อรุ่นบนกล่องดีๆด้วยนะครับ จะได้ซื้อไม่ผิดรุ่น
ในกล่องมีอะไร เช็คของให้ครบ
เนื่องจากเครื่อง Galaxy A7 (2016) ที่ทาง Samsung ส่งมาให้เว็บรีวิวนั้นไม่มีกล่องมาให้ด้วย เลยไม่ได้แกะกล่องให้ดูนะครับ แต่เท่าที่หาข้อมูลได้แพ็คเกจขายจริงของ Samsung Galaxy A7 (2016) ต้องประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
ตัวเครื่อง Galaxy A7 (2016)
สาย USB
Fast Charge Adaptor 2A
หูฟัง smalltalk
เข็มจิ้มซิม
คู่มือ Quick Start Guide
microSD card ขนาด 32GB ของ Samsung รุ่น EVO+ Class 10 UHS-1
เช็คของให้ครบก่อนออกจากร้านนะครับ
สเปกของ Samsung Galaxy A7 (2016)
สำหรับ Galaxy A7 (2016) นั้นมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ใช้หน่วยประมวลผล Exynos 7580 และ RAM 3GB ถือว่าจัดสเปกมาพอดี ไม่ขาดไม่เกินสำหรับมือถือ mid-range ยุคนี้ แต่ถ้าเทียบกับ Galaxy A7 รุ่นเดิม ก็ถือว่ามีอะไรเพิ่มขึ้นมาเยอะเหมือนกันครับ รายละเอียดสเปกอื่นๆเป็นดังนี้
ชื่อและรหัสเครื่อง : Samsung Galaxy A7 (2016) : SM-A710FD
สัดส่วน : 151.5 x 74.1 x 7.3 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 169 กรัม
หน้าจอ : Super AMOLED 5.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD 1920×1080 พิกเซล
เครือข่ายที่รองรับ:
4G : LTE FDD 800 / 850 / 900 / 1800 / 2100 / 2600 , TDD 2300
3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100
2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
SIM : 2 SIM แบบ Nano-SIM
CPU : Exynos 7580 1.6GHz Octa-core 64-bit
GPU : Mali-T720
RAM : 3GB
หน่วยความจำภายใน : 16GB รองรับ microSD สูงสุด 128GB
กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS, LED flash และ Autofocus
แบตเตอรี่ : 3300mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)
OS : Android 5.1.1 Lollipop พร้อม TouchWiz UX
NFC : มี
OTG : มี
ไฟแจ้งเตือน: ไม่มี
เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:
รองรับ ANT+
A-GPS, GLONASS, Digital compass
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n 2.4+5GHz, HT40
Bluetooth 4.1 LE, A2DP
microUSB 2.0
หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบสัมผัส Touch sensor
Accelerometer, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor
งานออกแบบตัวเครื่อง
Samsung Galaxy A7 (2016) นั้นมีการปรับปรุงงานออกแบบจากรุ่นเดิมมาพอสมควร โดยรวมงานออกแบบรอบนี้จะดูคล้ายกับ Galaxy S6 พอสมควร ซึ่งก็ดูจะเป็นแนวทางที่ Samsung ทำอยู่บ่อยๆคือ การนำเอางานออกแบบของมือถือเรือธงมาใช้งานในมือถือระดับรองลงมา อานิสงตกอยู่ที่ผู้ซื้อที่งบไม่ถึงมือถือสองหมื่น แต่อยากได้มือถือหน้าตาแบบนั้นบ้าง Samsung ก็จัดให้ตามนั้น แต่ก็ไม่ใช่จะยกมาทั้งยวง Galaxy A7 (2016) ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่เปลี่ยนไป
จุดเด่นอย่างแรกคือ การใช้กระจกโค้ง 2.5D Gorilla Glass 4 ประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่อง พร้อมด้วยเฟรมที่เป็นโลหะทั้งหมดแบบเดียวกับ Galaxy S6 ทำให้สัมผัสได้ถึงความพรีเมียมของมือถือรุ่นนี้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความรู้สึกที่ดีมาก นอกจากนั้นความโค้งทั้งส่วนกระจกและการตัดขอบโลหะที่เข้ากันดีทำให้การจับถือมือถือรุ่นนี้เข้ามือดีมาก แต่เนื่องจากมันเป็นกระจกทั้งสองด้านทำให้ค่อนข้างลื่นพอสมควร ตอนอยู่ในมือไม่ลื่นมาก แต่ตอนวางบนของอย่างอื่นที่ไม่ระนาบนั้นให้ระวังเครื่องไหลให้ดีครับ
กระจกโค้ง 2.5D Gorilla Glass 4
เฟรมโลหะพรีเมียมแบบเดียวกับ Galaxy S6
ส่วนน้ำหนัก 172 กรัมนั้นถือว่าไม่เบา แต่ไม่หนักจนเกินไป กลับทำให้รู้สึกว่ามือถือมีราคาซะอีกครับ โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาหลักๆ น่าจะเป็นเพราะแบตเตอรี่ขนาด 3300mAh ที่เพิ่มจากของเดิม 2600mAh รวมไปถึงน้ำหนักวัสดุที่เปลี่ยนไปอีกนิดหน่อย ลองมาดูรอบๆตัวเครื่องกันครับว่ามีอะไรบ้าง
ด้านหน้าของ A7 (2016) นั้นมีการปรับเปลี่ยนไปพอสมควร โดยตอนนี้ปุ่ม Home จะถูกฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาด้วย และหน้าจอแสดงผลนั้นก็เกือบจะชิดขอบทั้งสองด้าน แบบเดียวกับ Galaxy A8 เลย
ส่วนบนของหน้าจอประกอบด้วย เซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์ Proximity, ลำโพงสนทนา และกล้องหน้า
ส่วนล่างเป็นปุ่ม 3 ปุ่มตามมาตรฐานมือถือ Android ปุ่มซ้ายเป็น Recent ปุ่มขวาเป็น Back ส่วนตรงกลางเป็นปุ่ม Home ที่สแกนลายนิ้วมือได้
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมค์ตัดเสียงอยู่ทางซ้าย ส่วนทางขวาจะเป็นรูของถาดซิม SIM 2 ครับ สำหรับแถบคาดสีขาวนั้นเป็นช่องรับสัญญาณโทรศัพท์จากภายนอก
ด้านล่างของตัวเครื่องจะดูเยอะหน่อย ประกอบด้วยไปด้วยช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ช่องเสียบสาย USB, ลำโพงเสียงเรียกเข้าและเสียงเตือน และรูเล็กๆนั่นคือ ไมโครโฟนครับ
ด้ายซ้ายของตัวเครื่อง จะมีปุ่มปรับเสียงอยู่ตามสไตล์ของ Samsung โดยเป็นปุ่มธรรมดาไม่ใช่ Volume rocker นะครับ
ด้านขวามีปุ่ม Power กับช่องสำหรับถาด SIM1 และ microSD card
เมื่อเราจิ้มถาดซิมออกมาทั้งสองด้านก็จะเป็นประมาณนี้ครับ ด้านบนสำหรับ SIM2 ด้านขวาสำหรับ SIM1 และ microSD card แยกกันชัดเจน ใช้ 2 SIM พร้อม microSD card ได้เลย
พลิกมาดูด้านหลังของตัวเครื่องกันดีกว่า ด้านหลังก็เป็นกระจก Gorilla Glass 4 เหมือนด้านหน้าเลยครับ
ด้านหลังก็จะมีกล้องกับ LED Flash โดยตัวโมดูลกล้องนั้นนูนออกมาเล็กน้อย
Samsung Galaxy A7 (2016) มีอยู่ทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ ดำ, ขาว, ทอง และชมพู สำหรับเครื่องรีวิวเป็นรุ่นสีทอง ซึ่งช่วงแรก Samsung ประเทศไทยวางจำหน่ายเพียง 3 สีคือ ดำ,ขาว และทอง ส่วนสีชมพูนั้นจะมีแต่ของ Galaxy A5 (2016) ครับ อ้อ มีรายละเอียดอย่างหนึ่งที่ต้องบอก ด้านหน้าของทุกรุ่นจะเป็นสีดำทั้งหมด ยกเว้นรุ่นสีขาวที่จะเป็นสีขาวตรงกับรุ่นครับ
หน้าจอ Super AMOLED ที่ดีกว่าเดิม
Samsung Galaxy A7 (2016) มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080p คิดเป็นค่าความหนาแน่นของพิกเซลที่ 401ppi ซึ่งโดยรวมก็ดูเหมือนกับ Galaxy A7 ของปีที่แล้ว แต่จริงๆแล้วหน้าจอมีความสว่างมากขึ้นสูงสุดถึง 536 nit และลดลงได้ต่ำสุดถึง 2 nit (ข้อมูลจาก GSMArena) เรียกว่าไม่รบกวนสายตาเวลานอนเล่นในห้องมืดๆเลยครับ ส่วนเรื่องสีสันนั้นก็จัดจ้านตามสไตล์ Super AMOLED อยู่แล้วรวมไปถึงสีดำที่ดำสนิท ทำให้ภาพชัดเจนแบบหายห่วง
สำหรับคนที่ไม่ชอบสีสันจัดจ้านของหน้าจอ Super AMOLED ก็สามารถไปปรับค่า Screen mode ที่อยู่ใน Settings ได้นะครับ โดยโหมดที่ค่าสีตรงกับความจริงที่สุดคือ โหมด Basic นั่นเอง
ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 และ TouchWiz UX
Samsung Galaxy A7 (2016) มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนคาดกันว่ารุ่นนี้อาจจะมาพร้อม Android 6.0 Marshmallow เพราะนี่มันปี 2016 แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังเป็น Lollipop อยู่ อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวก็คงจะมีอัพเดต Android 6.0 ตามมาในภายหลังแน่นอน
Homescreen
และก็เหมือนเคยสำหรับสมาร์ทโฟน Android ของ Samsung ที่ต้องมาพร้อมกับระบบซอฟต์แวร์ TouchWiz ที่ครอบทับตัว Android OS อีกที ซึ่ง TouchWiz นั้นก็ผ่านอะไรมามากมายและได้รับการปรับปรุงหลายครั้ง โดยรอบนี้ TouchWiz เป็นเวอร์ชันใหม่ที่พัฒนาต่อมาจากของ Galaxy S6 ในปีที่แล้ว ซึ่งโดยรวมการใช้งานไม่ต่างกันครับ แต่ถ้าเทียบกับของ Galaxy A5 (2016) สิ่งที่ต่างกันคือ Homescreen ของ A7 จะมีได้สูงสุด 5 คอลัมน์ครับ
Notification shade
ส่วนของแถบแจ้งเตือน (Notification shade) จะประกอบด้วย ปุ่มเปิดปิด (Quick Toggles) ต่างๆ เช่น Wi-Fi, GPS, Sound, Bluetooth และอื่นๆ โดยจะเรียงเป็นแถวเดียวกันไป แล้วค่อยเอานิ้วเลื่อนดูอันอื่นๆอีกที ถัดลงมาเป็นแถบเลื่อนปรับความสว่างหน้าจอ และล่างสุดเป็นปุ่ม S Finder และ Quick connect ซึ่งถ้ากด EDIT ก็จะสามารถปรับเพิ่มลดปุ่ม Quick Toggles ได้เอง รวมถึงการซ่อนปุ่ม S Finder และ Quick connect ด้วยครับ
Theme Store
ระบบ Theme ของมือถือรุ่นนี้เรียกได้ว่า “จัดเต็ม” ยกเอาของ Galaxy S6 มาทั้งกระบิ มี Theme Store ให้เลือก download มาใช้งานได้มากมายทั้งแบบฟรีและเสียตังค์ เรียกว่าคนที่เคยน้อยใจกับ A7 ปีที่แล้วที่มี Theme มาให้ใช้แค่ 4-5 อัน โหลดเพิ่มก็ไม่ได้ มาคราวนี้มีให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวเลยครับ แถมมี Theme เฉพาะของ A series มาใช้กันอีกด้วย
ความพิเศษของระบบ Theme ใน TouchWiz คือ มันไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนภาพ wallpaper และไอคอนของแอพบนหน้า Homescreen เท่านั้น แต่มันจะเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของทั้งระบบเลย ไม่ว่าจะเป็น Lockscreen, Widget, Font, Notification และ Settings รวมไปถึงหน้าตาของพวก app พื้นฐาน เช่น Phone, Contacts, Message, Calculator, Clock หรือ Calendar เปลี่ยนหน้าตาได้หมด รวมไปถึงเสียงตอนกด Keyboard ด้วยอีกต่างหาก ลองมาดูตัวอย่างของ Theme แบบต่างๆกันครับ
Hams_Valentainday
HappyHappyNewYear
Pink_Molang
จะเห็นได้ว่าตัว Theme นั้นจะถูกนำไปใช้กับแทบทุกส่วนของ Interface เลยทีเดียว นอกจากนั้นแต่ละแบบก็ทำออกมาได้อย่างมีคุณภาพ การจัดวาง,ขนานไอคอน,ตัวหนังสือ,ภาพพื้นหลัง ล้วนดูเข้ากันเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรโดดหรือให้ความรู้สึกว่าเพี้ยนไป เป็นระบบ Theme ที่ดีจริงๆครับ
Multi-Window
ด้วยหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Samsung Galaxy A7 (2016) ก็ยังคงรองรับฟีเจอร์ Multi-Window ที่เป็นการแบ่งครึ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 App พร้อมๆกันได้เลย เรียกว่าเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของมือถือ Samsung เลยล่ะ โดยการแบ่งครึ่งหน้าจอสามารถทำได้ 2 แบบคือ
กดปุ่ม Recents ด้านซ้ายเพื่อเปิดหน้าสลับ App ขึ้นมา จากนั้นเลือก App ตัวแรกโดยแตะที่เครื่องหมาย “สี่เหลี่ยม 2 อัน” แบบที่วงกลมไว้ในรูปของแอพนั้น แล้วจึงค่อยเลือก App ตัวที่สองอีกที
เปิดแอพที่ต้องการแบ่งครึ่งหน้าจอ จากนั้น “กดปุ่ม Recents ค้างไว้” แล้ว App จะหดตัวเหลือแค่ครึ่งหน้าจอ จากนั้นจึงค่อยเปิด App ตัวที่สองต่อไป
ประสิทธิภาพและการใช้งานแบตเตอรี่
สำหรับ Galaxy A7 (2016) นั้นเลือกใช้ CPU เป็น Exynos 7580 1.6GHz Octa-core 64-bit ซึ่งเป็น CPU สำหรับมือถือตลาดกลางหรือ mid-range ทั่วไป และก็เป็น CPU ตัวเดียวกับ Galaxy J7 แต่ความเร็วสัญญาณนาฬิกามากกว่า โดยของ J7 จะวิ่งที่ 1.5GHz แต่ RAM 3GB ก็เป็นตัวช่วยเรื่องประสิทธิภาพของมือถือรุ่นนี้ให้เพิ่มขึ้นไปอีก โดยจากการทดสอบด้วย Antutu, Geekbench 3 และ 3DMark ได้ผลคะแนนดังนี้
Antutu Benchmark
Geekbench 3
3DMark : Ice Storm Extreme
จากคะแนน Benchmark ที่ได้นั้นพอบอกได้ว่า Galaxy A7 (2016) จัดอยู่ในระดับมือถือ mid-range ทั่วไปไม่ได้เด่นมากนัก แต่จากการใช้งานจริงพบว่าตัวระบบทำงานได้ลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดให้เห็นสักเท่าไหร่นัก มีจังหวะหน่วงบ้างตอนที่เล่นอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะ Chrome นั้นดูกระตุกผิดปกติ แต่ถ้าเล่นกับ Browser ของ Samsung จะลื่นกว่ามาก ส่วนการเล่นเกมส์ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของ GPU Mali-T720 นั่นแหละ โดยรวมแล้วไม่ผิดหวังสำหรับเรื่องประสิทธิภาพ
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ที่ให้มา 3300mAh นั้นถือว่า “อึดใช้ได้เลย” เท่าที่ผมได้ลองทดสอบมา 2-3 วันพบว่า สามารถใช้งานข้ามวันได้สบายๆ ไม่ว่าวันมามาก วันมาน้อย ก็เอาอยู่ครับ ถอตสายชาร์จ 7.30 น. กลับถึงบ้าน 20.00 จะเหลือแบตเตอรี่ 40% เลยทีเดียว การใช้งานที่ผมทำประจำคือ เล่น Facebook, Line, Internet, Youtube และ Joox Music เป็นหลัก แล้วก็มีการถ่ายภาพถ่ายวิดีโอบ้างเป็นครั้งคราว ได้กราฟการใช้แบตแตอรี่ออกมาอย่างที่เห็น ขอบอกว่า ประทับใจไม่เสียแรง 3300mAh
นอกจากนั้น A7 (2016) ยังมีระบบชาร์จเร็ว Fast charging มาให้ด้วย เสียดายไม่ได้ให้ Fast Charge Adapter มาทดสอบด้วย ไม่งั้นคงได้เห็นกันว่าชาร์จเร็วจริงหรือเปล่า
กล้องถ่ายรูปและตัวอย่างภาพถ่าย
Samsung Galaxy A7 (2016) มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เลนส์มีค่า aperture f/1.9 และระบบกันสั่น OIS เรียกว่าจัดสเปกมาได้ใกล้เคียงมือถือเรือธงอย่าง Galaxy S6 เลยครับ นอกจากนั้นยังสามารถ “กดปุ่ม Home 2 ครั้ง” เพื่อเป็นคีย์ในการเปิดกล้องถ่ายรูปได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย สำหรับ UI ของกล้องนั้นก็จะเหมือนของ Galaxy S6 เลยครับ สามารถเลือกโหมด ปรับค่าความละเอียดรูป ตั้งเวลาถ่าย หรือใส่ effect ต่างๆได้เหมือนกัน
โหมดกล้องเริ่มต้นที่มีมาให้เล่นก็ได้แก่ Pro, Panorama, Continuous shot, HDR และ Night
นอกจากนั้นก็ download โหมดถ่ายรูปเพิ่มได้อีกตามรูป
สำหรับ โหมด Pro นั้นปรับค่าอะไรไม่ได้มาก มีเพียง White balance, ISO และ EV เท่านั้น ก็พอๆกับโหมด Pro ของมือถือทั่วไป
ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังกันครับ ทุกภาพถ่ายด้วยโหมด Auto ไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น
อัลบั้มเต็ม
สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้นสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p @ 30fps ซึ่งคุณภาพของวิดีโอถือว่าดีเกินคาด เสียงที่อัดมาก็ชัดเจนไม่อู้อี้ ถือว่าน่าพอใจสำหรับในส่วนการถ่ายวิดีโอของมือถือรุ่นนี้
ส่วนกล้องหน้าจัดมาให้ที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถือว่าพอดีๆสำหรับการ Selfie คุณภาพก็โอเคสำหรับกล้องหน้า โดยกล้องจะเปิดโหมด Beauty มาให้เลยตั้งแต่ต้น แต่เราก็สามารถปรับค่าความขาวความเนียนได้เองตามใจชอบเลยครับ
No Beauty
Beauty
คุณภาพโดยรวมของกล้องหน้าและกล้องหลังของ Galaxy A7 (2016) ถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนพอสมควร สิ่งที่ดีขึ้นของรุ่นนี้คือการอัพเกรดเลนส์กล้องไปเป็น f/1.9 ทำให้รับแสงได้มากขึ้น พร้อมทั้งระบบกันสั่นแบบ OIS ที่เป็นที่ยอมรับว่าเข้ามาช่วยการถ่ายภาพได้มาก คือมือไม่ต้องนิ่งมาก ภาพก็สวยได้เลย ถ่ายง่าย ถ่ายเร็ว และไม่เบลอ
บทสรุป
Samsung Galaxy A7 (2016) หนึ่งในมือถือตระกูล A ที่จะมาสานต่อความสำเร็จในตลาดมือถือ mid-range เมื่อปีที่แล้ว มีการปรับปรุงมาในหลายส่วน เริ่มตั้งแต่งานออกแบบที่หรูหราพรีเมียมมากขึ้น เรียกว่าสะดุดตาและน่าจะถูกใจใครหลายคน สเปกที่มีการอัพเกรดและเพิ่มมาหลายอย่าง เช่น RAM 3GB และระบบสแกนลายนิ้วมือ ประสิทธิภาพของเครื่องทำได้ดี ใช้งานลื่นไหล ไม่มีปัญหา กล้องที่ดีขึ้นทั้งในเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอทั้งกลางวันและกลางคืน และแบตเตอรี่ 3300mAh ที่อึดข้ามวัน แถมยังมีระบบชาร์จเร็วมาให้อีก เราพอจะสรุปเป็นข้อๆได้ดังนี้
จุดเด่น
งานออกแบบและงานประกอบระดับมือถือเรือธง
หน้าจอ Super AMOLED แสดงสีสันสวยงาม และคมชัด
แบตเตอรี่อึดใช้งานข้ามวันสบายๆ
ระบบ Theme ที่สมบูรณ์แบบของ TouchWiz
สแกนลายนิ้วมือรวดเร็ว
จุดที่ควรปรับปรุง
ลำโพงเสียงดี แต่ไม่ดังพอ
กล้องหลังยังถือว่านูนพอสมควร
มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพกับ Chrome browser
อย่างที่บอกไปตอนต้น Samsung Galaxy A7 (2016) วางจำหน่ายแล้วในราคา 15,900 บาท มีทั้งหมด 3 สีคือ ดำ, ขาว และทอง ซึ่งราคาระดับนี้กับสเปกที่ได้หลายคนอาจจะบอกว่าแพง ถ้านำไปเทียบกับแบรนด์อื่นโดยเฉพาะแบรนด์จากจีนทั้งหลายแหล่ แต่ถ้ามองที่หน้าตา งานออกแบบ และระดับแบรนด์ของ Samsung ก็ถือว่าทำราคามาได้น่าสนใจสำหรับคนทั่วไป และรุ่นนี้ก็น่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีอีก 1 รุ่น แต่จริงๆเพิ่มตังค์อีกนิดก็จะได้ Galaxy S6 แล้วนะ อิอิ สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ทางเว็บเราก็มีบทความเปรียบเทียบและรีวิวของมือถือ A series ให้อ่านกันได้อีก ลองตามอ่านกันได้เลย สำหรับผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
– พรีวิว Samsung Galaxy A5 (2016) และ Galaxy A7 (2016
– [Review] รีวิว Samsung Galaxy A5 (2016) ปรับดีไซน์ใหม่ไฉไลกว่าเดิม พร้อมตัวสแกนลายนิ้วมือ
– เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A5 (2016) และ Galaxy A7 (2016) ซื้อรุ่นไหนดี ?
– เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A5 (2016) และ Galaxy A7 (2016) กับสมาร์ทโฟนงบประมาณ 15,000 บาท
ขออนุญาตถามหน่อยครับ
1. กล้องมี OIS ทั้งหน้า-หลังเลยหรือเปล่าครับ ?
2. เรื่องกล้องหากเทียบกับ Zenfone Selfie แล้วคิดตัวไหนดีกว่าครับ ?
ขอบคุณครับ…
1. OIS มีที่กล้องหลังอย่างเดียวครับ
2. ถ้ากล้องหน้าก็ ZenFone Selfie ชนะไปเพราะ 13MP และมี Flash ด้วย ถ้ากล้องหลังผมให้ A7 ข่มนิดๆ
คิดว่าเรื่องราคา 15900 ค่ะ ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ 10 เดือน ไม่แพงนะคะ ลองดูที่นี่ค่ะ http://bit.ly/galaxy-a7-sales
.
หรือ ซื้อสดลองใช้โค้ดลดได้เยอะอยู่ค่ะ http://bit.ly/lazada-coupon-code
.
ไปลองจับตัวจริงมาแล้ว ดูดีจริงๆครับ งานประกอบแน่นปั้กๆ กระจกหน้าหลังทำให้ดูดีอีกเป็นกอง ที่จะติคือ ทำไมไม่ทำสีด้านหน้ากับด้านหลังให้เหมือนกัน (ยกเว้นสีขาว) ส่วนกล้องก็โทนสีตามแบบฉบับซัมซุงเค้าล่ะครับ
งานประกอบเที่ยวนี้ปั้กจริงๆครับ Samsung กระจกโค้งก็ดูดี แต่ต้องทำใจสำหรับคนชอบติดฟิล์มกันรอย โดยเฉพาะฟิล์มกระจก ติดแล้วกลายเป็นแบบนี้เลย
อยากให้ลองเอามือถือเก่าอย่าง Nokia 808 Pureview มาถ่ายรูปเปรียบเทียบกันหน่อย อยากรู้ว่าจะต่างกันแค่ไหน
จริงๆ ราคาพิกัดนี้ คนซื้อจะคิดเยอะมากครับ หมื่นกลางๆ
คนใช้ทั่วๆไปไม่คิดมากหรอกครับ ตัวเลือกในใจมีไม่กี่ยี่ห้อก็รู้ๆกันอยู่ว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง 555
ส่วนคนที่คิดมากนี่มีไม่เยอะ
แวะเข้ามาขอ wallpaper ครับ 555
สวยๆชอบๆ
ขอบคุณๆ
Wallpaper มันอยู่ใน ROM อะ เอาออกมาไม่ได้ครับ
ซัมซวยเป็นมือถือที่คนซื้อ ใช้อารมมากกว่าเหตุผล สสะส่วนใหญ่
แถมแพด้วยนะเออ เอาไว้พายกลับบ้านเก่า เวลาเขาไม่สนใจ อัพเดท software
เห็นมาหลายที
คุณอยากจะวิจารณ์ Samsung ว่า spec. ไม่ดี บริการไม่ดี ไม่ถูกใจคุณ ผมไม่มีปัญหา
แต่นี่ล้ำเส้นไปวิจารณ์คนอื่นที่เลือกซื้อสินค้า Samsung ว่าโง่บ้างละ ใช้แต่อารมณ์บ้างละ
คุณคิดว่าตัวเองเก่งตัวเองฉลาดอยู่คนเดียวหรือไง
ปล. พวกคลั่งการเมืองนี่ทำไมชอบดูถูกคนที่คิดต่างๆนะ
ถ้าใช้้หตุผล ควรเลือกยี่ห้อไหนดีครับ
ทั้ง A5 และ A7 2016 มีไฟ LED Notification ไหมครับ
ไม่มีครับ
เมื่อวานไปดูตัวจริงมาละ สวยดีจริงๆ สวยกว่า S ซี่รี่ด้วยซ้ำ
รวมถึงภาพ render s7 ( ล่าสุดอีก)
อยากให้มันสลับดีไซต์กันจริงจิ๊งงง A ซีรี่ กับ S ซีรี่เนียะ อุตส่าห์รอ -*-
ถ้าเป็นผู้หญิงสายมุ้งมิ้ง feature Theme นี่ชนะขาดเลย
รีวิวละเอียดดีครับ มาพร้อมพวกชอบป่วนเหมือนเดิม
รูปถ่ายกลางคืนหมู่บ้านเดียวกันเลย
ราคาหมื่นกลาง ๆ อยากให้เอามาเปรียบความคุ้มค่ากับพวก
Lenovo Vibe X3
Oppo R7+ R7s
และอื่น ๆ ที่ราคาใกล้เคียงกัน
รีวิวละเอียดมากครับ สมเป็นมืออาชีพ
โดยรวม สวยดีน่าใช้
แต่ดันกั๊ก ไฟ LED (อีกแล้ว)
ราคานี้ผมว่า Lenovo Vibe x3 น่าใช้กว่า
.
กล้องหน้าไม่สวยเลย
Ram 3GB ใช้งานจริงเหลือเท่าไหร่ครับ ??
ขอโทษนะคะ อยากทราบว่า
ทำไมของดิฉันไม่มี multi windows
โทรศัทพ์รุ่น A7 2016
แต่เล่นเกมไม่ไหวเลย กระตุกจนน่าเกลียด นี่โทรศัพท์ราคาหมื่นห้า??????? ใช้ได้สองวันกลับไปใช้S5เครื่องเก่าเลย ยกให้แม่ไป อาจเป็นเพราะ T720 ไม่เข้ากับ จอfull hd ก็เป็นได้